ชาวนราธิวาสเข้าร่วมฟังปราศรัยพรรคประชาชาติ ปรากฏการณ์ใหม่ทางการเมืองชายแดนใต้

 
นราธิวาส - ชาวนราธิวาสร่วมฟังปราศรัยพรรคประชาชาติ ปรากฏการณ์ใหม่ทางการเมืองชายแดนใต้ ขณะเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐขึ้นเทียบกับอดีตแชมป์จากผลบัตรสวัสดิการจากรัฐ

วานนี้ (9 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินสายปราศรัยหาเสียงของพรรคการเมืองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างคึกคักของหลายพรรคการเมือง ในส่วนของพรรคประชาชาติ ที่นำโดย วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย คุณกูเฮง ยาวอหะซัน ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาชาติ นราธิวาสเขต 3 หมายเลข 2 และกรรมการบริหารพรรค เดินพบปะพี่น้องประชาชนในตลาดนัดตันหยงมัส ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ท่ามกลางความตื่นเต้นของพี่น้องประชาชนมาร่วมต้อนรับกันอย่างอบอุ่น ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้เดินพูดคุยสอบถามพ่อค้าแม่ค้าเรื่องเศรษฐกิจและการค้าขาย ได้รับคำตอบจากพ่อค้าแม่ค้าว่า เศรษฐกิจไม่ดีนัก รายได้ลดลง จึงฝากความหวังไว้กับพรรคประชาชาติจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายวรวีร์ มะกูดี รองหัวหน้าพรรค นายอารีเพ็ญ อุตรสินธ์ รองหัวหน้าพรรค พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ รองหัวหน้าพรรค และผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาชาติ เขต 1 นายมาหะมะรอปี เจ๊ะแว เบอร์ 3 เขต 2 นายสารี สะมะแอ เบอร์ 11 และนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ เบอร์ 1 ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดน้ำยะกัง อ.เมือง จ.นราธิวาส

จากนั้น เวลา 20.30 น. พรรคประชาชาติได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ในจังหวัดนราธิวาส 2 จุด จุดที่ 1 ที่หาดนราทัศน์ อ.เมือง และจุดที่ 2 ที่สนามกีฬาจำปากอ อ.บาเจาะ โดยมีพี่น้องประชาชนให้ความสนใจมาร่วมรับฟังไม่น้อยกว่า 3,000 คนต่อ 1 เวที รวมทั้ง 2 เวทีไม่น้อยกว่า 6,000 คน นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ทางการเมืองของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีประชาชนให้ความสนใจกันจำนวนมาก และร่วมแสดงพลังการเป็นประชาชาติหนึ่งเดียวกัน
 

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า บรรยากาศวันนี้ผมเชื่อว่าคนทั้งประเทศที่ได้รับชมการไลฟ์สด จะต้องรู้สึกแปลกใจ เพราะว่าปกติ พอพูดถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็จะมีคนมองว่ายังมีอีกหรือที่จะมีการปราศรัยตอนกลางคืนเวลา 22.00 น. แล้วยังมีการปราศรัย ภาพของจังหวัดชายแดนภาคใต้คือภาพของความไม่ปลอดภัย คนนอกจะคิดว่าเวลาตอนค่ำ ชาวบ้านจะอยู่ในบ้าน ไม่มีใครกล้าออกมา วันนี้ประชาชนทั้งประเทศได้เห็นและรู้สึกตกใจว่าทำไม มีผู้มาเข้าฟังการปราศรัยทางการเมืองมากเหลือเกิน

เรื่องการเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนทุกคน การเมืองจะเกี่ยวข้องกับคนทุกรุ่น การเมืองจะเกี่ยวข้องตั้งแต่คลอดจากครรภ์มารดาไปถึงตายหรือไปกุโบร์ การเมืองไม่มีคนรุ่นใหม่หรือคนเก่า การเมืองจะไม่กำหนดว่าใครจะอายุเท่าไหร่ และที่สำคัญอย่างยิ่ง วันนี้การเมืองนอกจากจะเกี่ยวข้องกับผู้ที่มาทำหน้าที่การเมืองแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง

พรรคประชาชาติ เป็นพรรคที่มาเปิดตัวในจังหวัดปัตตานี มาเปิดตัวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนก็เข้าใจว่าพรรคประชาชาติเป็นพรรค คน 3 จังหวัด แต่เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา เราได้ส่งผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 215 เขต ใน 3 จังหวัดมี 11 เขต และอีก 200 เขต มากที่สุดคืออีสาน กรุงเทพฯ 30 เขต เราส่งครบ ภาคเหนือ 27 เขต โดยเฉพาะคนภาคเหนือจะมีความรู้สึกเหมือนคนภาคใต้ ปัญหาของคนภาคเหนือ คือ คนบนยอดดอย ทั้ง 27 เขต จะมีปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ หรือเป็นคนกลุ่มน้อย หรือเป็นคนที่ไม่ได้รับสิทธิเสรีภาพเท่ากับคนส่วนใหญ่

พรรคประชาชาติ จึงเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์สูงสุด ก็คือเรามองว่ามนุษย์เป็นผู้มีความสำคัญ ดังนั้น มนุษย์ ไม่ว่าจะมีความแตกต่างทางด้านถิ่นกําเนิด ภาษาวัฒนธรรมประเพณี เพศ ชาติพันธุ์ หรือศาสนาทุกคนต้องมีความเท่าเทียมกัน

อยากให้พรรคประชาชาติเป็นพรรคของพวกเราทุกคนไม่ใช่เป็นพรรค คุณวันนอร์ ไม่ใช่เป็นพรรค ของผม แต่เป็นพรรคของพี่น้อง เพราะพรรคประชาชาติจะเป็นพรรคการเมืองที่จะคืนสิทธิให้แก่ประชาชน และพรรคประชาชาติจะเป็นพรรคการเมืองที่จะคืนอำนาจให้ประชาชน พรรคประชาชาติจะเป็นพรรคการเมืองที่จะคืนความยุติธรรมให้ประชาชน พรรคประชาชาติเป็นพรรคที่แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำให้ประชาชน

 
“สำหรับการส่งผู้สมัครใน 3 จังหวัดภาคใต้ ก่อนหน้านี้เรามีความมั่นใจว่าเราจะได้ 5 เขต แต่ตอนนี้เราเห็นความมั่นใจทั้ง 11 เขต เราน่าจะได้ ส.ส.ทั้งหมด เพราะว่าเราไม่ได้ใช้ความรู้สึกในการประเมิน แต่เราใช้วิธีการสำรวจทางการศึกษา พรรคประชาชาติ ไม่ได้เป็นที่นิยมเฉพาะตัวบุคคล เนื่องจากนโยบายเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์ เราสร้างคน สร้างโครงสร้างองค์ความรู้ สร้างอาชีพ และสร้างชาติ เราเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เอาปัญหาความต้องการของประชาชนเป็นตัวตั้ง เพื่อมากำหนดนโยบาย เราเชื่อมั่นว่าใน 3 จังหวัดเราจะได้ ส.ส. ทุกเขต” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว

สำหรับเวทีปราศรัยทั้ง 2 จุดในจังหวัดนราธิวาสนั้นเสร็จสิ้นในเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ แต่พี่น้องประชาชนยังคงนั่งฟังการปราศรัยจนจบ และได้เข้ามาจับมือโอบกอดผู้บริหารพรรคและผู้สมัคร ส.ส.กันอย่างอบอุ่น หลังเสร็จสิ้นปราศรัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสียงสนับสนุนของพรรคการเมืองจากประชาชนในพื้นที่หลังจากที่ผู้สมัครจากทุกพรรคเริ่มลงพื้นที่หาเสียงภายหลังจากสิ้นสุดการเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการ พบมีประชาชนได้ให้ความสนใจกับพรรคการเมืองที่มีฐานเสียงเดิมอย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” เป็นต้น แต่พรรคที่น่าจับตามองอีกพรรคคือ “พรรคประชาชาติ” ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นั่งเป็นหัวหน้าพรรคเป็นคนในพื้นที่ เต็มไปด้วยบารมี เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง และที่ประมาทไม่ได้คือ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เริ่มมีกระแสความนิยมขึ้นเป็นอันดับ 2 ในหลายพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้ผู้สมัครได้รับการตอบรับมากขึ้นเทียบกับผู้สมัครที่เคยเป็นแชมป์ของพื้นที่มาหลายสมัยได้อย่างง่ายดาย