ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศาลจังหวัดสงขลาตัดสินประหารชีวิตรองนายก อบต.จ้างวานฆ่านายก อบต.เขาพระ จ.สงขลา มือปืน-คนรับงานก็ไม่รอด ส่วน ตร.คุ้มกันรับโทษจำคุกตลอดชีวิต ปิดฉากคดีฆ่า “เพื่อนรักเพื่อนแค้น” จากปัญหาถูกไล่ออกทั้งผัวเมีย หนี้สินอีก 3 แสนบาท หมดความอดทน จ้างมือปืนมายิงทิ้ง ดับแค้น ค่าหัว 7 แสนบาท
วันนี้(28 ก.พ.) ศาลจังหวัดสงขลาได้พิพากษาตัดสินประหารชีวิตจำเลยในคดียิงนายอุดม ขุนศรีหวาน อายุ 49 ปี หรือ “นายกดม” นายก อบต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เสียชีวิต ภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่งริม ถ.ยนตรการกำธร พื้นที่ ม.3 ต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 พ.ย. 2561 จำนวน 3 คน ประกอบด้วย1.นายกนิษฐา เพ็ชรสุก อดีตรองนายก อบต.เขาพระ ผู้จ้างวาน 2.นายพิศาล สุขการ มือปืน และ 3.นายวันชัย สุขการ พ่อของนายพิศาล เป็นคนรับงานและขับรถ ส่วนอีก 1 คน คือ ส.ต.ท.ณวงศ์ยศ กาญจนะแก้ว ตำรวจ สภ.ตันหยง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นคนคุ้มกัน ศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 10 พ.ย. 2561 ขณะที่นายอุดมนั่งทานกาแฟอยู่ที่ร้านคนเหล็ก ซึ่งเป็นร้านประจำ กลุ่มคนร้ายทั้ง 4 คน ขับรถมิตซูบิชิปาเจโร่สีขาวมาจอดที่หน้าร้าน แล้วคนร้ายได้ลงไปกระหน่ำยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น 3 นัด ทำให้นายอุดมเสียชีวิตคาที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.จ.สงขลาร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 ใช้เวลาแค่ 1 เดือน ก็จับกุมทีมฆ่าได้ยกทีมทั้ง 4 คน ส่วนสาเหตุการสังหารมาจากกรณีที่นายกอุดมได้ไล่นายกนิษฐา ผู้จ้างวานออกจากตำแหน่งรองนายก อบต.เขาพระ เมื่อปี 2555 ทั้งที่เป็นเพื่อนรักกัน เพราะขัดแย้งกันเกี่ยวกับการบริหารงานภายใน อบต.
และจากนั้นในปี 2560 ยังได้ไล่ภรรยาของนายกนิษฐาออกจากตำแหน่งครูอัตราจ้างอีก 1 คน นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องหนี้สินที่นายกนิษฐากู้ยืมจาก อบต.เขาพระกว่า 3 แสนบาท โดยมีเจ้าหน้าที่ อบต.เป็นคนค้ำ และนายกอุดมได้โทรศัพท์ทวงถาม ยิ่งสร้างความโกรธแค้นให้แก่ นายกนิษฐาเป็นอย่างมาก จึงได้ติดต่อทีมมือปืนให้มายิงนายกอุดม เพื่อล้างแค้น โดยตั้งค่าหัว 7 แสนบาท และร่วมกันวางแผนมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 2561กระทั่งในวันเกิดเหตุได้สบโอกาสลงมือจนสำเร็จ แต่ก็หนีไม่รอดจนมาถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
สำหรับทีมฆ่าทั้ง 3 คน ถูกแจ้ง 5 ข้อหาหนัก คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว
