ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจหาดใหญ่จับกุมกัญชาล็อตใหญ่ 64 กิโลกรัม ของเครือข่ายค้ากัญชาข้ามชาติชาวมาเลเซีย ซุกซ่อนในรถเก๋งที่ดัดแปลงช่องลับไว้ท้ายรถ พร้อมผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 1 คน ขณะเปิดรีสอร์ตรอขนเข้าไปส่งที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย พบเป็นเครือข่ายใหญ่ มีทั้งคนไทยและมาเลเซียร่วมขบวนการ
วันนี้ (6 เม.ย.) พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สส. ร.ต.ท.พิเยศ ชูเมือง รอง สว.หัวหน้าชุด ชปส.สภ.หาดใหญ่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ หรือชุดตะวัน ร่วมกับชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เข้าตรวจค้นภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ หลังจากได้รับรายงานว่า มีการขนกัญชาจำนวนมากมากับรถเก๋ง และมาเปิดห้องพักที่รีสอร์ตแห่งนี้
จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบกัญชาอัดแท่งล็อตใหญ่ จำนวน 64 กิโลกรัม ซึ่งเป็นของเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวมาเลเซีย พร้อมผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย 1 คน คือ นายซูเรส ดินาคารัน อายุ 36 ปี โดยซุกซ่อนกัญชาอยู่ในช่องลับของรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน PEU 6691 ประเทศมาเลเซีย ซึ่งดัดแปลงไว้ขนกัญชาโดยเฉพาะ มีทั้งช่องลับบริเวณกันชนหลัง บริเวณช่องเก็บยางสำรองท้ายรถ และช่องลับหลังเบาะหลัง โดยมูลค่ากัญชาที่ยึดได้ราคาซื้อขายจากต้นทางในไทยราว 7 แสนบาท หรือราวกิโลกรัมละ 1 หมื่นบาท แต่หากส่งไปยังปลายทางในประเทศมาเลเซีย จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว หรือตกกิโลกรัมละ 3 หมื่นบาท
จากการสอบสวน นายซูเรส รับสารภาพว่า เป็นเพียงผู้รับจ้างขนกัญชาเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 30,000 บาท และรวมครั้งนี้ทำมาเป็นครั้งที่ 4 โดยขับรถเข้ามาเมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ทางด่านพรมแดนสะเดา และมีรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ขับนำทางมารับกัญชาที่ อ.หาดใหญ่ เมื่อมาถึง คนที่ขับรถเบนซ์ได้ขับรถเก๋งของตนไปรับกัญชามาส่งให้ตนที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง และได้มาเปิดห้องพักที่รีสอร์ตแห่งนี้ เพื่อเตรียมขนกัญชาทั้งหมดไปให้เอเยนต์ที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ในวันพรุ่งนี้ทางด่านประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา
นายซูเรส กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการรับจ้างขนกัญชามาจากรู้จักกับหญิงไทยคนหนึ่งชื่ออองฟอง ซึ่งเป็นหมอนวดอยู่ที่รัฐปีนัง และได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ให้โดยใช้ชื่อตน และเริ่มขนกัญชามาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหานายซูเรส มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และจะเร่งขยายผลไปยังเครือข่ายค้ากัญชาข้ามชาติกลุ่มนี้ ซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวมาเลเซียร่วมขบวนการ