ชุมพร - หนุ่มหัวร้อน อาละวาดยิงหนังสติ๊กใส่รถยนต์บนถนนเสียหายกว่า 20 คัน ตำรวจจับกุมตัวได้อยู่ในอาการมึนเมา อ้างถูก 10 ล้อเบียดขณะขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน โมโหยิงดะ พบประวัติเคยติดคุกกว่า 7 ปี
เมื่อเวลา 21.00 วันที่ 17 เม.ย. ต่อเนื่องจนถึงเวลา 00.30.น.วันนี้ (18 เม.ย.) พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.ท่าแซะ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่า มีคนร้ายใช้ของแข็งปาใส่รถยนต์ที่สัญจรได้รับความเสียหายจำนวนหลายคัน เหตุเกิดบนถนนสายเพชรเกษมขาล่องใต้ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พรชัย สุขหงส์ รอง ผกก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.บุญชู เมืองระรื่น สวป. และ ร.ต.ท.ปัญญา ฉิมงาม รอง สวป.ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้ประสบเหตุจำนวนมาก มีทั้งรถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะ รวมไปถึงรถบรรทุก 10 ล้อ กว่า 20 คัน จอดเปิดไฟกะพริบอยู่ข้างทางริมถนนสายเพชรเกษม ขาล่องใต้ บ้านควนทราย หมู่ที่ 4 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยทุกคันอยู่ในสภาพได้รับความเสียหายบริเวณกระจกหน้าถูกขว้างปาด้วยของแข็งจนแตกร้าวเป็นรู
สอบถาม นายกมล อายุ 47 ปี และ นางเพ็ญจิตร์ เรืองศิลป์ อายุ 47 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 368/2 หมู่ที่ 5 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตนเองกำลังขับรถกระบะกลับจากไปส่งลูกสาวที่ จ.ปทุมธานี จนมาถึงที่เกิดเหตุ ตนเองเห็นรถยนต์จอดเปิดไฟกะพริบขอทางอยู่ริมถนนจำนวนหลายคัน ครั้งแรกนึกว่าเกิดเหตุรถเฉี่ยวชนกัน
จึงได้ชะลอความเร็วมาเรื่อยๆ จนใกล้รถที่จอด ก็ได้ยินเสียงมีวัตถุของแข็งมากระทบบริเวณข้างรถด้านซ้ายเสียงดังปัง จึงได้หันไปมองริมถนน พบว่า มีคนยืนถือหนังสติ๊กเล็งยิงใส่รถคันอื่นที่ตามหลังตนมา จึงได้ขับรถเข้าไปจอดใกล้กับรถยนต์ที่จอดอยู่อยู่ก่อนแล้ว ทราบว่า รถกว่า 20 คัน โดนยิงด้วยหนังสติ๊กเหมือนกัน
ด้าน นายมณเฑียร ต้นเกตุ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 258 หมู่ที่ 3 ต.กุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ กล่าวว่า ตนเองกำลังนำสินค้าเป็นของเบ็ดเตล็ดจาก จ.ปทุมธานี ไปส่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะขับรถได้ใช้ช่องจราจรด้านซ้ายสุดของถนน ขณะวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุตนเองได้สังเกตเห็นริมถนนด้านหน้ามีผู้ชายยืนอยู่ริมถนน มีกระเป๋าสะพาย แต่ก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งวิ่งเข้ามาใกล้จะถึงชายคนดังกล่าว ก็ได้ยกหนังสติ๊กยิงก้อนหินเข้าใส่รถตนเองถูกเข้าที่กระจกหน้าจนแตกเป็นรู แต่ตนไม่กล้าจอดรถเนื่องจากเป็นที่มืดเกรงว่าจะถูกปล้นจึงได้ขับรถไปจอดที่ป้อมตำรวจเพื่อแจ้งเหตุดังกล่าว
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังปิดล้อมบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ทราบชื่อคือ นายสุรินทร์ จันทร์ทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ที่ 4 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ขณะนั่งแอบซุ่มอยู่ในพงหญ้าข้างถนนเพชรเกษม ห่างจากรถยนต์ที่เสียหายที่จอดไปประมาณ 200 เมตร
ค้นในตัวพบหนังสติ๊ก 1 อัน ก้อนหินทรงกลมขนาดใหญ่กว่าเหรียญ 10 บาท จำนวน 35 ลูก อยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล โดยผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา พูดจาไม่ค่อยจะรู้เรื่อง จึงได้นำตัวนายสุรินทร์ มาสอบปากคำที่ สภ.ท่าแซะ
จากการสอบสวน นายสุรินทร์ อ้างว่าตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนก่อเหตุได้ไปดื่มเหล้าขาวคนเดียวหมดไป 1 ขวด ขณะที่ตนกำลังขับรถจักรยานยนต์จะกลับบ้านพักไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ถูกรถบรรทุก 10 ล้อขับรถปาดหน้า ทำให้โกรธ จึงจอดรถแล้วคว้าหนังสติ๊กพร้อมก้อนหินออกมาจากกระเป๋ายิงใส่รถยนต์โดยไม่รู้ว่าเป็นรถคันไหนบ้าง แต่ไม่ต่ำกว่า 3 คัน
แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากหนังสติ๊กและก้อนหินจำนวนมากที่พบในกระเป๋า เหมือนเป็นการเตรียมการก่อเหตุมาก่อน ประกอบกับพบประวัตินายสุรินทร์ เคยถูกจับติดคุกนานกว่า 7 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานในข้อหาพรากผู้เยาว์จากเรือนจำหลังสวนอีกด้วย
เจ้าหน้าที่จึงได้นำเครื่องเป่ามาเป่าวัดแอลกอฮอล์ไว้เป็นหลักฐาน พบค่าสูงถึง 161 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงได้ทำบันทึกจับกุมโดยแจ้งข้อกล่าวหาเสพสุราหรือเมาอย่างอื่นจนเป็นเหตุให้เมา มีประพฤติก่อความวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้ ขณะอยู่บนถนนสาธารณะ และทำให้เสียทรัพย์ไว้เบื้องต้นก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ได้มีผู้เสียหายทยอยเดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ต่างขอไปดูหน้าและขอถามถึงเหตุจูงใจทำไมถึงมาก่อเหตุจนพวกตนได้รับความเดือดร้อนและทรัพย์สินเสียหาย ทั้งๆ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ซึ่งผู้เสียหายบางรายทำใจไม่ได้ หลังจากที่ถูกนายสุรินทร์ ตอบแบบยียวนกวนอารมณ์ใส่ คุมอารมณ์ไม่อยู่ถลาฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่เข้าตบหน้านายสุรินทร์ จนเจ้าหน้าที่ต้องจับแยกก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน นำตัวเข้าคุมขังเพื่อรอสอบสวนใหม่อีกครั้งต่อไป
เมื่อเวลา 21.00 วันที่ 17 เม.ย. ต่อเนื่องจนถึงเวลา 00.30.น.วันนี้ (18 เม.ย.) พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.ท่าแซะ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่า มีคนร้ายใช้ของแข็งปาใส่รถยนต์ที่สัญจรได้รับความเสียหายจำนวนหลายคัน เหตุเกิดบนถนนสายเพชรเกษมขาล่องใต้ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พรชัย สุขหงส์ รอง ผกก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.บุญชู เมืองระรื่น สวป. และ ร.ต.ท.ปัญญา ฉิมงาม รอง สวป.ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้ประสบเหตุจำนวนมาก มีทั้งรถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะ รวมไปถึงรถบรรทุก 10 ล้อ กว่า 20 คัน จอดเปิดไฟกะพริบอยู่ข้างทางริมถนนสายเพชรเกษม ขาล่องใต้ บ้านควนทราย หมู่ที่ 4 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยทุกคันอยู่ในสภาพได้รับความเสียหายบริเวณกระจกหน้าถูกขว้างปาด้วยของแข็งจนแตกร้าวเป็นรู
สอบถาม นายกมล อายุ 47 ปี และ นางเพ็ญจิตร์ เรืองศิลป์ อายุ 47 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 368/2 หมู่ที่ 5 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตนเองกำลังขับรถกระบะกลับจากไปส่งลูกสาวที่ จ.ปทุมธานี จนมาถึงที่เกิดเหตุ ตนเองเห็นรถยนต์จอดเปิดไฟกะพริบขอทางอยู่ริมถนนจำนวนหลายคัน ครั้งแรกนึกว่าเกิดเหตุรถเฉี่ยวชนกัน
จึงได้ชะลอความเร็วมาเรื่อยๆ จนใกล้รถที่จอด ก็ได้ยินเสียงมีวัตถุของแข็งมากระทบบริเวณข้างรถด้านซ้ายเสียงดังปัง จึงได้หันไปมองริมถนน พบว่า มีคนยืนถือหนังสติ๊กเล็งยิงใส่รถคันอื่นที่ตามหลังตนมา จึงได้ขับรถเข้าไปจอดใกล้กับรถยนต์ที่จอดอยู่อยู่ก่อนแล้ว ทราบว่า รถกว่า 20 คัน โดนยิงด้วยหนังสติ๊กเหมือนกัน
ด้าน นายมณเฑียร ต้นเกตุ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 258 หมู่ที่ 3 ต.กุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร คนขับรถบรรทุก 6 ล้อ กล่าวว่า ตนเองกำลังนำสินค้าเป็นของเบ็ดเตล็ดจาก จ.ปทุมธานี ไปส่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะขับรถได้ใช้ช่องจราจรด้านซ้ายสุดของถนน ขณะวิ่งมาถึงที่เกิดเหตุตนเองได้สังเกตเห็นริมถนนด้านหน้ามีผู้ชายยืนอยู่ริมถนน มีกระเป๋าสะพาย แต่ก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งวิ่งเข้ามาใกล้จะถึงชายคนดังกล่าว ก็ได้ยกหนังสติ๊กยิงก้อนหินเข้าใส่รถตนเองถูกเข้าที่กระจกหน้าจนแตกเป็นรู แต่ตนไม่กล้าจอดรถเนื่องจากเป็นที่มืดเกรงว่าจะถูกปล้นจึงได้ขับรถไปจอดที่ป้อมตำรวจเพื่อแจ้งเหตุดังกล่าว
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังปิดล้อมบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ทราบชื่อคือ นายสุรินทร์ จันทร์ทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ที่ 4 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ขณะนั่งแอบซุ่มอยู่ในพงหญ้าข้างถนนเพชรเกษม ห่างจากรถยนต์ที่เสียหายที่จอดไปประมาณ 200 เมตร
ค้นในตัวพบหนังสติ๊ก 1 อัน ก้อนหินทรงกลมขนาดใหญ่กว่าเหรียญ 10 บาท จำนวน 35 ลูก อยู่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล โดยผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา พูดจาไม่ค่อยจะรู้เรื่อง จึงได้นำตัวนายสุรินทร์ มาสอบปากคำที่ สภ.ท่าแซะ
จากการสอบสวน นายสุรินทร์ อ้างว่าตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนก่อเหตุได้ไปดื่มเหล้าขาวคนเดียวหมดไป 1 ขวด ขณะที่ตนกำลังขับรถจักรยานยนต์จะกลับบ้านพักไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก ถูกรถบรรทุก 10 ล้อขับรถปาดหน้า ทำให้โกรธ จึงจอดรถแล้วคว้าหนังสติ๊กพร้อมก้อนหินออกมาจากกระเป๋ายิงใส่รถยนต์โดยไม่รู้ว่าเป็นรถคันไหนบ้าง แต่ไม่ต่ำกว่า 3 คัน
แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากหนังสติ๊กและก้อนหินจำนวนมากที่พบในกระเป๋า เหมือนเป็นการเตรียมการก่อเหตุมาก่อน ประกอบกับพบประวัตินายสุรินทร์ เคยถูกจับติดคุกนานกว่า 7 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานในข้อหาพรากผู้เยาว์จากเรือนจำหลังสวนอีกด้วย
เจ้าหน้าที่จึงได้นำเครื่องเป่ามาเป่าวัดแอลกอฮอล์ไว้เป็นหลักฐาน พบค่าสูงถึง 161 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงได้ทำบันทึกจับกุมโดยแจ้งข้อกล่าวหาเสพสุราหรือเมาอย่างอื่นจนเป็นเหตุให้เมา มีประพฤติก่อความวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้ ขณะอยู่บนถนนสาธารณะ และทำให้เสียทรัพย์ไว้เบื้องต้นก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว ได้มีผู้เสียหายทยอยเดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ต่างขอไปดูหน้าและขอถามถึงเหตุจูงใจทำไมถึงมาก่อเหตุจนพวกตนได้รับความเดือดร้อนและทรัพย์สินเสียหาย ทั้งๆ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ซึ่งผู้เสียหายบางรายทำใจไม่ได้ หลังจากที่ถูกนายสุรินทร์ ตอบแบบยียวนกวนอารมณ์ใส่ คุมอารมณ์ไม่อยู่ถลาฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่เข้าตบหน้านายสุรินทร์ จนเจ้าหน้าที่ต้องจับแยกก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน นำตัวเข้าคุมขังเพื่อรอสอบสวนใหม่อีกครั้งต่อไป
