ยะลา - เบตงถูกผลกระทบจากอากาศที่ร้อนและแล้งหนัก ทำให้ผักบางชนิดขาดตลาดและมีราคาแพงถึง 2 เท่าตัว โดยเฉพาะถั่วฝักยาว จากเดิมราคาเพียง 40 บาท ปรับเดือนเดียวเป็น 100 บาท จนแม่ค้าส้มตำไม่ตำถั่วปูปลาร้าขาย
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ผลกระทบจากอากาศที่ร้อนและแล้งหนัก ทำให้ผักบางชนิดขาดตลาดและมีราคาแพงถึง 2 เท่าตัว โดยเฉพาะถั่วฝักยาว จากเดิมราคาเพียง 40 บาท เพียงเดือนเดียวปรับราคาขึ้นเป็น 100 บาท จนแม่ค้าส้มตำถึงขั้นไม่ตำถั่วปูปลาร้าขาย
จากการสำรวจตามแผงผักต่างๆ ในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง พบว่า มีผักหลายชนิดที่ไม่มีขายตามแผงเนื่องจากขาดตลาด โดยเฉพาะถั่วฝักยาว จากเดิมราคาเพียงกิโลกรัมละ 40 บาท ปรับขึ้นเป็น 100 บาท ผักชี จากเดิมราคาเพียง กิโลกรัมละ 50-60 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท และต้นหอม จากเดิมราคากิโลกรัมละ 50-60 บาท ปรับขึ้นมากิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งบางร้านไม่มีวางขายเลย หรือมีก็วางขายแค่ไม่กี่กำ เนื่องจากราคาส่งมาแพง เช่น ผักชี ทุนมากิโลกรัมละ 165 บาท ขาย 200 บาท และมะนาว ทุนมากิโลกรัมละ 150 บาท ขายกิโลกรัมละ 160 บาท เพราะต้องมีค่าขนส่ง ค่าแรง จึงสั่งมาไม่มาก
แม่ค้าขายผักในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง บอกว่า หลังจากอากาศร้อนหนักตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่า ผักหลายชนิดไม่ออกผลผลิตและบางอย่างก็เสียหาย โดยเฉพาะถั่วฝักยาวที่ไม่น่าเชื่อว่าแพงมากในรอบหลายปี จากเดิมราคาเพียง 50-60 บาทต่อกิโลกรัม แต่เพียงเดือนเดียวราคาปรับสูงถึง 100-130 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้แม่ค้าไม่กล้าหาซื้อมาวางขายเพราะสงสารผู้บริโภค โดยเฉพาะแม่ค้าส้มตำไม่กล้าซื้อไปทำถั่วปูปลาร้าขายให้แก่ลูกค้าเลย เนื่องจากราคาแพงมาก
ขณะที่เจ้าของแผงผักอีกร้าน บอกว่า ถั่วฝักยาวขาดตลาดต้องขายแบบแบ่งเป็นขีดๆ เพื่อให้ลูกค้าซื้อได้ ซึ่งหลังจากราคาผักแพงขึ้นทำให้ผู้บริโภคต้องเลือกซื้อผักที่ต้องการแต่ละชนิดน้อยลง