กระบี่ - คนเกาะพีพีเฮ! กรมอุทยานฯ นำร่องเปิดโอกาสให้แจ้งชื่อสำรวจการครอบครองที่ดิน หวังได้สิทธิทำประโยชน์ตกทอดถึงลูกหลาน ไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี ยันชาวบ้านอยู่ก่อนการประกาศเขตอุทยานฯ 3 ชั่วอายุคน

ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.7 (เกาะพีพีดอน) อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ม.7 ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ ราษฎรเกาะพีพี ทยอยเดินทางเข้าแจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อร่วมสำรวจการครอบครองที่ดิน ตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-2 พ.ค.62 กันอย่างคึกคัก เนื่องจากที่ดินบนเกาะพีพี ร้อยละ 90 อยู่ในเขตอุทยานฯ ไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิ และเข้าทำประโยชน์ได้

นายจักรมงคล ระถะการ อายุ 58 ปี ชาวบ้านเกาะพีพี กล่าวว่า หลังจากที่ทางกรมอุทยานฯ ได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่ครอบครองที่ดินบนเกาะพีพี อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี แจ้งการครอบครองที่ดิน และสำรวจการครอบครอวที่ดิน เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าเพิ่ม ความเห็นส่วนตัวเห็นด้วย แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงรายละเอียดให้ชาวบ้านได้มั่นใจด้วยว่า หลังจากที่ชาวบ้านแจ้งชื่อ และเดินสำรวจแล้วจะมีการออกหนังสือรับรองให้ชาวบ้านถือครองที่ดินเข้าทำประโยชน์ได้โดยไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี และให้ที่ดินสามารถตกทอดไปถึงลูกหลานและที่ดินที่ชาวบ้านครอบครองอยู่ปัจจุบันก็มีการถือครองมากว่า 3 ชั่วอายุคน ตนอยู่ในรุ่นที่ 3 แล้ว

ด้าน นายสุวรรณ ชำนินา อายุ 50 ปี ชาวบ้านเกาะพีพีอีกราย กล่าวว่า พื้นที่เกาะพีพี ประมาณ 90% ของพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานฯ และชาวบ้านอยู่มาก่อนการประกาศเป็นเขตอุทยานของกรมอุทยานฯ แต่พบว่าที่ดินของชาวบ้านส่วนใหญ่ติดอยู่ในเขตอุทยานฯ ไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิ และปลูกสร้างได้ ต่างกับของนายทุน แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่เดียวกันแต่พบว่ามีการสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว ตนก็ไม่แน่ใจว่ามีเอกสารสิทธิหรือไม่ อยากให้มีการตรวจสอบด้วย ที่ดินเกาะพีพี เป็นที่ต้องการของนายทุน ราคาไร่ละหลายสิบล้านบาท

ด้าน นายแสงสุรี ซองทอง ผช.หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า ด้วยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชจะดำเนินการสำรวจการครอบครองที่ดินของราษฎรในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา- หมู่เกาะพีพี ท้องที่อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและบริหารจัดการพื้นที่ตามแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ จึงให้ราษฎรที่มีพื้นที่ทำกินหรือที่อยู่อาศัยภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ท้องที่หมู่ที่ 7 และ 8 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่

ทำการแจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมสำรวจการครอบครองที่ดิน ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-2 พ.ค.62 หากราษฎรรายใดไม่มาแจ้งและร่วมสำรวจการครอบครองที่ดินตามกำหนดนัดหมายให้ถือว่ามีเจตนาสละสิทธิการครอบครองที่ดินทและมิให้ผู้ใดนำมากล่าวอ้างเพื่อเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวหากมีเหตุจำเป็นไม่สามารถแจ้งด้วยตนเองได้ ให้มอบหมายบุคคลอื่นดำเนินการแทนโดยให้ผู้ใหญ่บ้านรับรอง พร้อมแสดงเอกสารหลักฐานที่เชื่อถือได้ของราษฎรรายนั้น และแจ้งให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ทราบภายในระยะเวลาที่กำหนดนัดหมายตามประกาศนี้
ผช.หน.อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวด้วยว่า การสำรวจที่ดินบนเกาะพีพี เป็นพื้นที่นำร่องการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในเขตอุทยานฯ ของจังหวัดกระบี่ โดยใช้ภาพถ่ายปี 2545 ตรวจสอบการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่เป็นหลัก และหลังจากที่สำรวจในพื้นที่เกาะพีพีแล้วเสร็จ ก็จะมีการดำเนินการต่อไปในพื้นที่ ต.หนองทะเล และพื้นที่อื่นๆ ตามประกาศของกรมฯ ซึ่งจะไม่มีการยึดคืนพื้นที่อย่างแน่นอนตามที่ราษฎรเป็นกังวล
ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.7 (เกาะพีพีดอน) อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ม.7 ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ ราษฎรเกาะพีพี ทยอยเดินทางเข้าแจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อร่วมสำรวจการครอบครองที่ดิน ตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-2 พ.ค.62 กันอย่างคึกคัก เนื่องจากที่ดินบนเกาะพีพี ร้อยละ 90 อยู่ในเขตอุทยานฯ ไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิ และเข้าทำประโยชน์ได้
นายจักรมงคล ระถะการ อายุ 58 ปี ชาวบ้านเกาะพีพี กล่าวว่า หลังจากที่ทางกรมอุทยานฯ ได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่ครอบครองที่ดินบนเกาะพีพี อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี แจ้งการครอบครองที่ดิน และสำรวจการครอบครอวที่ดิน เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าเพิ่ม ความเห็นส่วนตัวเห็นด้วย แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงรายละเอียดให้ชาวบ้านได้มั่นใจด้วยว่า หลังจากที่ชาวบ้านแจ้งชื่อ และเดินสำรวจแล้วจะมีการออกหนังสือรับรองให้ชาวบ้านถือครองที่ดินเข้าทำประโยชน์ได้โดยไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี และให้ที่ดินสามารถตกทอดไปถึงลูกหลานและที่ดินที่ชาวบ้านครอบครองอยู่ปัจจุบันก็มีการถือครองมากว่า 3 ชั่วอายุคน ตนอยู่ในรุ่นที่ 3 แล้ว
ด้าน นายสุวรรณ ชำนินา อายุ 50 ปี ชาวบ้านเกาะพีพีอีกราย กล่าวว่า พื้นที่เกาะพีพี ประมาณ 90% ของพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานฯ และชาวบ้านอยู่มาก่อนการประกาศเป็นเขตอุทยานของกรมอุทยานฯ แต่พบว่าที่ดินของชาวบ้านส่วนใหญ่ติดอยู่ในเขตอุทยานฯ ไม่สามารถขอออกเอกสารสิทธิ และปลูกสร้างได้ ต่างกับของนายทุน แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่เดียวกันแต่พบว่ามีการสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว ตนก็ไม่แน่ใจว่ามีเอกสารสิทธิหรือไม่ อยากให้มีการตรวจสอบด้วย ที่ดินเกาะพีพี เป็นที่ต้องการของนายทุน ราคาไร่ละหลายสิบล้านบาท
ด้าน นายแสงสุรี ซองทอง ผช.หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า ด้วยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชจะดำเนินการสำรวจการครอบครองที่ดินของราษฎรในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา- หมู่เกาะพีพี ท้องที่อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและบริหารจัดการพื้นที่ตามแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ จึงให้ราษฎรที่มีพื้นที่ทำกินหรือที่อยู่อาศัยภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ท้องที่หมู่ที่ 7 และ 8 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่
ทำการแจ้งการครอบครองที่ดินต่อเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมสำรวจการครอบครองที่ดิน ตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.-2 พ.ค.62 หากราษฎรรายใดไม่มาแจ้งและร่วมสำรวจการครอบครองที่ดินตามกำหนดนัดหมายให้ถือว่ามีเจตนาสละสิทธิการครอบครองที่ดินทและมิให้ผู้ใดนำมากล่าวอ้างเพื่อเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าวหากมีเหตุจำเป็นไม่สามารถแจ้งด้วยตนเองได้ ให้มอบหมายบุคคลอื่นดำเนินการแทนโดยให้ผู้ใหญ่บ้านรับรอง พร้อมแสดงเอกสารหลักฐานที่เชื่อถือได้ของราษฎรรายนั้น และแจ้งให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ทราบภายในระยะเวลาที่กำหนดนัดหมายตามประกาศนี้
ผช.หน.อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวด้วยว่า การสำรวจที่ดินบนเกาะพีพี เป็นพื้นที่นำร่องการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในเขตอุทยานฯ ของจังหวัดกระบี่ โดยใช้ภาพถ่ายปี 2545 ตรวจสอบการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่เป็นหลัก และหลังจากที่สำรวจในพื้นที่เกาะพีพีแล้วเสร็จ ก็จะมีการดำเนินการต่อไปในพื้นที่ ต.หนองทะเล และพื้นที่อื่นๆ ตามประกาศของกรมฯ ซึ่งจะไม่มีการยึดคืนพื้นที่อย่างแน่นอนตามที่ราษฎรเป็นกังวล