xs
xsm
sm
md
lg

ศาลนาทวีสั่ง "ประหารชีวิต-จำคุก" 5 ผู้ต้องหาปล้นเต็นท์รถยนต์ "วังโต้คาร์เซ็นเตอร์" ประกอบคาร์บอมบ์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ปัตตานี - ศาลจังหวัดนาทวี สั่งพิพากษา "ประหารชีวิต-จำคุก" 5 ผู้ต้องหาปล้นเต็นท์รถยนต์ "วังโต้คาร์เซ็นเตอร์" อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ก่อนนำประกอบคาร์บอมบ์ป่วนชายแดนใต้

วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีคนร้ายบุกปล้นรถยนต์ภายในเต็นท์รถยนต์ “วังโต้ คาร์เซ็นเตอร์” อ.นาทวี จ.สงขลา โดยคนร้ายปล้นรถยนต์ไปทั้งหมด 5 คัน เพื่อนำไปประกอบระเบิด ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ปรากฏตามภาพข่าวของสื่อมวลชน เหตุเกิดในพื้นที่ ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยได้ จำนวน 5 ราย ได้ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 ศาลจังหวัดนาทวี ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.4835/2560 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 229/2562 ในฐานความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร ก่อให้เกิดระเบิดความผิดต่อชีวิต พยายามความผิดต่อเสรีภาพ ปล้นทรัพย์ โดยพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 5 ราย คือจำเลยที่ 1 นายอัตนันท์ สะอิ, จำเลยที่ 2 นายภาณุมาศน์ หลีเส็น, จำเลยที่ 3 นายมะรอยี ราแดง, จำเลยที่ 4 นายฮารียะ การี และจำเลยที่ 5 นายอับดุลมานัส เจะเลาะ มีผลคำสั่งพิพากษาของศาลจังหวัดนาทวี ดังนี้

จำเลยที่ 1 นายอัตนันท์ สะอิ หรือนัน ศาลพิพากษาให้ “ประหารชีวิต” คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา, จำเลยที่ 2 นายภาณุมาศน์ หลีเส็น หรือจา หรือมะ, จำเลยที่ 3 นายมะรอยี ราแดง หรือเปาซี หรือยี และจำเลยที่ 4 นายฮารียะ การี หรือแซะ ศาลพิพากษาให้ “จำคุกตลอดชีวิต” คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา, จำเลยที่ 5 นายอับดุลมานัส เจะเลาะ หรือมาน ศาลพิพากษาให้ “จำคุก 2 ปี 8 เดือน” ความผิดฐานอั้งยี่ คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา

ผลจากคำพิพากษาดังกล่าว เป็นไปตามพยานหลักฐาน และลักษณะฐานความผิด และเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมุ่งบังคับใช้กฎหมายด้วยความรอบคอบ รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุม เพื่อนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จนนำไปสู่คำพิพากษาดังกล่าว ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังให้ความสำคัญกับหลักการบังคับใช้กฎหมายด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม และปฏิบัติทุกขั้นตอนของการบังคับใช้กฎหมายด้วยความระมัดระวัง และเท่าเทียมกัน
 



กำลังโหลดความคิดเห็น