สุราษฎร์ธานี - บุกพิสูจน์ อุโมงค์ปริศนาเจาะลอดใต้ภูเขาเกาะสมุย พบที่ดินเป็นของบริษัทดัง แต่ไม่มีใบอนุญาตขุดเจาะอุโมงค์ ทางเทศบาลนครเกาะสมุย ประกาศห้ามใช้ จนกว่าเจ้าของที่ดินจะนำเอกสารเข้าพบพนักงาน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการพบอุโมงค์ปริศนา ใต้ภูเขาบริเวณบ้านใต้ หมู่ 5 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยในการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ มีนายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย น.ส.สิตาทิพย งามพงศ์ศานตร์ ปลัดอำเภอเกาะสมุย รับผิดชอบงานศูนย์รับเรื่องร้องเรียนศูนย์ดำรงค์ธรรม อำเภอเกาะสมุย นายอดิศักดิ์ สำเนียงเสนาะ เจ้าพนักงานรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินอำเภอเกาะสมุย ร.ท.อดุลย์ พรหมบุตร หัวหน้าชุดปฏิบัติการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยมณฑลทหารบกที่ 45 พื้นที่เกาะสมุย พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบอุโมงค์ปริศนา จากการตรวจสอบพบว่าอยู่ในที่ดิน จำนวน 2 แปลง ที่มีคนไทย 2 คน ชาวต่างชาติ 1 คน ถือครองและจดทะเบียนในรูปบริษัท จำนวน 4 ไร่ 3 งาน 57.0 ตารางวา ซึ่งที่ดินดังกล่าว ด้านหลังติดชายทะเลหาดบ้านใต้ มีภูเขากั้นกลาง ส่วนด้านหลัง เป็นป่าละเมาะ มีถนนส่วนตัว อยู่ห่างจากถนนสายทวีราษฎร์ภักดี หรือถนนรอบเกาะสมุย เพียง 200 เมตร ซึ่งจากการตรวจสอบ นายอดิศักดิ์ สำเนียงเสนาะ เจ้าพนักงานรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินอำเภอเกาะสมุย ได้ทำการเช็กพิกัดดาวเทียม ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดิน บริเวณอุโมงค์ใต้ภูเขาชายหาดบ้านใต้ ตำบลแม่น้ำ

นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า ปรากฏผลชัดเจนแล้วว่าที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่บนโฉนดที่ดิน 2 แปลง ในส่วนของใบอนุญาตสร้างอาคารที่ขุดเจาะอุโมงค์นั้น จากการตรวจสอบที่สำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุย ไม่พบว่ามีการขออนุญาตขุดเจาะอุโมงค์ และพบว่าอุโมงค์ดังกล่าว ขุดเจาะเมื่อปี 2548-2549 ในเบื้องต้นจะแจ้งให้ทางบริษัทนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดง หากพบว่าไม่ได้ขออนุญาตการก่อสร้างอาคาร ทางเทศบาลนครเกาะสมุย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร หากไม่มีเอกสารในการก่อสร้างมาแสดง ก็ถือว่าก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายพัลลภ ยังกล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีนี้ เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวมีโฉนด มีเอกสารสิทธิ และมีกรรมสิทธิ์ สามารถดำเนินการให้ถูกต้องได้ ซึ่งทางเทศบาลนครเกาะสมุย จะสั่งการให้นายช่างเขต แจ้งคำสั่งให้ดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป ขณะเดียวกัน การขุดเจาะอุโมงค์ มีพระราชบัญญัติเดียวกันกับพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า โครงสร้างอุโมงค์ดังกล่าวที่สร้างมาแล้วกว่า 10 ปี พบว่ายังมีความมั่นคงและแข็งแรง และในขั้นตอนต่อไปนี้อุโมงค์ดังกล่าวที่อยู่ในระหว่างพิสูจน์ทราบ ในเบื้องต้นยังไม่อนุญาตให้กระทำการใดๆ ได้ ซึ่งในส่วนของทางเทศบาลนครเกาะสมุย จะให้ทางช่างเขตของทางเทศบาลนครเกาะสมุย ดำเนินการสั่งให้เจ้าของเร่งดำเนินการให้ถูกต้อง พร้อมนำคำสั่งห้ามกระทำการใดๆ มาติดประกาศต่อไป นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย กล่าว

สำหรับอุโมงค์ปริศนาดังกล่าว มีความกว้างกว่า 3.50 เมตร สูงประมาณ 5 เมตร มีความยาวเกือบ 100 เมตร เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวพบเจอ พร้อมถ่ายภาพลงโซเชียล ว่าพบอุโมงค์ลึกลับใต้ภูเขาบนเกาะสมุย พร้อมชี้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบอุโมงค์ปริศนาดังกล่าว
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการพบอุโมงค์ปริศนา ใต้ภูเขาบริเวณบ้านใต้ หมู่ 5 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยในการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ มีนายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย น.ส.สิตาทิพย งามพงศ์ศานตร์ ปลัดอำเภอเกาะสมุย รับผิดชอบงานศูนย์รับเรื่องร้องเรียนศูนย์ดำรงค์ธรรม อำเภอเกาะสมุย นายอดิศักดิ์ สำเนียงเสนาะ เจ้าพนักงานรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินอำเภอเกาะสมุย ร.ท.อดุลย์ พรหมบุตร หัวหน้าชุดปฏิบัติการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยมณฑลทหารบกที่ 45 พื้นที่เกาะสมุย พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบอุโมงค์ปริศนา จากการตรวจสอบพบว่าอยู่ในที่ดิน จำนวน 2 แปลง ที่มีคนไทย 2 คน ชาวต่างชาติ 1 คน ถือครองและจดทะเบียนในรูปบริษัท จำนวน 4 ไร่ 3 งาน 57.0 ตารางวา ซึ่งที่ดินดังกล่าว ด้านหลังติดชายทะเลหาดบ้านใต้ มีภูเขากั้นกลาง ส่วนด้านหลัง เป็นป่าละเมาะ มีถนนส่วนตัว อยู่ห่างจากถนนสายทวีราษฎร์ภักดี หรือถนนรอบเกาะสมุย เพียง 200 เมตร ซึ่งจากการตรวจสอบ นายอดิศักดิ์ สำเนียงเสนาะ เจ้าพนักงานรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินอำเภอเกาะสมุย ได้ทำการเช็กพิกัดดาวเทียม ทำการตรวจสอบแนวเขตที่ดิน บริเวณอุโมงค์ใต้ภูเขาชายหาดบ้านใต้ ตำบลแม่น้ำ
นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า ปรากฏผลชัดเจนแล้วว่าที่ดินดังกล่าวตั้งอยู่บนโฉนดที่ดิน 2 แปลง ในส่วนของใบอนุญาตสร้างอาคารที่ขุดเจาะอุโมงค์นั้น จากการตรวจสอบที่สำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุย ไม่พบว่ามีการขออนุญาตขุดเจาะอุโมงค์ และพบว่าอุโมงค์ดังกล่าว ขุดเจาะเมื่อปี 2548-2549 ในเบื้องต้นจะแจ้งให้ทางบริษัทนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดง หากพบว่าไม่ได้ขออนุญาตการก่อสร้างอาคาร ทางเทศบาลนครเกาะสมุย ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร หากไม่มีเอกสารในการก่อสร้างมาแสดง ก็ถือว่าก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายพัลลภ ยังกล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีนี้ เนื่องจากที่ดินแปลงดังกล่าวมีโฉนด มีเอกสารสิทธิ และมีกรรมสิทธิ์ สามารถดำเนินการให้ถูกต้องได้ ซึ่งทางเทศบาลนครเกาะสมุย จะสั่งการให้นายช่างเขต แจ้งคำสั่งให้ดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป ขณะเดียวกัน การขุดเจาะอุโมงค์ มีพระราชบัญญัติเดียวกันกับพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า โครงสร้างอุโมงค์ดังกล่าวที่สร้างมาแล้วกว่า 10 ปี พบว่ายังมีความมั่นคงและแข็งแรง และในขั้นตอนต่อไปนี้อุโมงค์ดังกล่าวที่อยู่ในระหว่างพิสูจน์ทราบ ในเบื้องต้นยังไม่อนุญาตให้กระทำการใดๆ ได้ ซึ่งในส่วนของทางเทศบาลนครเกาะสมุย จะให้ทางช่างเขตของทางเทศบาลนครเกาะสมุย ดำเนินการสั่งให้เจ้าของเร่งดำเนินการให้ถูกต้อง พร้อมนำคำสั่งห้ามกระทำการใดๆ มาติดประกาศต่อไป นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย กล่าว
สำหรับอุโมงค์ปริศนาดังกล่าว มีความกว้างกว่า 3.50 เมตร สูงประมาณ 5 เมตร มีความยาวเกือบ 100 เมตร เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวพบเจอ พร้อมถ่ายภาพลงโซเชียล ว่าพบอุโมงค์ลึกลับใต้ภูเขาบนเกาะสมุย พร้อมชี้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบอุโมงค์ปริศนาดังกล่าว