ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์รถเก๋งชนไฟไหม้เข้าพบ นอภ.หาดใหญ่ เพื่อขอคำปรึกษา แม้กรณีนี้ไม่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือ แต่ส่วนราชการจะพยายามหาทางช่วย เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหาย ด้านคนขับรถเก๋งออกจาก รพ.แล้ว พนักงานสอบสวนรุดสอบปากคำ รับดื่มเบียร์กับเพื่อน ก่อนหลับในขณะขับรถ สภาพจิตใจยังย่ำแย่ ไม่พร้อมที่จะพบหรือพูดคุยกับใคร เจ้าทุกข์โผล่อีกราย ค่าเสียหารวม 81.5 ล้านบาท
วันนี้(20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าเหตุรถเก๋งพุ่งชนร้านบางกอกลิฟวิ่งมอลล์ ซึ่งเป็นร้านเฟอร์นิเจอร์ ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่18 ก.พ.ที่ผ่านมา และเกิดไฟลุกไหม้ร้านเฟอร์นิเจอร์หมดทั้งหลัง ค่าเสียหายประมาณ 80 ล้านบาทนั้นว่า ล่าสุด นายอัชอารีย์ วันดับดุลเลาะฮ์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านบางกอกลิฟวิ่งมอลล์ ได้เข้าพบนายสมศักดิ์ จันทรชู นายอำเภอหาดใหญ่ เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับแนวทางการขอรับความช่วยเหลือเยียวยาว่า จะขอรับความช่วยจากหน่วยงานใดได้บ้าง รวมทั้งในเรื่องของข้อกฎหมายในคดีนี้ ซึ่งในเบื้องต้น กรณีนี้ไม่เข้าข่ายที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยา เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุมีคู่กรณี และไม่ใช่เป็นสาธารณภัย รวมทั้งไม่ได้อยู่ในพื้นที่ความมั่นคง อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ได้รายงานเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบแล้ว และจะพยายามหาทางช่วยเหลือให้ได้มากที่สุดตามระเบียบของทางราชการ
นายอัชอารีย์ เปิดเผยว่า ในส่วนของคดีจะดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่งกับคู่กรณีเรื่องค่าเสียหาย แต่สุดท้ายแล้วจะได้หรือไม่ได้นั้น ก็ค่อยมาว่ากันอีกที และหลังเกิดเหตุยังไม่ได้รับการติดต่อหรือพูดคุยกับคู่กรณีแต่อย่างใด แต่ยืนยันว่าจะยังคงสู้ต่อไป และจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง หลังจากที่เสร็จสิ้นทางคดี และขณะนี้ได้รับกำลังใจจากทุกภาคส่วนที่เข้าไปเยี่ยมเยียนและแสดงความห่วงใย รวมถึงผู้นำทางศาสนา ทั้งในพื้นที่และคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย และองค์กรด้านมนุษยธรรม
ส่วนความคืบหน้าอาการของนายพฤหัส แซ่จิว อายุ 26 ปี คนขับเก๋ง ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงของเมื่อวานนี้ได้ออกจากโรงพยาบาลหาดใหญ่แล้ว และกลับไปพักฟื้นอยู่ที่บ้านพัก และพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ได้ไปสอบปากคำที่บ้านพักในพื้นที่ ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วเช่นกัน โดยนายพฤหัสรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ไปนั่งดื่มเบียร์กับเพื่อนพอสมควร และขับรถกลับบ้าน แต่ระหว่างทางได้เกิดหลับใน รถจึงพุ่งชนร้านเฟอร์นิเจอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้นายพฤหัสมีสภาพจิตใจย่ำแย่ ไม่พร้อมที่จะพบหรือพูดคุยกับใคร ซึ่งหลังจากที่ผลตรวจแอลกอฮอร์ออกมา พนักงานสอบสวนจะเรียกตัวนายพฤหัสมารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้ตั้ง 2 ข้อหาคือ ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย และขับรถขณะเมาสุรา นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนจะเชิญผู้เสียหาย ทั้งเจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์และเจ้าของร้านเหล็ก ที่อยู่ข้างเคียงและได้รับความเสียหายด้วย มาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อสรุปความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยในส่วนของร้านเหล็กนั้นมีค่าเสียหาย 1 ล้าน 5 แสนบาท ส่วนร้านเฟอร์เจอร์เบื้องต้นอยู่ที่ 80 ล้านบาท แต่ยังไม่สรุปตัวเลขที่ชัดเจน
