ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แทงดับเด็กเชียร์แขกซอยบางลา ป่าตอง หลังทะเลาะวิวาทกลางซอย ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยว ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัด สภ.ป่าตอง ไล่บี้ติดต่อมอบตัวทันควัน แต่ ถูก ตร.พังงา รวบได้ระหว่างทาง
เมื่อเวลา 21.51 น. คืนวันที่ 13 พ.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ สภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทมีคนถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านแห่งหนึ่งภายในซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.ปฏิวัติ ยอดขวัญ สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รอง ผกก.สส.สภ.ป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8
ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่ ที่พื้นถนนหน้าร้านดังกล่าวพบร่าง นายอนุเชษฐ์ ชันวิจิตร อายุ 42 ปี ที่อยู่ 6/1 ม.8 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงสามส่วนสีน้ำตาล ถูกแทงเข้าบริเวณท้องด้านขวา 1 แผล นอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตประจำจุดป่าตอง และชาวบ้านกำลังให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจก่อนนำส่งโรงพยาบาลป่าตอง เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่วด่วน ต่อมา ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นเด็กเชียร์แขกอยู่ภายในซอยบางลา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ยืนเชียร์แขกตามปกติ จากนั้นได้มีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อในภายหลังคือ นายปกรณ์ ป้องสีดา อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเด็กเชียร์แขกอยู่ภายในซอยดังกล่าวเช่นกัน ระหว่างนั้นทั้ง 2 คนมีปากเสียงและชกต่อยกัน แต่ผู้ก่อเหตุสู้ไม่ได้จึงใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมาแทงเข้าบริเวณท้อง 1 ครั้ง ก่อนหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในซอยตลอดเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และมีการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งได้นำแฟนสาวของผู้ก่อเหตุมาสอบปากเช่นกัน จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และอยู่ในเขตจังหวัดพังงา
ต่อมา พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รองผกก.สส.สภ.ป่าตอง ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพังงา ให้สกัดจับ ระหว่างนั้นได้ให้แฟนผู้ก่อเหตุติดต่อเพื่อให้กลับมามอบตัว ต่อมา ผู้ก่อเหตุตัดสินใจกลับมามอบตัว แต่ระหว่างทางที่เดินทางกลับได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพังงาจับกุมได้ในที่สุด และได้ควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.ป่าตอง
ขณะที่ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันทำงานลงพื้นที่เกิดเหตุและไปตรวจสอบบ้านพักของผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกจากจังหวัดภูเก็ตแล้ว ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดพังงา ให้ช่วยสกัดจับ และสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด
สำหรับมูลเหตุในก่อเหตุ พ.ต.อ.อโณทัย กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุและผู้ตายเป็นเด็กเชียร์แขกอยู่ภายในซอยบางลาด้วยกัน และทราบว่า ก่อนหน้านี้ทั้ง 2 คนมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้งเรื่องการแย่งแขกกัน และก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้มีปากเสียงกับแฟนสาวผู้ก่อเหตุ ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุเห็นจึงเข้ามาโต้เถียงและชกต่อยกับผู้ตาย แต่ผู้ก่อเหตุสู้ไม่ได้จึงได้ใช้อาวุธมีดแบบพับที่พกติดตัวแทงเข้าผู้ตาย 1 ครั้งและผู้ตายได้ล้มลง
ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีออกจากพื้นที่ จากนั้นได้นำมีดไปทิ้งที่สะพานสารสิน จากการสอบสวนยอมรับว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริงและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะแทงจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายถึงแก่ความตาย
เมื่อเวลา 21.51 น. คืนวันที่ 13 พ.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ สภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทมีคนถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านแห่งหนึ่งภายในซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.ปฏิวัติ ยอดขวัญ สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รอง ผกก.สส.สภ.ป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8
ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่ ที่พื้นถนนหน้าร้านดังกล่าวพบร่าง นายอนุเชษฐ์ ชันวิจิตร อายุ 42 ปี ที่อยู่ 6/1 ม.8 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงสามส่วนสีน้ำตาล ถูกแทงเข้าบริเวณท้องด้านขวา 1 แผล นอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตประจำจุดป่าตอง และชาวบ้านกำลังให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจก่อนนำส่งโรงพยาบาลป่าตอง เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่วด่วน ต่อมา ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นเด็กเชียร์แขกอยู่ภายในซอยบางลา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ยืนเชียร์แขกตามปกติ จากนั้นได้มีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อในภายหลังคือ นายปกรณ์ ป้องสีดา อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเด็กเชียร์แขกอยู่ภายในซอยดังกล่าวเช่นกัน ระหว่างนั้นทั้ง 2 คนมีปากเสียงและชกต่อยกัน แต่ผู้ก่อเหตุสู้ไม่ได้จึงใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมาแทงเข้าบริเวณท้อง 1 ครั้ง ก่อนหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในซอยตลอดเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และมีการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งได้นำแฟนสาวของผู้ก่อเหตุมาสอบปากเช่นกัน จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และอยู่ในเขตจังหวัดพังงา
ต่อมา พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รองผกก.สส.สภ.ป่าตอง ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพังงา ให้สกัดจับ ระหว่างนั้นได้ให้แฟนผู้ก่อเหตุติดต่อเพื่อให้กลับมามอบตัว ต่อมา ผู้ก่อเหตุตัดสินใจกลับมามอบตัว แต่ระหว่างทางที่เดินทางกลับได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพังงาจับกุมได้ในที่สุด และได้ควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.ป่าตอง
ขณะที่ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันทำงานลงพื้นที่เกิดเหตุและไปตรวจสอบบ้านพักของผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกจากจังหวัดภูเก็ตแล้ว ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดพังงา ให้ช่วยสกัดจับ และสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด
สำหรับมูลเหตุในก่อเหตุ พ.ต.อ.อโณทัย กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุและผู้ตายเป็นเด็กเชียร์แขกอยู่ภายในซอยบางลาด้วยกัน และทราบว่า ก่อนหน้านี้ทั้ง 2 คนมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้งเรื่องการแย่งแขกกัน และก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้มีปากเสียงกับแฟนสาวผู้ก่อเหตุ ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุเห็นจึงเข้ามาโต้เถียงและชกต่อยกับผู้ตาย แต่ผู้ก่อเหตุสู้ไม่ได้จึงได้ใช้อาวุธมีดแบบพับที่พกติดตัวแทงเข้าผู้ตาย 1 ครั้งและผู้ตายได้ล้มลง
ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีออกจากพื้นที่ จากนั้นได้นำมีดไปทิ้งที่สะพานสารสิน จากการสอบสวนยอมรับว่า ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริงและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะแทงจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายถึงแก่ความตาย
