สุราษฎร์ธานี - รวบอดีตมาเฟียรัสเซียเจ้าของบาร์ดังบนเกาะพะงัน หลังถูกเนรเทศ แอบเปลี่ยนชื่อหนังสือเดินทาง ย้อนกลับมาซุกเกาะพะงันแต่ไม่สามารถตบตาเจ้าหน้าที่ไทยได้ถูกจับดำเนินคดี
วันนี้ (9 พ.ค.) พ.ต.ต.ภูวดล วิริยนรางกูล สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 หน.สว.ทท.เกาะสมุย เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลัง ได้ร่วมกันจับกุมนายเซอจิ มิเลนติ อายุ 34 ปี สัญชาติโรมาเนีย ขณะอยู่บนเกาะพะงัน พร้อมได้นำตัวลงเรือเร็วจากเกาะพะงัน พาตัวมาทำการสอบปากคำ ที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย)
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า นายเซอจิ มิเลนติ หรือชื่อก่อนหน้านี้ ใช้ชื่อนายมิลินเทีย เซอร์เก สัญชาติรัสเซีย เจ้าของสิมิลันบาร์ บนชายหาดริ้น ใน ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูก ตม.ขึ้นแบล็กลิสต์ ห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เป็นเวลา 10 ปี ทำตัวเป็นมาเฟีย และถูกดำเนินคดีจ้างวานมือปืนบุกยิงถล่มบังกะโลพาลิตา ลอดจ์ บนชายหาดริ้น
และถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่บังกะโลพาลิตา ลอดจ์ และได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว และ พ.ร.บ.สถานบริการ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาของประเทศไทย และถูกเนรเทศออกนอกราชอาณาจักรไทยเป็นเวลา 10 ปี เหตุเกิดเมื่อเดือน ม.ค.59”
ต่อมาทราบว่า นายมิลินเทีย เซอร์เก ได้เปลี่ยนชื่อ และสัญชาติ โดยได้ ใช้ชื่อนายเซอจิ มิเลนติ สัญชาติโรมาเนีย และได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ผ่านช่องทาง อ.โก-ลก จ.นราธิวาส และเดินทางเข้ามาอยู่บนเกาะพะงัน แต่เนื่องจากใบหน้าของผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้ผิดเปลี่ยนไปจากเดิม ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบ พบว่า เป็นบุคคลคนเดียวกัน จึงได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตม. และ ตร.ทท.อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายไทยต่อไป
วันนี้ (9 พ.ค.) พ.ต.ต.ภูวดล วิริยนรางกูล สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 หน.สว.ทท.เกาะสมุย เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลัง ได้ร่วมกันจับกุมนายเซอจิ มิเลนติ อายุ 34 ปี สัญชาติโรมาเนีย ขณะอยู่บนเกาะพะงัน พร้อมได้นำตัวลงเรือเร็วจากเกาะพะงัน พาตัวมาทำการสอบปากคำ ที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย)
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า นายเซอจิ มิเลนติ หรือชื่อก่อนหน้านี้ ใช้ชื่อนายมิลินเทีย เซอร์เก สัญชาติรัสเซีย เจ้าของสิมิลันบาร์ บนชายหาดริ้น ใน ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูก ตม.ขึ้นแบล็กลิสต์ ห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เป็นเวลา 10 ปี ทำตัวเป็นมาเฟีย และถูกดำเนินคดีจ้างวานมือปืนบุกยิงถล่มบังกะโลพาลิตา ลอดจ์ บนชายหาดริ้น
และถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่บังกะโลพาลิตา ลอดจ์ และได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว และ พ.ร.บ.สถานบริการ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาของประเทศไทย และถูกเนรเทศออกนอกราชอาณาจักรไทยเป็นเวลา 10 ปี เหตุเกิดเมื่อเดือน ม.ค.59”
ต่อมาทราบว่า นายมิลินเทีย เซอร์เก ได้เปลี่ยนชื่อ และสัญชาติ โดยได้ ใช้ชื่อนายเซอจิ มิเลนติ สัญชาติโรมาเนีย และได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ผ่านช่องทาง อ.โก-ลก จ.นราธิวาส และเดินทางเข้ามาอยู่บนเกาะพะงัน แต่เนื่องจากใบหน้าของผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้ผิดเปลี่ยนไปจากเดิม ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบ พบว่า เป็นบุคคลคนเดียวกัน จึงได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตม. และ ตร.ทท.อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายไทยต่อไป