ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ผอ.สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 สงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของกลุ่มเกษตรกร ในการเข้าร่วมโครงการบริหารจัดการวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ “Mega Farm Enterprise” ต่อยอดนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ ใช้ตลาดนำการผลิต
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2562 นายสุพิท จิตรภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของกลุ่มเกษตรกร ในการเข้าร่วมโครงการบริหารจัดการวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ (Mega Farm Enterprise) ยางพารา จ.ตรัง เพื่อสรุป และนำเสนอข้อมูลให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณา โดยมี นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยม
นายสุพิท จิตรภักดี เปิดเผยว่า ระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เป็นหนึ่งในแนวทางปรับระบบการผลิตจากแบบดั้งเดิมสู่การเกษตรสมัยใหม่ หรือ Smart Farmer และในปัจจุบัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายพัฒนาต่อยอดในรูปวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ หรือ Mega Farm Enterprise (MFE) เพื่อเพิ่มพูนรายได้เกษตรกร โดยเริ่มต้นตั้งแต่การผลิตจนกระทั่งมีผลผลิตจำหน่ายออกสู่ตลาด ให้มีศักยภาพก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบัน และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ตามนโยบาย “การตลาดนำการผลิต” ภายใต้แนวทาง “การจัดทำแผนการผลิตภาคการเกษตร (Agricultural Production Plan) และ “โครงการเกษตรแปลงใหญ่” (Mega Farm Project) ซึ่งมีเกษตรกร และภาครัฐ รวมทั้งภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเกษตรแปลงใหญ่ ขนาดพื้นที่วิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ พื้นที่ไม่จำเป็นต้องติดกันรวมกันตั้งแต่ 1,000 ไร่ขึ้นไป
สำหรับพืชผัก สมุนไพร ไม้ดอกไม้ประดับ พื้นที่รวมกันไม่น้อยกว่า 300 ไร่ เพื่อก่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) จากการผลิตให้ต้นทุนการผลิตลดลง โดยมีเป้าหมายไม่น้อยกว่า 1 แปลงใหญ่ต่อ 1 ภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 6 แปลง
นายสุพิท จิตรภักดี ได้กล่าวเสริมว่า ในส่วนของเขตภาคใต้มี 4 แปลงใหญ่ ที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ 1.จังหวัดตรัง แปลงยางพารา 2. จังหวัดปัตตานี แปลงยางพารา 3.จังหวัดสุราษฎร์ธานี แปลงปาล์มน้ำมัน และแปลงผัก/ผลไม้
ในการนี้ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ได้จัดทำแผน และลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกลุ่มเกษตรกร ในการเข้าร่วมโครงการบริหารจัดการวิสาหกิจเกษตรแปลงใหญ่ (Mega Farm Enterprise) ต่อไป