xs
xsm
sm
md
lg

มารู้จัก “เกาะพระทอง” ชม “ทุ่งหญ้าสะวันน่า” แห่งทะเลอันดามัน หลังไฟป่าเผาวอดพันไร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - มารู้จักกับ “เกาะพระทอง” แหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ ชม “ทุ่งหญ้าสะวันน่า” กลางทะเลอันดามัน ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ กอบโกยธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ให้เต็มที่ หลังไฟป่าเผาวอดเสียหายกว่าพันไร่

จากเหตุการณ์ไฟไหม้ทุ่งหญ้าสะวันน่า บนเกาะพระทอง จ.พังงา เสียหายกว่า 1,000 ไร่ เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายคนกังวลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะสร้างความเสียหายให้แก่แหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์แห่งนี้ เนื่องจากทุ่งหญ้าสะวันน่า ถือเป็นจุดขายที่สำคัญของแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะพระทอง เพราะเป็นหญ้าทุ่งหญ้าสะวันน่าแปลงใหญ่ที่มีอยู่กลางทะเลอันดามันก็ว่าได้

เหตุการณ์ไฟป่าไหม้ทุ่งหญ้าสะวันน่าบนเกาะพระทอง ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์เพลิงไหม้ทุ่งหญ้าสะวันน่า เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ทุกๆ ครั้งก็ได้สร้างความเสียหายให้แก่ทุ่งหญ้าและต้นเสม็ดขาวจำนวนไม่น้อย รวมไปถึงบางครั้งรุนแรงถึงขั้นทำให้สัตว์ป่าบางชนิดต้องตายลง แต่อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์เพลิงไหม้สงบลง การฟื้นตัวขอวทุ่งหญ้า และต้นเสม็ดขาวก็จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

ถึงเวลาไปรู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์แห่งนี้ “เกาะพระทอง” แหล่งท่องเที่ยวที่เชื่อว่าหลายๆ คนอยากไปสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ความสงบเงียบ และสัตว์ป่านานาชนิด สำหรับเกาะพระทอง ตั้งอยู่ใน อ.คุระบุรี จ.พังงา เป็นเกาะขนาดใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 40,000 ไร่ แต่มีเพียง 3 หมู่บ้าน คือ บ้านปากจก บ้านทุ่งดาบ และบ้านแป๊ะโย้ย ถือว่าเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดพังงา และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย อยู่ห่างจากฝั่งคุระบุรี มาทางตะวันออกเพียง 2 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางมายังเกาะแห่งนี้ไม่ได้ยากลำบากเกินไป เพียงแค่เดินทางมาให้ถึงพังงา ตรงมายังคุระบุรี แล้วต่อเรือมายังเกาะพระทอง หลับตาแป๊บเดียวก็ถึงเกาะพระทองแล้ว

สำหรับเกาะพระทองนั้นมีความหลากหลายทางชีวภาพ เพราะมีทั้งชายหาด ป่าชายหาด ป่าชายเลน ป่าพรุ ป่าเสม็ด ทุ่งหญ้า ไม้พุ่ม พืชสังคมทดแทน กล้วยไม้หายาก สัตว์ทะเล สัตว์ป่า สัตว์หายาก บริเวณป่าชายเลนของเกาะมีความอุดมสมบูรณ์มาก ถือเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ คลังอาหารตามธรรมชาติชั้นเลิศของชาวเกาะ เพราะมีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา โดยเฉพาะกับ “ปูดำ” ที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจเด่นของที่นี่ ส่วนทางด้านฝั่งตะวันตกจะเป็นแนวชายหาดอันสวยงามทอดยาว มีทิวสนขึ้นประดับในบางช่วง และเมื่อปี 2546 เกาะพระทอง แห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์

จุดสำคัญที่ทำให้เกาะพระทอง เป็นที่พูดถึงในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือ ทุ่งหญ้าสีทองอร่าม หรือทุ่งหญ้าสะวันนาา หรือทุ่งหญ้าซาฟารี ส่วนคนที่เกาะจะเรียกว่า “หญ้าเสือหมอบ” ที่มีขนาดกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เป็นทุ่งหญ้าสลับไปกับต้นเสม็ดขาวรูปร่างต่างๆ ที่มองแล้วสวยงามแปลกหูแปลกตา ที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ ซึ่งที่ตามลำต้นเสม็ดหลายๆ ต้นมีกล้วยไม้ พืชอิงแอบอาศัยต่างๆ ขึ้นอยู่แบบพึ่งพาอาศัยกัน อีกทั้งยังมีเอื้องปากนกแก้ว กล้วยไม้พันธุ์หายากให้ชมกันบนเกาะแห่งนี้

เส้นทางการชมทุ่งหญ้าสีทอง เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะนั้นต้องใช้บริการ “รถอีแต๊ก” ที่วิ่งฝ่าความมืดไปด้วยความชำนาญของคนขับ ไปหยุดอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้าง รอเวลาที่พระอาทิตย์เริ่มฉายแสงส่องสว่างแตะแต้มขอบฟ้า เผยให้เห็นพื้นที่รอบๆ ตัวขึ้นมา “ทุ่งหญ้าสะวันน่า” จะยิ่งสวยงามจับตา หากมาชมในช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะราวเดือน ธ.ค.-ม.ค. นั้นก็จะยิ่งมองเห็นเป็นสีทองอร่ามในช่วงแดดอ่อนๆ ยามเช้าและเย็น

บนเกาะแห่งนี้มีถนนสายหลักอยู่เส้นเดียว ที่เป็นถนนคอนกรีต ส่วนเส้นทางอื่นๆ ก็เป็นถนนทรายสีขาวนวล เนื้อละเอียดยิบ แซมด้วยถนนดินบ้างในบางจุด ซึ่งในบางจุดที่เป็นถนนทรายอ่อนนุ่ม สองข้างทางก็มีอะไรให้เพลิดเพลินใจกันไปด้วย บางจุดก็ดูเป็นป่า บางจุดก็เป็นคลอง เป็นร่องน้ำ ที่เกิดจากการทำเหมืองเมื่อครั้งอดีตที่เคยรุ่งเรือง ในคลองยามหน้าแล้งแบบนี้อาจจะดูไม่มีอะไร แต่ยามหน้าน้ำนั้นก็ยังพอมีปลาให้จับกันอยู่

อีกหนึ่งไฮไลต์ของเกาะพระทอง คือ ป่าหลายชนิด โดยเฉพาะ “กวางม้า” หรือกวางป่าตัวโต สมัยก่อนนั้นมีกวางมากมายอยู่บนเกาะแห่งนี้ แต่ก็ถูกชาวบ้านล่าไปขายบ้าง หมารุมกัดบ้าง จนเมื่อกวางมีจำนวนน้อยลง ก็เกิดข้อตกลงกันในหมู่ชาวบ้านว่าจะเลิกล่ากวางเพื่อช่วยสืบทอดให้คนรุ่นหลังยังมีกวางไว้ดู บ่างครั้งอาจจะเห็นกลางป่าเดินเข้ามาหาคนโดยไม่ตื่นกลัว บางครั้งอาจจะเห็นกวางม้าลงไปว่ายน้ำทะเลเล่น

สำหรับเกาะพระทองนั้น มีจุดชมวิวที่สวยงามหลายแห่ง แต่จุดนี้ไม่ควรพลาด คือ บริเวณสุดขอบฟ้า มีเนินน้อยๆ ให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ของแนวเวิ้งอ่าว นับเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่สูงสุดบนเกาะแห่งนี้ ขณะที่ตามแนวชายหาด มีหาดตาสุขในบริเวณรีสอร์ตเป็นจุดพักผ่อนสำคัญของชาวต่างชาติ ส่วนจุดชมพระอาทิตย์ตกอันสวยงามในบริเวณนี้ ขอยกให้ “อ่าวตาแดง” หรือที่หลายคนเรียกว่า “อ่าวตาฉุย” บริเวณอ่าวตาแดงเมื่อมองออกไปในทะเลจะเห็นเกาะปลิงใหญ่ ปลิงเล็ก ทอดตัวอยู่คู่กันในท้องทะเล นอกจากนี้ ยังมีแนวโขดหิน “พ่อตาหินกอง” ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ โดยมีการตั้งศาลไว้ริมทะเล

“เกาะพระทอง” เป็นเกาะที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เที่ยวแบบช้าๆ เรียนรู้วิถีชุมชน หรือท่องเที่ยวเชิงจิตอาสา CSR เพราะบนเกาะมีความสงบ มีธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ ไม่ใช่เกาะแห่งแสงสี หรือการท่องเที่ยวแบบสะดวกหรูหรา เพราะการสัญจรบนเกาะ ต้องใช้รถอีแต๊ก รถขับเคลื่อน 4 ล้อ รถจักรยานยนตร์พ่วงข้าง หรือทางเรือ ใกล้ๆ กับเกาะพระทอง มีเกาะระ และเกาะคอเขา เป็นอีก 2 เกาะท่องเที่ยวที่น่าสนใจเคียงคู่กัน

ผู้สนใจข้อมูลท่องเที่ยวเกาะพระทองเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โทร.0-7648-1900-2 หรือติดต่อได้ตามรีสอร์ตต่างๆ ที่มีมากกว่า 8 แห่งในปัจจุบัน





กำลังโหลดความคิดเห็น