xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาสตูลปรับตัวพลิกผืนนาสู่เกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
สตูล - ชาวนาสตูลปรับตัวพลิกผืนนาสู่เกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักปลอดสารพิษเป็นอาชีพหลักในการดำรงชีวิตประจำวัน อนาคตเตรียมเลี้ยงปลานิลเพิ่มรายได้

วันนี้ (2 ก.พ.) นายดาเระ นาปาเลน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลควนสตอ นำกลุ่มสตรีและชาวบ้านในพื้นที่ศึกษาดูงานความสำเร็จของไร่ทุ่งอินตี ม.1 ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล ที่มี นายอุเส็น จารนัย อายุ 56 ปี พร้อมกับภรรยา นางสอฟีย๊ะ จารนัย อายุ 52 ปี เป็นเจ้าของ ที่ได้ทำเกษตรทฤษฎีใหม่บนพื้นที่ของตนเองกว่า 5 ไร่ เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และเป็นอาชีพหลักในการดำรงชีวิตประจำวัน เนื่องจากปีก่อนๆ ที่ผ่านมาที่ดินบริเวณนี้มีการปลูกทำนา แต่เศรษฐกิจในช่วงหลังไม่ดีมากนัก รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการทำนาและต้นทุนที่สูง จึงได้มีการเปลี่ยนที่ดินในส่วนตรงนี้มาทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙

โดยการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ของที่นี่เริ่มทำได้ 2 เดือนแล้ว จะเน้นการพออยู่พอกินและปลูกพืชผักผลไม้ผสมกว่า 10 ชนิด อาทิ พริกขี้หนู ผักบุ้ง แตงกวา ผักกาดขาว กวางตุ้ง มะเขือยาว มะเขือเปราะ กระเจี๊ยบเขียว ถั่วฝักยาว ตะไคร้ ฟักเขียว กล้วยหอมทอง ข้าวโพด มันสำปะหลัง และ มะละกอ โดยจะไม่ใช้สารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น
 

 
มีการแบ่งสรรพื้นที่ปลูกผักเป็น 2 โซนใหญ่ๆ ซึ่งโซนแรกจะเป็นพืชระยะสั้นจำพวกพืชผักสวนครัว ที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 3-4 เดือนแรก และโซนที่สองเป็นพืชระยะยาวสามารถเก็บผลผลิตได้ 8 เดือนต่อ 1 ครั้ง เช่น กล้วยหอมทอง มันสำปะหลัง ส่วนอนาคตไร่ทุ่งอินตีจะมีการเลี้ยงปลานิลเพื่อเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น เนื่องจากปลานิลที่ทางไร่ทุ่งอินตีจะนำมาเลี้ยงนั้นสามารถกินอาหารจากพืชผักในไร่ได้เกือบทั้งหมด ทำให้ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในส่วนของอาหารได้เป็นอย่างมาก

ซึ่งรายได้ของการเก็บเกี่ยวผลผลิตจะตกอยู่ที่ 1,000-1,500 บาทต่อวัน สร้างรายได้ให้กับครอบครัวเดือนละ 30,000-50,000 บาท โดยจะมีการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากพืชระยะสั้น (แตงกวา พริกขี้หนู มะเขือยาว มะเขือเปราะ กระเจี๊ยบเขียว ถั่วฝักยาว ตะไคร้) ทุกวันรวมทั้งหมดวันละ 50-70 กิโลกรัม จะขายให้กับพ่อค้าคนกลางกิโลกรัมละ 16-18 บาท ขายปลีกให้กับชาวบ้านในพื้นที่กิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งผักผลไม้ปลอดสารพิษเหล่านี้เป็นที่สนใจแก่ท้องตลาดเป็นอย่างมาก ด้วยความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและราคาที่ไม่แพงมากนัก จึงทำให้มีการสร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับครอบครัว

นอกจากนี้ทางเจ้าของไร่ทุ่งอินดียังมีการนำผักภายในแปลงมาปรุงเป็นเมนูอาหารพื้นบ้าน เพื่อให้คณะที่ศึกษาดูงานได้ชิมความอร่อยของผักสดๆ ที่เก็บมาจากแปลงมีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย หรือจะนำมา “ต้มกะทิไข่ใส่ผัก กินกับ แกงส้มกระเจี๊ยบเขียว และน้ำพริกกะปิ พร้อมผักสดเหนาะ กินกับข้าวข้าวไรซ์เบอร์รี่ร้อนๆ ของชาวบ้าน ได้ทั้งคุณค่าสารอาหาร ใหม่สดปลอดจากสารพิษแล้วยังสามารถซื้อพืชผักสดจากสวนในราคาถูก
 

 
นายอุเส็น จารนัย อายุ 56 ปี เจ้าของไร่ทุ่งอินตี กล่าวว่า ได้มีการเปลี่ยนอาชีพทำนามาประกอบอาชีพทำเกษตรทฤษฎีใหม่เป็นอาชีพหลัก ซึ่งทำมาได้ 2 เดือนแล้ว เห็นว่ามีรายได้ที่มากพอสมควร ต้นทุนในการผลิตก็ไม่มากนัก อีกทั้งยังสามารถเป็นไร่ต้นแบบให้กับคนในชุมชนได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้อีกด้วย และอนาคตภายภาคหน้าจะมีการขยายพื้นที่ทำผักหมุนเวียนพร้อมเลี้ยงปลานิลเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว

ส่วนทางด้าน นายดาเระ นาปาเลน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลควนสตอ กล่าวว่า ได้มีการส่งเสริมให้เป็นไร่เกษตรต้นแบบของอำเภอ อีกทั้งยังช่วยเหลือในส่วนของปัญหาภัยแห้งแล้ง เนื่องจากตอนนี้ทาง จ.สตูลได้เข้าสู่หน้าแล้งแล้ว ทางตำบลควนสตอก็จะช่วยในส่วนตรงนี้ พร้อมทั้งจะรณรงค์ให้ชาวบ้านหันมาบริโภคผักปลอดสารพิษ เพื่อกระจายรายได้ให้กับผู้คนในชุมชน

ถือได้ว่าการทำเกษตรเกษตรทฤษฎีใหม่ของที่นี่เหมาะกับผู้ที่สนใจในยุคปัจจุบัน หากใครสนใจจะมาศึกษาเรียนรู้หรือซื้อผักปลอดสารพิษไปบริโภค สามารถติดต่อได้ที่ไร่ทุ่งอินตี ม.1 ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล และช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊ก “AmPere Nungruthai” หรือโทร 080-1372980 (สอฟีย๊ะ)
 

กำลังโหลดความคิดเห็น