เจ้าของร้านค้าย่านอ่าวนาง กระบี่ แฉนักท่องเที่ยวต่างชาติแอบขโมยสินค้า เตือนผู้ประกอบการระวัง

กระบี่ - เจ้าของร้านค้าในอ่าวนาง โวยนักท่องเที่ยวต่างชาติทำตัวเป็นแมวชอบขโมยของบ่อยครั้ง เตือนผู้ประกอบการให้ระวัง พบเป็นพฤติกรรมที่ระบาดในพื้นที่

วันนี้ (13 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า หลังจากผู้ประกอบการในหาดอ่าวนางรายหนึ่ง นำคลิปวิดีโอขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กำลังเข้าไปซื้อของภายในร้าน และอาศัยจังหวะที่เจ้าของร้านเผลอ ขโมยชุดว่ายน้ำแล้วเดินหนีไปหน้าตาเฉย โดยหลังคลิปนี้ถูกนำมาเผยแพร่ ปรากฏว่า ผู้คนในพื้นที่ต่างพูดถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่อ่าวนาง ไปพบกับ น.ส.เนตรดาว วิวัฒน์รัศมี อายุ 34 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้า เลขที่ 130 หมู่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นผู้นำคลิปดังกล่าวมาโพสต์ และเจ้าตัวได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวนาง หลังจากเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวต่างชาติ 2 คน ทำทีเข้ามาดูเสื้อผ้าในร้าน ก่อนที่ 1 ใน 2 จะอาศัยจังหวะที่เจ้าของร้านและพนักงานเผลอ หยิบเอาชุดว่ายน้ำที่แขวนโชว์อยู่ใส่กระเป๋า แล้วเดินกลับออกไป ซึ่งกล้องวงจรปิดของร้านสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้

น.ส.เนตรดาว กล่าวว่า ตนเปิดร้านจำหน่ายเสื้อผ้าที่อ่าวนางอยู่ 2 ร้าน ที่ผ่านมา ถูกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้ามาขโมยของในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง เฉพาะร้านที่เกิดเหตุล่าสุดโดนขโมยมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งก็ไปแจ้งความไว้ แต่ก็ไม่สามารถจับกุมตัวคนก่อเหตุได้ นอกจากนี้ ยังมีร้านของพี่สาวอีก 3 ร้าน ก็เคยโดยกระทำในลักษณะเช่นนี้เหมือนกัน โดยนักท่องเที่ยวที่ก่อเหตุ มักจะมาด้วยกันอย่างน้อย 2 คน จะให้คนหนึ่งมาคุยกับพนักงาน หรือเจ้าของร้าน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ จากนั้นอีกคนจะอาศัยจังหวะดังกล่าวแอบหยิบขโมยของไป ซึ่งร้านที่มักจะถูกขโมยของส่วนใหญ่จะเป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้า หรือสินค้าที่ระลึก ตนจึงอยากเตือนผู้ประกอบการร้านค้าในหาดอ่าวนาง และตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ให้ระมัดระวังพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไว้ด้วย เพราะเมื่อเกิดเหตุแล้วจะตามตัวมาดำเนินคดีก็ยาก

น.ส.เนตรดาว กล่าวว่า สำหรับเสื้อผ้าที่ถูกนักท่องเที่ยวสาว ขโมยไปจากร้านเป็นชุดว่ายน้ำแบบทูพีซ ลายแตงโม ราคา 550 บาท ถึงแม้ว่าราคาสินค้าไม่มากมาย แต่ก็เจ็บใจที่ถูกนักท่องเที่ยวแอบขโมยสินค้าในร้านบ่อยครั้ง สำหรับร้านแห่งนี้ที่รู้ตัวโดนนักท่องเที่ยวขโมยสินค้าภายในร้านมาแล้ว 3 ครั้ง รวมทั้งโทรศัพท์ ไอโฟน 10

ขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ในพื้นที่อ่าวนาง ต่างให้ข้อมูลเช่นกัน โดยผู้ประกอบการหญิงรายหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ใกล้กับจุดเกิดเหตุล่าสุด เผยว่า ก่อนนี้ก็เคยได้ยินผู้ประกอบการด้วยกันบอกว่ามีนักท่องเที่ยวขโมยของในพื้นที่อ่าวนางหลายครั้งแล้ว แต่ในส่วนของร้านตนเองก็ไม่แน่ใจว่าเคยโดนหรือไม่ เพราะที่ร้านไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด ประกอบกับสินค้าในร้านเป็นพวกกิฟต์ชอปชิ้นเล็กๆ อาจจะมีบ้างที่ถูกขโมยไป แต่ก็ไม่คิดจะเอาเรื่องอะไร เพราะเราไม่มีพยานหลักฐาน และตนเองก็ไม่สามารถดูแลพื้นที่ร้านได้ทั้งหมดเวลามีลูกค้าเข้ามาพร้อมๆ กัน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากเหตุที่เกิดเมื่อคืนวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ก.พ. นายสหรัฐ จิ๋วสกุล อายุ 21 ปี พนักงานบนเรือเฟอร์รี่ที่ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา ได้เข้าแจ้งความต่อ ตร.สภ.อ่าวนาง ว่าถูกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขโมยกระเป๋าสะพายไปขณะเดินทางกลับมาจากเกาะพีพี โดยภายในกระเป๋ามีกระเป๋าเงิน บัตรประชาชน บัตร ATM เงินสด 5,000 บาท โดยเจ้าตัวนำคลิปภาพวงจรปิดขณะนักท่องเที่ยวชายชาวต่างชาติ กำลังขโมยของมาส่งให้ตำรวจช่วยติดตามตัวด้วย

ขณะที่ พ.ต.ท.อรรถพงษ์ แสนใจวุฒิ สว.ตร.ทท.กระบี่ ออกมากล่าวเตือนผู้ประกอบการถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในลักษณะนี้ด้วยว่า จากที่เคยได้รับเบาะแส กลุ่มก่อเหตุจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นคู่ โดยจะมีกลุ่มหนึ่งจะไปดึงดูดความสนใจของเจ้าของร้าน หรือพนักงาน และให้อีกคนคอยก่อเหตุ ตนจึงอยากเตือนผู้ประกอบการ ให้เพิ่มความระมัดระวังกันมากขึ้น ในส่วนของตำรวจท่องเที่ยวเอง ก็จะเพิ่มความเข้มข้นในการออกตรวจตราให้มากขึ้น เพื่อเป็นการปรามไม่ให้นักท่องเที่ยวก่อเหตุ