สุราษฎร์ธานี - อาสากู้ภัยสุราษฎร์ฯ วอนช่วยรักษาวัวถูกรถชน รวบรวมเงินบริจาคไถ่ชีวิตมาจากคดี ขณะที่ร้อยเวรร่วมบุญด้วย อนุญาตให้นำวัวมารักษาห้ามขายห้ามฆ่า มิฉะนั้นถูกดำเนินคดี

จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดรถจักรยานยนต์ชนวัว และรถกระบะที่วิ่งตามหลังมาชนซ้ำที่วัว ทำให้ทั้งคนและวัวได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าบริษัท ไทยเบท ถนนสาย 41 ขาล่องใต้ กม.172 ม.5 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของวัวเพศผู้อายุประมาณ 2 ปี ที่ถูกรถชน ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องนำวัวที่ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บไปผูกไว้ที่ป้อมตำรวจ กม.18 รอประมูลขายต่อเข้าโรงเชือดเพื่อนำเงินมาให้คู่กรณี

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเศร้าสลดให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาประจำจุดท่าโรงช้าง ที่ได้ลงไปให้การช่วยเหลือทั้งคนและวัวในวันที่เกิดเหตุ ซึ่งนายภานุวัฒน์ วงศุวรรณ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/5 บ้านทุ่งเซียด หมู่ที่ 1 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาประจำจุดท่าโรงช้าง จึงได้รวบรวมเงินจากเพื่อนๆ และผู้มีจิตศรัทธาไถ่ชีวิตวัวตัวดังกล่าวให้รอดจากการถูกฆ่า

นายภานุวัฒน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทราบว่าทางตำรวจจะนำวัวที่บาดเจ็บไปประมูลขายเข้าโรงเชือด ตนรู้สึกสงสารจึงนำภาพไปลงเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยมีเพื่อนในเฟซได้แนะนำให้ไปไถ่ชีวิตวันมาจากคดี มีหลายคนรวบรวมเงินโอนเข้าบัญชีได้หนึ่งหมื่นกว่าบาท จึงเข้าติดต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนทราบว่า ตนและเพื่อนจะไถ่ชีวิตวัว และนำไปรักษาจึงร่วมบุญกุศลมอบวัวให้ตนมา

แต่มีข้อแม้ห้ามนำวัวไปขายหรือฆ่า มิฉะนั้นตนจะถูกดำเนินคดีจึงรับปากให้สัจจะ และได้นำวัวมารักษาที่บ้านพัก พร้อมติดต่อหมอจากโรงพยาบาลสัตว์ในตัวเมืองมารักษา แต่ค่ารักษาค่อนข้างสูง เนื่องจากกรามวัวด้านล่างหัก กระดูกหน้าหัก เข่าด้านซ้ายหลุด จึงวอนขอผ่านสื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยรักษา หากรักษาจนหายเป็นปกติแล้วจะนำไปถวายวัดที่มีความพร้อมที่จะรับวัวตัวนี้ไปดูแลต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นชาวเฟซได้ตั้งชื่อว่า เจ้าบุญรอด
ผู้สื่อข่าวได้สังเกตว่า เจ้าบุญรอดค่อนข้างเป็นวัวที่แสนรู้และขี้อ้อน เมื่อนายภานุวัฒน์ และนางสุดรักษ์ สองสามีภรรยา เข้าไปดูแลและทำความสะอาดแผลจะพยายามคลอเคลียและมีกิริยาค่อนข้างจะอ้อนตลอดเวลา
จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดรถจักรยานยนต์ชนวัว และรถกระบะที่วิ่งตามหลังมาชนซ้ำที่วัว ทำให้ทั้งคนและวัวได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดบริเวณหน้าบริษัท ไทยเบท ถนนสาย 41 ขาล่องใต้ กม.172 ม.5 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของวัวเพศผู้อายุประมาณ 2 ปี ที่ถูกรถชน ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องนำวัวที่ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บไปผูกไว้ที่ป้อมตำรวจ กม.18 รอประมูลขายต่อเข้าโรงเชือดเพื่อนำเงินมาให้คู่กรณี
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเศร้าสลดให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาประจำจุดท่าโรงช้าง ที่ได้ลงไปให้การช่วยเหลือทั้งคนและวัวในวันที่เกิดเหตุ ซึ่งนายภานุวัฒน์ วงศุวรรณ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109/5 บ้านทุ่งเซียด หมู่ที่ 1 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาประจำจุดท่าโรงช้าง จึงได้รวบรวมเงินจากเพื่อนๆ และผู้มีจิตศรัทธาไถ่ชีวิตวัวตัวดังกล่าวให้รอดจากการถูกฆ่า
นายภานุวัฒน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทราบว่าทางตำรวจจะนำวัวที่บาดเจ็บไปประมูลขายเข้าโรงเชือด ตนรู้สึกสงสารจึงนำภาพไปลงเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยมีเพื่อนในเฟซได้แนะนำให้ไปไถ่ชีวิตวันมาจากคดี มีหลายคนรวบรวมเงินโอนเข้าบัญชีได้หนึ่งหมื่นกว่าบาท จึงเข้าติดต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนทราบว่า ตนและเพื่อนจะไถ่ชีวิตวัว และนำไปรักษาจึงร่วมบุญกุศลมอบวัวให้ตนมา
แต่มีข้อแม้ห้ามนำวัวไปขายหรือฆ่า มิฉะนั้นตนจะถูกดำเนินคดีจึงรับปากให้สัจจะ และได้นำวัวมารักษาที่บ้านพัก พร้อมติดต่อหมอจากโรงพยาบาลสัตว์ในตัวเมืองมารักษา แต่ค่ารักษาค่อนข้างสูง เนื่องจากกรามวัวด้านล่างหัก กระดูกหน้าหัก เข่าด้านซ้ายหลุด จึงวอนขอผ่านสื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยรักษา หากรักษาจนหายเป็นปกติแล้วจะนำไปถวายวัดที่มีความพร้อมที่จะรับวัวตัวนี้ไปดูแลต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นชาวเฟซได้ตั้งชื่อว่า เจ้าบุญรอด
ผู้สื่อข่าวได้สังเกตว่า เจ้าบุญรอดค่อนข้างเป็นวัวที่แสนรู้และขี้อ้อน เมื่อนายภานุวัฒน์ และนางสุดรักษ์ สองสามีภรรยา เข้าไปดูแลและทำความสะอาดแผลจะพยายามคลอเคลียและมีกิริยาค่อนข้างจะอ้อนตลอดเวลา