สุราษฎร์ธานี - คึกคัก! “เทศกาลเก็บหอยด้วยมือเปล่าท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี” ครั้งที่ 3 ชาวบ้านแห่ลงเรือออกไปจับหอย ในพื้นที่ 30 ไร่ คาดมีหอยไม่น้อยกว่า 30 ตัน

วานนี้ (20 มี.ค.) สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลนิธิป่า ทะเลเพื่อชีวิต บริษัทเชฟรอน เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มประมงชายฝั่ง ต.ท่าทอง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเก็บหอยด้วยมือเปล่าอ่าวบ้านดอน ครั้งที่ 3
ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดทำโครงการป่า-เล ชุมชนส่งเสริมให้ชาวประมงชายฝั่งได้รวมกลุ่มกันเพื่อปกป้องพื้นที่ทะเลที่เป็นที่สาธารณะ พร้อมสนับสนุนจัดหาพันธุ์สัตว์น้ำมาปล่อยในโครงการซึ่งส่วนมากจะเป็นทะเลใกล้บ้าน

หลังจากนั้น ชุมชนได้ช่วยกันเฝ้าระวังรักษา สับเปลี่ยนหมุนเวียนตรวจตราพื้นที่ กำหนดกติกาการใช้ประโยชน์ เช่น ห้ามจับหอยที่ยังโตไม่ได้ขนาด การจับหอยในพื้นที่โครงการให้จับด้วยมือเปล่าเท่านั้น ห้ามใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์เสริมใดๆ พร้อมกันนั้น ก็ช่วยกันระวังพื้นที่ไม่ให้มีการทำประมงด้วยเครื่องมือประมงผิดกฏหมาย เช่น อวนรุน อวนลาก มีการปกป้องลูกไม้ไม่ให้ถูกทำลายจนตั้งตัวได้ และเพิ่มปริมาณลงไปในทะเลได้พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น

ซึ่งในปีนี้ทางชุมชนได้เปิดพื้นที่จับหอยประมาณ 30 ไร่ ซึ่งคาดว่ามีหอยขาวหรือหอยไฟไหม้มากกว่า 30 ตัน โดยกิจกรรมวันนี้มีประชาชนจากหลายอำเภอเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 300 คน ท่ามกลางคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง การเก็บหอยขาวหรือหอยไฟไหม้

ทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างสนุกสนานกับการใช้ชีวิตเป็นชาวประมงพื้นบ้าน และก็ไม่ผิดหวังต่างคว้าหอยด้วยมือเปล่าไปคนละกว่า 20 กิโลกรัม หลังจากการเก็บหอยด้วยมือเปล่าแล้ว ทางชุมชน และทางเจ้าหน้าที่ได้หว่านลูกพันธุ์หอยขาวลงไปในทะเลเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ และเตรียมไว้ให้ประชาชนมาร่วมกิจกรรมจับหอยด้วยมือเปล่าในปีหน้าต่อไป

นายวิชัย สมรูป ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มุ่งแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงทรัพยากรทางทะเล สืบเนื่องจากการที่อ่าวบ้านดอนเป็นอ่าวที่มีการไหลรวมของแม่น้ำสำคัญ 12 สาย จึงเป็นแหล่งอาหารของสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ เหมาะในการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำนานาชนิด โดยเฉพาะสัตว์จำพวกหอยชนิดต่างๆ เช่น หอยนางรม หอยแครง หอยแมงภู่ หอยขาว ทำให้อ่าวบ้านดอนถูกยึดถือครอบครองทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและผิดกฎหมาย ปัจจุบันปัญหาการแย่งชิงพื้นที่ในอ่าวบ้านดอนนับวันจะรุนแรงขึ้นทุกขณะ

แม้ว่าหน่วยราชการหลายหน่วยงานจะพยายามแก้ปัญหาดังกล่าวก็ตาม และโครงการดังกล่าวเป็นการเปิดพื้นที่ให้เป็นพื้นที่สาธารณะให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนได้มาใช้ประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน ภายใต้กติกาที่ชุมชนชายฝั่งในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชิดทรัพยากรเป็นผู้กำหนด เพื่อให้เกิดความเสมอภาค และยั่งยืนตลอดไป

นายวิชัย ยังกล่าวอีกว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ร่วมกับประมงพื้นบ้านและเครือข่ายอนุรักษ์ฯ ได้เปิดพื้นที่สาธารณะ เพื่อทำโครงการป่า-เลชุมชนรอบๆ อ่าวบ้านดอน ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ ไชยา ท่าฉาง พุนพิน เมือง กาญจนดิษฐ์ และดอนสักไปแล้วประมาณ 4,000 ไร่ ซึ่งบางพื้นที่ประสบความสำเร็จและเกิดความยั่งยืน มีการตั้งเป็นกองทุน และประสานงานกับหน่วยงานภาคเอกชนมาช่วยสนับสนุนโครงการ

อย่างกรณี ป่า-เลชุมชน ท่าทอง ซึ่งเป็นที่มาของงานเทศกาลจับหอยด้วยมือเปล่าท่าทองในวันนี้ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวหรือประชาชนทั่วไปอยากจะมาทดลองจับหอยด้วยมือเปล่าสามารถเดินทางเข้ามาได้ ติดต่อมาที่สำนักงานหรือที่ชุมชนบ้านท่าทอง ทางชุมชนมีเรือไว้บริการ โดยเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าเรือ ส่วนการเก็บหอยไปบริโภคหรือนำไปขายไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าการเก็บหอยด้วยมือเปล่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ หอยจึงจะหมด
วานนี้ (20 มี.ค.) สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ร่วมกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลนิธิป่า ทะเลเพื่อชีวิต บริษัทเชฟรอน เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลุ่มประมงชายฝั่ง ต.ท่าทอง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเก็บหอยด้วยมือเปล่าอ่าวบ้านดอน ครั้งที่ 3
ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดทำโครงการป่า-เล ชุมชนส่งเสริมให้ชาวประมงชายฝั่งได้รวมกลุ่มกันเพื่อปกป้องพื้นที่ทะเลที่เป็นที่สาธารณะ พร้อมสนับสนุนจัดหาพันธุ์สัตว์น้ำมาปล่อยในโครงการซึ่งส่วนมากจะเป็นทะเลใกล้บ้าน
หลังจากนั้น ชุมชนได้ช่วยกันเฝ้าระวังรักษา สับเปลี่ยนหมุนเวียนตรวจตราพื้นที่ กำหนดกติกาการใช้ประโยชน์ เช่น ห้ามจับหอยที่ยังโตไม่ได้ขนาด การจับหอยในพื้นที่โครงการให้จับด้วยมือเปล่าเท่านั้น ห้ามใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์เสริมใดๆ พร้อมกันนั้น ก็ช่วยกันระวังพื้นที่ไม่ให้มีการทำประมงด้วยเครื่องมือประมงผิดกฏหมาย เช่น อวนรุน อวนลาก มีการปกป้องลูกไม้ไม่ให้ถูกทำลายจนตั้งตัวได้ และเพิ่มปริมาณลงไปในทะเลได้พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น
ซึ่งในปีนี้ทางชุมชนได้เปิดพื้นที่จับหอยประมาณ 30 ไร่ ซึ่งคาดว่ามีหอยขาวหรือหอยไฟไหม้มากกว่า 30 ตัน โดยกิจกรรมวันนี้มีประชาชนจากหลายอำเภอเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 300 คน ท่ามกลางคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง การเก็บหอยขาวหรือหอยไฟไหม้
ทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างสนุกสนานกับการใช้ชีวิตเป็นชาวประมงพื้นบ้าน และก็ไม่ผิดหวังต่างคว้าหอยด้วยมือเปล่าไปคนละกว่า 20 กิโลกรัม หลังจากการเก็บหอยด้วยมือเปล่าแล้ว ทางชุมชน และทางเจ้าหน้าที่ได้หว่านลูกพันธุ์หอยขาวลงไปในทะเลเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ และเตรียมไว้ให้ประชาชนมาร่วมกิจกรรมจับหอยด้วยมือเปล่าในปีหน้าต่อไป
นายวิชัย สมรูป ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มุ่งแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงทรัพยากรทางทะเล สืบเนื่องจากการที่อ่าวบ้านดอนเป็นอ่าวที่มีการไหลรวมของแม่น้ำสำคัญ 12 สาย จึงเป็นแหล่งอาหารของสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ เหมาะในการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำนานาชนิด โดยเฉพาะสัตว์จำพวกหอยชนิดต่างๆ เช่น หอยนางรม หอยแครง หอยแมงภู่ หอยขาว ทำให้อ่าวบ้านดอนถูกยึดถือครอบครองทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและผิดกฎหมาย ปัจจุบันปัญหาการแย่งชิงพื้นที่ในอ่าวบ้านดอนนับวันจะรุนแรงขึ้นทุกขณะ
แม้ว่าหน่วยราชการหลายหน่วยงานจะพยายามแก้ปัญหาดังกล่าวก็ตาม และโครงการดังกล่าวเป็นการเปิดพื้นที่ให้เป็นพื้นที่สาธารณะให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนได้มาใช้ประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน ภายใต้กติกาที่ชุมชนชายฝั่งในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชิดทรัพยากรเป็นผู้กำหนด เพื่อให้เกิดความเสมอภาค และยั่งยืนตลอดไป
นายวิชัย ยังกล่าวอีกว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ร่วมกับประมงพื้นบ้านและเครือข่ายอนุรักษ์ฯ ได้เปิดพื้นที่สาธารณะ เพื่อทำโครงการป่า-เลชุมชนรอบๆ อ่าวบ้านดอน ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ ไชยา ท่าฉาง พุนพิน เมือง กาญจนดิษฐ์ และดอนสักไปแล้วประมาณ 4,000 ไร่ ซึ่งบางพื้นที่ประสบความสำเร็จและเกิดความยั่งยืน มีการตั้งเป็นกองทุน และประสานงานกับหน่วยงานภาคเอกชนมาช่วยสนับสนุนโครงการ
อย่างกรณี ป่า-เลชุมชน ท่าทอง ซึ่งเป็นที่มาของงานเทศกาลจับหอยด้วยมือเปล่าท่าทองในวันนี้ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวหรือประชาชนทั่วไปอยากจะมาทดลองจับหอยด้วยมือเปล่าสามารถเดินทางเข้ามาได้ ติดต่อมาที่สำนักงานหรือที่ชุมชนบ้านท่าทอง ทางชุมชนมีเรือไว้บริการ โดยเสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าเรือ ส่วนการเก็บหอยไปบริโภคหรือนำไปขายไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งคาดว่าการเก็บหอยด้วยมือเปล่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ หอยจึงจะหมด