xs
xsm
sm
md
lg

อบจ.สตูลจัดฝึกแม่บ้านทำ “ขนมผูกรัก” ขนมท้องถิ่นขึ้นชื่อป้อนตลาดของฝาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
สตูล - อบจ.สตูล จัดฝึกแม่บ้านกลุ่มต่างๆ ทำ “ขนมผูกรัก” ขนมท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อของจังหวัด เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตนำไปป้อนตลาดของฝาก ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว

วันนี้ (7 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวจังหวัดต่างๆ หลายคนย่อมที่จะมองหาของฝากจากจังหวัดนั้นๆ ไว้ติดไม้ติดมือไปฝากคนที่เรารัก เพื่อแสดงความคิดถึงหรือนึกถึง โดยเฉพาะของฝากที่เป็น “ของกินท้องถิ่น” ที่ไม่ว่าซื้อฝากผู้ใหญ่ เพื่อน หรือเด็กเล็กๆ ก็ถูกใจอย่างแน่นอน

ที่จังหวัดสตูล หนึ่งในของฝากประทับใจคือ “ขนมผูกรัก” ด้วยขนมผูกรักได้รับความนิยมทั้งในรสชาติและความหมายของชื่อที่เป็นมงคล ทำให้ในบางช่วงขาดตลาด นักท่องเที่ยวหาซื้อได้ยาก ทาง อบจ.สตูล ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตจึงเปิดสอนให้กลุ่มต่างๆ จัดทำขนมผูกรักเพิ่ม ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
 

 
ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล อ.เมือง จ.สตูล กลุ่มแม่บ้านสตรีและประชาชนกว่า 55 คน ต่างร่วมแรงร่วมใจกันห่อขนมผูกรัก ทอดขนมกันอย่างขะมักเขม้น ซึ่งเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ภายในโครงการส่งเสริมและพัฒนากลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์ OTOP กิจกรรมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การทำขนมผูกรักสู่การขยายฐานการผลิตของฝากขึ้นชื่อจังหวัดสตูล” ที่กองส่งเสริมคุณภาพชีวิต (ฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ) อบจ.สตูล จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ทักษะในการทำขนมผูกรักที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพื่อเป็นแหล่งผลิตต้นแบบของจังหวัดสตูล สามารถสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่ประชาชนในจังหวัดสตูล

“ขนมผูกรัก” ขนมกินเล่นกรุบกรอบไส้ปลา ที่มีรสชาติคล้ายขนมปั้นขลิบไส้ปลาที่เรารู้จักกันดี แต่จะมีความพิเศษที่เป็นความสะดุดตาแรกเห็นก็คือ “ลักษณะการห่อ” ที่จะผูกแผ่นแป้งให้เป็นเงื่อน ซึ่งจะต้องใช้ความชำนาญและความตั้งใจในการผูก เสมือนใช้ความรักในการค่อยๆ ผูก เพราะไม่เช่นนั้นแผ่นแป้งอาจจะขาดหรือผูกไม่แน่นทำให้เมื่อทอดออกมาแล้วได้รูปทรงที่ไม่สวยได้ “ขนมผูกรัก” จึงเป็นของฝากที่นิยมซื้อไปฝากคนพิเศษ เพราะเป็นเหมือนตัวแทนความรักจากผู้ให้ถึงผู้รับนั่นเอง
 

 
นางอรรถยา อารีกุล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมคุณภาพชีวิต (อบจ.สตูล) กล่าวว่า เป็นการส่งเสริมการทำขนมผูกรัก โดยเป้าหมายเป็นกลุ่มที่ทำขนมพื้นเมืองอยู่แล้วแต่ไม่ได้ทำขนมผูกรัก ส่วนนี้ก็เอามาพัฒนาต่อยอดเพื่อที่จะให้มีรูปแบบเดียวกัน และเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดสตูล ให้ความรู้ในเรื่องของการจัดเก็บ การลดความหื่นของขนม ซึ่งมันเป็นขนมที่เป็นของฝากของจังหวัดสตูลที่มีความอร่อย มีชื่อที่ไพเราะ ส่วนใหญ่แล้วจะทำอยู่แค่ 2 อำเภอ คือ อ.เมือง กับ อ.ละงู จากเสียงเรียกร้องของนักท่องเที่ยวที่มาต้องการให้กระจายไปในแหล่งท่องเที่ยวต่างจังหวัด เราก็เลยเชิญกลุ่มที่ทำขนมพื้นเมืองอยู่แล้วมาต่อยอดพัฒนาให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น

ด้าน นางเสาวณีย์ รอดเสน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านดาหลำ กล่าวว่า มาเรียนรู้และทำขนมผูกรักเพื่อต่อยอดสร้างงาน สร้างรายได้ และทำให้ขนมผูกรักเพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้นไป ซึ่งในปัจจุบันตนเองและทางกลุ่มก็ทำแต่มาเรียนรู้เพิ่มเติมในการทำอย่างถูกวิธีและเก็บรักษาให้นาน ส่วนการตลาดลูกค้าที่สั่งซื้อนำไปรับประทาน มีทั้งในประเทศไทยทั่วทุกจังหวัดและไปไกลถึงต่างประเทศเลยทีเดียวที่สั่งซื้อ โดยจัดจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 250 บาท
 

 
สำหรับการทำความพิเศษก็คือ “แผ่นแป้ง” ที่ใช้ห่อ จะต้องเป็นแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะแบบบาง ซึ่งไม่ใช่แผ่นแป้งแบบที่ใช้ทอดเปาะเปี๊ยะจีนไส้ผัก ไส้วุ้นเส้น แผ่นแป้งนี้จะต้องนำเข้าจากมาเลเซียเท่านั้น เพราะจะบางเนียนและรสชาติดีกว่าเหมาะที่จะนำมาทำขนมผูกรัก

ไส้ขนมจะทำจากเนื้อปลาทูแขก (ปลาทูตัวใหญ่) หรือปลาทะเลที่มีอยู่ในท้องถิ่น เอามานึ่งแล้วนำเฉพาะเนื้อปลามาบดเองด้วยมือ ผัดกับพริกแกงที่ประกอบไปด้วย พริกเม็ดเล็ก พริกเม็ดใหญ่ ขิง ข่า ตะไคร้ หอมแดง ซึ่งเมื่อกินเข้าไปแล้ว บางคนจะไม่รู้ว่าเป็นไส้ปลาด้วยซ้ำ เพราะว่าเครื่องแกงที่ใช้ผัดนั้น เป็นสมุนไพรที่ช่วยดับกลิ่นคาวปลาได้ดีมาก
 

 
ในส่วนการห่อนั้น แค่นำไส้ปลาใส่ประมาณหยิบมือเล็กๆ ตรงกลางแผ่นแป้งแล้วห่อผูกให้เป็นเงื่อน จากนั้นจึงนำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัดและใช้ไฟปานกลาง จะใช้ไฟแรงไม่ได้ไม่อย่างนั้นไส้จะไหม้ ทอดจนไส้ปลามีสีน้ำตาลเข้มขึ้นและแผ่นแป้งเป็นสีเหลือง จึงตักช้อนขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน เป็นอันเสร็จขั้นตอน

หากมาสตูลแล้วได้ลองกิน “ขนมผูกรัก” ที่ทอดเสร็จใหม่ๆ หอมไส้ปลาผัดกับเครื่องสมุนไพร คู่กับน้ำชาร้อนสักแก้ว คงอดไม่ได้ที่จะซื้อติดมือกลับไปอร่อยเพลินต่อที่บ้านแน่นอน และถึงขนมนี้จะไม่ใส่สารกันบูด แต่ก็มีกรรมวิธีการทำที่ใส่ใจทุกขั้นตอน จึงทำให้สามารถเก็บขนมผูกรักได้นาน และหากเก็บไว้ในตู้เย็นจะเก็บได้ถึง 2 เดือนเลยทีเดียว
 



กำลังโหลดความคิดเห็น