xs
xsm
sm
md
lg

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มบ้านเห็ดเบตง ลงมือเพาะ “เห็ดถั่งเช่า” สร้างรายได้ 5 แสนต่อเดือน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ยะลา - วิสาหกิจชุมชน กลุ่มบ้านเห็ดเบตง จ.ยะลา ลงมือเพาะ “เห็ดถั่งเช่า” สร้างรายได้ราว 5 แสนบาทต่อเดือน เตรียมนำต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ หวังตอบโจทย์การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

วันนี้ (20 ก.พ.) ที่ทำการวิสาหกิจชุมชน กลุ่มบ้านเห็ดเบตง เลขที่ 126 ถนนประชาธิปัตย์ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านของ นายสมชาย เชี่ยวชาญศิลป์ หรือชาย วัย 45 ปี บัณฑิตสาขาวิชาโรคพืช คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

หลังจากเรียนจบ นายสมชายทำงานได้เพียง 8 ปี ก็ตัดสินใจกลับบ้านเกิด ที่ อ.เบตง จ.ยะลา โดยมีทุนรอนเดิมที่บ้าน คือทำสวนยางพารา 100 ไร่ ต่อมาได้ปรึกษากับครอบครัวในการตัดสวนยางพาราทิ้งให้เหลือเพียง 50 ไร่ เนื่องจากราคายางพาราขึ้นเร็วลงเร็ว และอยู่บนพื้นฐานความไม่แน่นอน จากนั้นพลิกผืนดิน 50 ไร่นี้ มาปลูกส้มโชกุน ซึ่งนับเป็นพืชปราบเซียนชนิดหนึ่งเลยทีเดียว

หลังจากที่ปลูกส้มโชกุนกว่า 50 ไร่ ก็ได้หันมาดูเรื่องเห็ดถั่งเช่า โดยได้บอกว่า เริ่มต้นเดิมทีมาจากการที่มองว่า ในช่วงเวลานี้กระแสการดูแลสุขภาพมาแรง ก็เลยเข้าไปค้นกว้าหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่าเราควรทำตัวไหนดี ดูไปดูมามาจบที่เห็ดถั่งเช่า ซึ่งที่ผ่านมามีงานวิจัยรองรับค่อนข้างมาก และชัดเจน จากนั้นได้ไปซื้อน้ำเชื้อมาชุดแรก และนำมาขยายพันธุ์เอง โดยมีความรู้ด้านโรคพืชอยู่แล้ว ขั้นตอนนี้จึงไม่มีปัญหา
 

 
น้ำเชื้อถั่งเช่าชุดแรก ถูกขยายพันธุ์และเก็บเชื้อ โดยใน 3 เดือนจะเก็บได้ 1 รุ่น ซึ่งนายสมชาย ก็ได้อธิบายเพิ่มเติมในส่วนของเชื้อเห็ดถั่งเช่าว่า ถั่งเช่ามันเป็นเห็ด เห็ดตัวนี้จริงๆ เกิดจากตัวหนอนที่มีอยู่มากแถวทิเบต หรือที่ภูฎาน

เริ่มต้นคือหนอนตัวนี้ในช่วงหน้าหนาว มันจะมีการพักตัว ซึ่งในช่วงพักตัวนี้เองที่จะมีเชื้อราชนิดหนึ่งเข้าไปโจมตีตัวหนอน ด้วยการไปเจริญเติบโต และดูดสารอาหารจากตัวหนอน จนเชื้อราเดินเต็ม เมื่ออากาศอุ่นขึ้น เชื้อราตัวนี้ที่ว่าก็เริ่มแทงดอกออกเป็นเห็ดขึ้นมา ที่เราเรียกว่า เห็ดถั่งเช่า

“ในส่วนนี้เราได้รวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน กลุ่มบ้านเห็ดเบตง โดยมีสมาชิก 17 คน ซึ่งกลุ่มเราจัดเป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง จนได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 2 กลุ่มของทั้ง จ.ยะลา โดยทางภาครัฐก็เข้ามาส่งเสริมในเรื่ององค์ความรู้ใหม่ๆ บรรจุภัณฑ์ โดยตอนนี้เราทำเป็นในรูปแบบของชา และมีขายเป็นแคปซูล เป็นอาหารเสริม”

“ทำเป็นชาเราใช้เห็ดราว 3-4 เส้นต่อซอง ขายซองละ 50 บาท บรรจุกล่องละ 10 ซอง ราคา 500 บาท ส่วนแคปซูล ใน 1 กระปุกมี 60 แคปซูล ราคา 1,500 บาท โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีสินค้าทำนองนี้ขายลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะมาจากสิงคโปร์หรือมาเลเซีย ที่ตอนนี้เข้ามาเที่ยวเบตงค่อนข้างมาก ถ้าเราทำได้ต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ ต่อไปเราจะเหมือนเกาหลีหรือจีน ที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวจะต้องซื้อโสม หรือบัวหิมะกลับไป” นายสมชาย กล่าว
 

 
นอกจากนี้ ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในวิสาหกิจชุมชน คือผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าสีทองตัวใหม่ คือกาแฟผสมถั่งเช่าสีทอง กับตงกัตอาลี หรือปลาไหลเผือก ซึ่งจากงานวิจัยพบว่า พืชสมุนไพรป่าชนิดนี้ คือสมุนไพรปลาไหลเผือก เป็นที่ขึ้นชื่อในท้องถิ่นภาคใต้ของประเทศไทย มีชื่อว่า “ตงกัตอาลี” และได้รับความนิยมนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมรรถภาพทางเพศ หรือยาปลุกเซ็กส์ โดยมีวางจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด และเป็นที่นิยมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และในประเทศมาเลเซีย

โดยสมุนไพรปลาไหลเผือก ถือว่าเป็นสมุนไพรหายากที่หมอพื้นบ้านนำมาใช้รักษาโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นใช้รากมาต้มถ่ายพิษต่างๆ ถ่ายพิษไข้ แก้ไข้ รักษามาลาเรีย ความดันเลือดสูง อัมพาต รวมทั้งมีฤทธิ์กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ได้ว่ากระบวนการพัฒนาสมุนไพร ซึ่งเป็นศาสตร์โบราณ สามารถนำไปสู่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่นำไปสู่พัฒนาให้เป็นยาปลุกเซ็กส์ได้
 

 
นอกจากนี้ ยังจะมีการต่อยอดพัฒนาถั่งเช่าสีทองผสมกับรังนกอีกด้วย และเมื่อนำวัตถุดิบ 2 ชนิด ที่บำรุงร่ายกายมาผสมกับถั่งเช่าสีทอง จะสามารถเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนรักษาสุขภาพ ทั้งคนในพื้นที่ อ.เบตง และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์

สำหรับกำลังการผลิตต่อเดือนในช่วงนี้ ทางกลุ่มสามารถผลิตดอกแห้งได้ราว 1.5 กิโลกรัม และแบบผงอีกราว 10 กิโลกรัม ซึ่งหากขายหมดจะมียอดรายได้ราว 5 แสนบาทต่อเดือน สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อนายสมชาย ได้ที่ 126 ถนนประชาธิปัตย์ อ.เบตง จ.ยะลา 95000 โทร. 073-230132 หรือ 089-776-4107
 




กำลังโหลดความคิดเห็น