ศูนย์ข่าวภูเก็ต – ผู้ว่าฯภูเก็ตสั่งเจ้าของโครงการคอนโดมิเนียมหรูที่ภูเก็ต เจรจาตกลงค่าเสียหายกับเจ้าของบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการตอกเสาเข็มและก่อสร้าง พร้อมให้หยุดก่อสร้างในส่วนที่ส่งผลกระทบไว้ชั่วคราวก่อนจนกว่าจะสามารถเจรจาตกลงกันได้
จากกรณีที่มีการร้องเรียนการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อบ้านเลขที่ 95 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากการก่อสร้างโครงการและการตอกเสาเข็ม ทำให้เกิดฝุ่นละออง เสียงดัง และตัวบ้านได้รับความเสียหายจากการก่อสร้าง โดยที่ผ่านมาทางทนายความตัวแทนเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้ร้องเรียนไปยังบริษัทเจ้าของโครงการ รวมถึงเทศบาลตำบลวิชิต เพื่อสั่งระงับการก่อสร้างจนกว่าจะหามาตรการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นได้ รวมทั้งได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.วิชิต อีกด้วย
ขณะเดียวกัน นายเสกสรรค์ เสนาชู ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท เอส วี อิมปอร์ต จำกัด ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2562 ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างโครงการดังกล่าว โดยระบุว่า ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการ ได้แก่ ฝุ่นละออง เสียงดัง ความเสียหายจากการตอกเสาเข็ม ระยะถอยร่นไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และขอให้ระงับการก่อสร้าง หรือเพิกถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมนั้น
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2562 ที่ผ่านมา สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีหนังสือตอบกลับมายังนายเสกสรรค์ เสนาชู ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท เอส วี อิมปอร์ต จำกัด และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรื่องขอให้ระงับการก่อสร้างและเพิกถอนการอนุญาตรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการคอนโดมิเนียมหรูดังกล่าว
โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ได้รับรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการดังกล่าว ทางสำนักงานนโยบายฯ จึงขอส่งเรื่องดังกล่าวให้ทางจังหวัดภูเก็ต เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และให้แจ้งผลการแก้ไขให้ผู้ร้องเรียนทราบ
ล่าสุด นายภัคพงศ์ ทวิวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยความคืบหน้ากับ “ผู้จัดการรายวัน 360” ว่า ทางจังหวัดภูเก็ตได้รับหนังสือจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว และได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ร้องเรียนได้มีการร้องเรียนไปที่ สผ.โดยชื่อคู่กรณีที่ระบุไปนั้นไม่ตรงกับ EIA ของโครงการที่ผู้ร้องร้องว่าได้รับผลกระทบ และโครงการดังกล่าวไม่ทำ EIA ทาง สผ.ได้ทำการตรวจสอบตามรายชื่อที่ผู้ร้องระบุไป แต่ไม่พบรายงานผลกระทบ EIA ของบริษัทดังกล่าว แต่เมื่อทาง สผ.ได้ส่งหนังสือมาให้ทางจังหวัดทำการตรวจสอบ ทางจังหวัดก็ได้ทำการตรวจสอบ EIA ของโครงการดังกล่าว และตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่า โครงการดังกล่าวมีการทำ EIA ตามที่กฎหมายกำหนด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการตรวจสอบแล้วเสร็จ ในส่วนของจังหวัดได้ให้ทางเทศบาลตำบลวิชิต เจ้าของพื้นที่เข้าดำเนินการให้ทั้งสองฝ่ายตกลงเจรจาตกลงชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้างให้เป็นที่ยอมรับทัั้งสองฝ่ายต่อไป และให้หยุดการก่อสร้างที่ส่งผลกระทบต่อบ้านหลังดังกล่าวไว้ชั่วคราวจนกว่าจะสามารถเจรจาตกลงค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้