xs
xsm
sm
md
lg

เรือนจำกลางปัตตานีปล่อย 114 นักโทษ หลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ปัตตานี - เรือนจำกลางปัตตานี ปล่อยตัวผู้ต้องขังเข้าเงื่อนไขการพระราชทานอภัยโทษชุดแรก 114 คน สร้างความปลาบปลื้มดีใจให้แก่ญาติและผู้ต้องขัง ที่สามารถกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวอีกครั้ง

วันนี้ (15 พ.ค.) บรรยากาศที่หน้าเรือนจำกลางปัตตานี นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เป็นประธานในพิธีปล่อยผู้ต้องหาที่เข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษในชุดแรก จำนวน 114 คน ปี พ.ศ.2562 โดยมี นายศักดา ทาทองดี รักษาราชการแทน ผบ.เรือนจำกลางปัตตานี ตัวแทนผู้พิพากษา อัยการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธร ตัวแทนยุติธรรมจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ตัวแทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เข้าร่วมให้การต้อนรับ และร่วมเป็นเกียรติและสักขีพยาน
 

 
โดยส่วนใหญ่ผู้ต้องหาเป็นประเภทต้องจำที่ไม่สามารถเสียค่าปรับตามอัตราโทษ ในครั้งนี้ได้ การอภัยโทษในครั้งนี้มีทั้งคนไทยและชาวกัมพูชา ชาวเวียดนามที่ไม่สามารถเสียค่าปรับตามอัตราโทษ จึงได้รับการอภัยโทษในครั้งนี้ นอกจากนั้น ยังมีผู้ต้องหาคดีความมั่นคงเพียง 1 คน ที่ได้รับการอภัยโทษในโอกาสนี้ สร้างความปลาบปลื้มดีใจให้แก่ญาติที่มารอรับอย่างหาที่สุดมิได้

ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวแสดงความยินดีและขอให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกคน พึงระลึกเสมอว่า พระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ เสมือนให้โอกาสทุกคนได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ขอให้มุ่งมั่น ตั้งใจ ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความดีงาม มีความจงรักภักดีในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ตั้งปณิธานเป็นคนดีของสังคม ประเทศชาติ หมั่นศึกษาหาความรู้ เพื่อให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม รู้จักสามัคคี ซื่อสัตย์สุจริต ขยันอดทน จะส่งผลให้ทุกท่านมีชีวิตส่วนตนและครอบครัว ที่มีความผาสุกอย่างยั่งยืนต่อไป
 

 
ด้าน นายศักดา ทาทองดี รักษาราชการแทน ผบ.เรือนจำกลางปัตตานี ระบุว่า ยอดผู้ต้องขังในเรือนจำกลางปัตตานีมีจำนวน 2,852 คน โดยมีผู้ต้องขังที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดมากถึง 82 เปอร์เซ็นต์

นายมะรอนิง แลแม อายุ 41 ปี กล่าวว่า ปลาบปลื้มยินดีที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ โดยตนถูกปล่อยตัวก่อนกำหนดสามารถใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในการประกอบอาชีพอิสระสุจริตจากความรู้ที่ได้รับการอบรมทักษะการประกอบชีวิตช่วงอยู่ในเรือนจำ 12 ปีเศษ สามารถเรียนรู้การเชื่อมเหล็ก การทำขนมปาท่องโก๋ การตัดเย็บหมวกกะปิเยาะห์ เป็นต้น แต่สิ่งที่ตั้งใจอยากทำอาชีพมากที่สุดคือ เลี้ยงไก่ ไว้ขายที่บ้าน แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ คงต้องกลับถึงบ้านก่อน ต้องขอบคุณทางเรือนจำกลางปัตตานีที่ได้ให้ความสำคัญ พร้อมมอบโอกาสในการที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยมอบทุนประกอบอาชีพ 3 หมื่นบาท
 



กำลังโหลดความคิดเห็น