ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา 2 คนขับรถตุ๊กตุ๊ก 4 คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง หลังมีการแชร์คลิปทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยว เผยสอบปากคำทั้งผู้เสียหาย ผู้ต้องหาให้การสอดคล้อง แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยใครเริ่มก่อน
จากกรณีมีการแชร์คลิปคนขับรถตุ๊กตุ๊ก และคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง คิวหน้าตลาดมาลิน หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต รุมทำร้ายนักท่องเที่ยว เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวอาหรับได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองได้ลงพื้นที่สืบสวนและทราบตัวคนที่ก่อเหตุและเชิญตัวมาสอบปากคำแล้ว จำนวน 6 คน ในขณะที่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ราย ได้มีการสอบปากคำไว้แล้วเช่นกัน
โดยหลังเกิดเหตุ ที่สถานีตำรวจภูธรป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.กก.ภ.จว.ภูเก็ต, ร.ต.วัฒนชัย คล่องประดิษฐ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย กรมทหารราบที่ 25 (ชป.รส.ร.25) เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกะทู้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงถึงกรณีที่เกิดขึ้น
พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวและติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า มีด้วยกัน 6 คน ซึ่งทั้งหมดได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนแล้ว โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ในส่วนของผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นได้มีการเชิญตัวมาพบพนักงานสอบสวนและมีการสอบปากคำไว้เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางกลับประเทศในช่วงเย็นวันนี้ (29 มี.ค.)
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่ามาจากเรื่องของอารมณ์ร้อนของคนขับรถ และผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติอันเนื่องมาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน จึงมีการทำร้ายร่างกายกันขึ้น รวมทั้งมีบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาร่วมก่อเหตุด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในเมืองท่องเที่ยว และเมื่อเกิดเหตุขึ้นก็เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว และผู้ก่อเหตุก็ต้องถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งจากการสอบสวนผู้ก่อเหตุก็ยอมรับ และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พล.ต.ต.อังกูร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ และนักท่องเที่ยวอาจจะพูดเสียงดัง เนื่องจากมีภรรยาและลูกมาด้วย เมื่อคนขับไม่ยอมไปส่งก็กังวลว่าจะกลับที่พักได้อย่างไร จนเกิดการทำร้ายกันขึ้น และภาพที่ปรากฏก็ไม่ได้มีเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบกันอย่างรอบคอบเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ในส่วนของการปฏิเสธผู้โดยสารนั้น ซึ่งได้ปรึกษากับทางขนส่งจังหวัดแล้ว ทราบว่ามีกฎหมายกำหนดว่าพฤติกรรมปฏิเสธหรือทำร้ายผู้โดยสารมีบทลงโทษทั้งการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม
ขณะที่ พล.ต.ต.อังกูร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายนั้นเป็นไปอย่างมีระบบ จึงทำให้สามารถติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้อย่างทันท่วงที เพียงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากอารมณ์ร้อนของตัวบุคคล และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย เพราะผู้ประกอบการรถรับจ้างส่วนใหญ่มีความอะลุ่มอล่วย และเป็นเจ้าบ้านที่ดีอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นทุกวัน แต่กรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจในเรื่องของการสื่อสาร แต่ก็มีความผิดเพราะมีการตกลงกันแล้ว ทั้งนี้ ต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า ในส่วนของผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้งหมดตามที่ปรากฏในคลิปที่มีการแชร์กัน ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้เบื้องต้นน่าจะเกิดจากอารมณ์ร้อน และเรื่องการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันในเรื่องของค่าโดยสาร จึงเกิดการโต้เถียงและชกต่อยกันตามที่เห็นในคลิป ส่วนใครลงมือก่อนนั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ตลอดจนการรวบรวมหลักฐานต่างๆ ในส่วนของผู้ก่อเหตุที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้ที่อยู่บริเวณดังกล่าวมีทั้งคนขับรถตุ๊กตุ๊กและคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น
จากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ซึ่งสามารถติดตามผู้ก่อเหตุมาได้ทั้งหมด สร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ส่วนมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ได้มีการประสานพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ขนส่ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เป็นต้น ออกตรวจสอบที่จอดรถสาธารณะทั้งหมดเพื่อทำความเข้าใจและตรวจสอบประวัติและความถูกต้องต่างๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ จึงขอให้ความมั่นใจไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยหรือต่างชาติที่จะมาท่องเที่ยวในพื้นที่ป่าตอง
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามถึงการก่อเหตุในครั้งนี้เกิดจากใครเริ่มก่อนระหว่างนักท่องเที่ยวและคนขัยรถตุ๊กตุ๊ก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เปิดเผย โดยระบุเพียงว่าทั้ง 2 ฝ่ายให้การสอดคล้องกัน แต่ไม่ระบุว่าใครเริ่มก่อน
จากกรณีมีการแชร์คลิปคนขับรถตุ๊กตุ๊ก และคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง คิวหน้าตลาดมาลิน หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต รุมทำร้ายนักท่องเที่ยว เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวอาหรับได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองได้ลงพื้นที่สืบสวนและทราบตัวคนที่ก่อเหตุและเชิญตัวมาสอบปากคำแล้ว จำนวน 6 คน ในขณะที่นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ราย ได้มีการสอบปากคำไว้แล้วเช่นกัน
โดยหลังเกิดเหตุ ที่สถานีตำรวจภูธรป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.กก.ภ.จว.ภูเก็ต, ร.ต.วัฒนชัย คล่องประดิษฐ์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย กรมทหารราบที่ 25 (ชป.รส.ร.25) เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอกะทู้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงถึงกรณีที่เกิดขึ้น
พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันสืบสวนหาข่าวและติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า มีด้วยกัน 6 คน ซึ่งทั้งหมดได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนแล้ว โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ในส่วนของผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้นได้มีการเชิญตัวมาพบพนักงานสอบสวนและมีการสอบปากคำไว้เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางกลับประเทศในช่วงเย็นวันนี้ (29 มี.ค.)
ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่ามาจากเรื่องของอารมณ์ร้อนของคนขับรถ และผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติอันเนื่องมาจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน จึงมีการทำร้ายร่างกายกันขึ้น รวมทั้งมีบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาร่วมก่อเหตุด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในเมืองท่องเที่ยว และเมื่อเกิดเหตุขึ้นก็เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยว และผู้ก่อเหตุก็ต้องถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งจากการสอบสวนผู้ก่อเหตุก็ยอมรับ และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พล.ต.ต.อังกูร กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ และนักท่องเที่ยวอาจจะพูดเสียงดัง เนื่องจากมีภรรยาและลูกมาด้วย เมื่อคนขับไม่ยอมไปส่งก็กังวลว่าจะกลับที่พักได้อย่างไร จนเกิดการทำร้ายกันขึ้น และภาพที่ปรากฏก็ไม่ได้มีเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบกันอย่างรอบคอบเพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ในส่วนของการปฏิเสธผู้โดยสารนั้น ซึ่งได้ปรึกษากับทางขนส่งจังหวัดแล้ว ทราบว่ามีกฎหมายกำหนดว่าพฤติกรรมปฏิเสธหรือทำร้ายผู้โดยสารมีบทลงโทษทั้งการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม
ขณะที่ พล.ต.ต.อังกูร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายนั้นเป็นไปอย่างมีระบบ จึงทำให้สามารถติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้อย่างทันท่วงที เพียงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมาจากอารมณ์ร้อนของตัวบุคคล และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย เพราะผู้ประกอบการรถรับจ้างส่วนใหญ่มีความอะลุ่มอล่วย และเป็นเจ้าบ้านที่ดีอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นทุกวัน แต่กรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจในเรื่องของการสื่อสาร แต่ก็มีความผิดเพราะมีการตกลงกันแล้ว ทั้งนี้ ต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย
ขณะที่ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า ในส่วนของผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้งหมดตามที่ปรากฏในคลิปที่มีการแชร์กัน ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้เบื้องต้นน่าจะเกิดจากอารมณ์ร้อน และเรื่องการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันในเรื่องของค่าโดยสาร จึงเกิดการโต้เถียงและชกต่อยกันตามที่เห็นในคลิป ส่วนใครลงมือก่อนนั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ตลอดจนการรวบรวมหลักฐานต่างๆ ในส่วนของผู้ก่อเหตุที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้ที่อยู่บริเวณดังกล่าวมีทั้งคนขับรถตุ๊กตุ๊กและคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น
จากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ซึ่งสามารถติดตามผู้ก่อเหตุมาได้ทั้งหมด สร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ส่วนมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ได้มีการประสานพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ขนส่ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เป็นต้น ออกตรวจสอบที่จอดรถสาธารณะทั้งหมดเพื่อทำความเข้าใจและตรวจสอบประวัติและความถูกต้องต่างๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ จึงขอให้ความมั่นใจไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยหรือต่างชาติที่จะมาท่องเที่ยวในพื้นที่ป่าตอง
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามถึงการก่อเหตุในครั้งนี้เกิดจากใครเริ่มก่อนระหว่างนักท่องเที่ยวและคนขัยรถตุ๊กตุ๊ก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เปิดเผย โดยระบุเพียงว่าทั้ง 2 ฝ่ายให้การสอดคล้องกัน แต่ไม่ระบุว่าใครเริ่มก่อน