ศูนย์ข่าวภาคใต้ - “สมบูรณ์ คำแหง” โพสต์เฟซบุ๊กถาม จนท.รัฐตามจับ “บังเดีย” นักอนุรักษ์ชื่อดัง และผู้บุกเบิกโครงการ “ธนาคารปูม้า” ที่สร้างชื่อเสียงให้ จ.ตรัง ถูกแจ้งข้อหาบุกรุกป่าชายเลน เรื่องจริงหรือถูกรังแก?
จากเฟซบุ๊กของ นายสมบูรณ์ คำแหง ในชื่อ “Somboon Khamhang” ได้โพสต์ถึงเรื่องราวของ “บังเดีย” นักอนุรักษ์ชื่อดัง และผู้บุกเบิกโครงการ “ธนาคารปูม้า” ที่สร้างชื่อเสียงให้ จ.ตรัง ถูกแจ้งข้อหาบุกรุกป่าชายเลน ถามนี่เรื่องจริงหรือถูกรังแก? โดยระบุว่า...
เปิดใจ “บังเดีย” นายหลงเฝียะ บางสัก นักอนุรักษ์ผู้สร้างรูปธรรมการฟื้นฟูทะเลตรัง โดนถูกจับกุมข้อหาบุกรุกต่อเติมอาคารศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน
จากประสบการณ์ทำงานอาสาชุมชนท้องถิ่นมานานกว่า 30 ปี เช่น
- พ.ศ.2535 ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านน้ำราบ ร่วมต่อสู้กับเรืออวนรุนจนหมดพื้นที่
- พ.ศ.2548 จัดตั้งป่าชายเลนชุมชน มีกติกา ห้ามตัดไม้เชิงพาณิชย์ ร่วมปลูกป่าฟื้นฟูเป็นประจำทุกปี จัดเวรยามลาดตระเวน เฝ้าระวัง จับกุมนายทุนที่ลักลอบตัดไม้เพื่อเผาถ่าน
- พ.ศ.2549-2550 (จนปัจจุบัน) #จัดทำพื้นที่แนวเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนสี่หมู่บ้าน (เขตเล-เสบ้าน) ร่วมกับชุมชนเกาะมุกด์ ควนตุ้งกู และฉางหลาง
- กติกาห้ามเครื่องมือประมงที่ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อน เครื่องมือประมงที่เป็นอันตรายต่อพะยูน และหญ้าทะเล จนเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ
- พ.ศ.2550-ปัจจุบัน จัดกิจกรรมอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรประจำปีละ 2 ครั้ง
- ปลูกป่าชายเลน ปลูกหญ้าทะเล ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และกิจกรรมเยาวชน ผู้เข้าร่วมกว่า 500 คนต่อครั้ง ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้า เพาะหญ้าทะเล เป็นแหล่งเรียนรู้ และศึกษาดูงานของคนไทยและต่างประเทศ
- พ.ศ.2559 จัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจท่องเที่ยวชุมชนบ้านน้ำราบ ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ล่องแพ ปีนเขาจมป่า ปลูกหญ้าทะเล ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ให้ความรู้เรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรแก่นักท่องเที่ยว เน้นการท่องเที่ยวปลอดขยะ พลาสติกและโฟม และขวดน้ำพลาสติก
ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ได้เป็นแหล่งเรียนของคนทั่วไป ทั้งในและต่างประเทศ จนเป็นหน้าตาของจังหวัดตรัง ที่เคยต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และผู้มีชื่อเสียงจำนวนมาก รวมถึงเคยต้อนรับคณะรัฐมนตรีจากกระทรวงต่างๆ ที่ลงพื้นที่เยี่ยมชุมชนประมงพื้นบ้านหลายต่อหลายครั้ง จนเป็นที่ประจักษ์แก่คนทั่วไป
“บังเดีย” เป็นนักต่อสู้ที่เสียสละเวลาเพื่อปกป้องทรัพยากรอย่างแท้จริง เป็นคนตรงไปตรงมา รักศักดิ์ศรี และมักไม่ก้มหัวให้แก่ใคร ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน จึงมีคำพูดที่ออกมาจากปากเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนว่า “บังเดีย อยู่ไม่เป็น”
การจับกุมบังเดียในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานรัฐยังติดกรอบระบบอำนาจสั่งการ ที่ยังต้องการอยู่เหนือชุมชน ห้ามชุมชนเข้มแข็งแซงหน้ารัฐ
นี่คือผลลัพธ์ของนักอนุรักษ์ผู้ตั้งมั่นเพื่อส่วนรวม ที่ไม่ได้ทำงานเพียงเพื่อเอาใจใครเท่านั้น และหากเขาถูกกลั่นแกล้งจากใครก็แล้วแต่ ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาปกป้องคนอย่างบังเดีย เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี และความเป็นธรรมให้คงอยู่ต่อไป