xs
xsm
sm
md
lg

มูลนิธิปวีณาเข้าช่วยหนุ่มโรงงานยะลาถูกเครื่องจักรบดมือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ยะลา - มูลนิธิปวีณา นำหนุ่มลูกจ้างโรงงานยางพารา ประสบเหตุถูกเครื่องบดอัดยางพารา บดมือจนพิการเข้าหารือกับหน่วยงานด้านแรงงาน และประกันสังคมยะลา หลังหวั่นว่าจะไมได้รับงดชดเชยช่วยเหลือ

วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลา ว่า เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา พร้อมด้วยครอบครัวของนายกิตติพร นามวิเศษ อายุ 18 ปี หนุ่มลูกจ้าง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโรงงานยางพารา ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งได้ประสบอุบัติเหตุขณะทำงานภายในโรงงานดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ถูกเครื่องจักรบดมือขวา จนนิ้วมือข้างขวาตั้งแต่นิ้วหัวแม่มือไปจนถึงนิ้วนาง ได้รับบาดเจ็บและทุพพลภาพ และเข้ารับการรักษาพยาบาล โดยนายจ้าง ผู้จัดการโรงงานได้มอบเงินช่วยเหลือให้ จำนวน 20,000 บาท ซึ่งครอบครัวของนายกิตติพร นามวิเศษ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากค่าชดเชยดังกล่าวที่มีจำนวนน้อยเกินไป จึงได้ติดต่อไปยังมูลนิธิปวีณา ให้ช่วยเหลือดำเนินการขอความเป็นธรรมจากกรณีดังกล่าว

นางปวีณา ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ และประสานไปยังสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดยะลา สำนักงานประกันสังคมจังหวัดยะลา สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา เพื่อหารือและตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือด้านการคุ้มครองแรงงาน โดยมี พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เป็นสักขีพยาน และผู้รับเรื่องดังกล่าวไว้ในการติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือ

ด้าน นายธรรมรัตน์ ศรีนุ่ม นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ในส่วนกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ได้มีการตรวจสอบขั้นต้นแล้ว พบว่า ทั้งลูกจ้างคือ นายกิตติพร นามวิเศษ เป็นลูกจ้างถูกต้องที่โรงงานได้แจ้งดำเนินการไว้ในระบบของกระทรวงแรงงานแล้ว ซึ่งภายหลังประสบเหตุ ประกันสังคมจะดำเนินการตรวจสอบตามหลักฐานการยื่นขอรับความช่วยเหลือ จากทางโรงงานที่ประกอบการ และทางผู้เสียหาย ที่จะต้องดำเนินการเอาหลักฐานจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลศูนย์ยะลา มาให้สำนักงานประกันสังคม เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนของกระบวนการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างการทำงานในสถานประกอบการ ซึ่งในขั้นต้นนั้น นายกิตตพร นามวิเศษ สูญเสียอวัยวะ คือ นิ้วมือตั้งแต่หัวแม่มือข้างขวาไปจนถึงนิ้วนาง ซึ่งตามหลักเกณฑ์ของการให้ความช่วยเหลือมีอยู่แล้วในการชดเชยค่าเสียหายต่ออวัยวะ โดยกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายค่าทดแทนร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือน ดังนี้ เช่น ค่าทดแทนกรณีหยุดงานไม่เกิน 1 ปี ค่าทดแทนกรณีสูญเสียอวัยวะ ไม่เกิน 10 ปี ค่าทดแทนกรณีทุพพลภาพไม่น้อยกว่า 15 ปี ซึ่งค่าทดแทนทั้งหมดนั้นต้องปฏิบัติตามกฎของสำนักงานประกันสังคม โดยการนำเอาเอกสารหลักฐานการเข้ารับการรักษาตัว จากโรงพยาบาลมายื่นให้แก่สำนักงานประกันสังคม เพื่อรับค่าทดแทน ซึ่งกรณีของนายกิตติพร นามวิเศษ คาดว่าจะได้รับค่าทดแทนอย่างต่ำประมาณ 5 แสนบาท จากการทำประกันสังคม

ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ก็ได้สอบถามมายังหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งเป็นการบูรณาการในการประสานงานร่วมกัน อาจจะด้วยสาเหตุของพื้นที่อยู่อาศัยที่ห่างไกล จึงทำให้เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่เมื่อมีการพูดคุย และประสานงานกันแล้ว ก็ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ขณะที่ผู้เป็นแม่ของนายกิตติพร นามวิเศษ ก็ขอบคุณมูลนิธิปวีณา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ยื่นมือให้ความช่วยเหลือจากการร้องเรียนดังกล่าว
 


กำลังโหลดความคิดเห็น