ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แชร์สนั่น ! เพจ“จิตอาสา Go-Eco Phuket”ร้องรัฐบาลแก้ปัญหา หลังพบซากปลาโรนัน และ ปลากระเบนไฟฟ้า นอนตายกันเกลื่อนบนแนวปะการัง เกาะราชาน้อย คาดติดอวนเรือประมงก่อนทิ้งลงทะเล

เมื่อช่วงค่ำวันนี้ (31ม.ค.) เพจเฟซบุ๊กชื่อ “จิตอาสา Go-Eco Phuket” ได้โพสต์ภาพนิ่ง และ วีดิโอคลิปความยาวประมาณ 0.49 วินาที พร้อมข้อความระบุว่า “พบศพฉลามนอนตายเกลื่อนที่ราชาน้อยภูเก็ต เที่ยงของวันนี้ (31/1/62) เครือข่ายจิตอาสา Go Eco Phuket ได้รายงานเข้ามาว่า ในขณะที่พานักท่องเที่ยวลงไปดำน้ำที่อ่าวไม้เจ็ด เกาะราชา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่ความลึกประมาณ 11 เมตร ได้พบปลาโรนันหัวใส และ ปลากระเบนไฟฟ้าจุดเข้ม นอนตายเกลื่อนกลาด บนแนวปะการัง ซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน
จึงได้เก็บกลับขึ้นมาบนเรือเพื่อถ่ายรูปไว้เป็นข้อมูล โดยพบว่าปลาพวกนี้ยังเป็นลูกปลา สันนิษฐานว่าน่าจะไปติดอวนของชาวประมง พอเห็นว่าเป็นลูกปลา ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ เพราะไม่นิยมเอามากินจึงโยนทิ้งลงในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากใกล้จุดที่พบศพปลาดังกล่าว นอกจากนั้นนักดำน้ำยังพบเศษอวนที่ถูกตัดทิ้งด้วย

สำหรับการพบศพลูกปลา ทั้ง 2 ชนิดนี้ ถือว่าเป็นการสูญเสียทรัพยากรสัตว์น้ำที่หายากของประเทศไทย และที่ผ่านมาทั้ง 2 ชนิดไม่พบที่ภูเก็ตมานานนับปีแล้ว ถ้าอยากจะเจอก็ต้องไปดำดูที่ สิมิลัน หรือไม่ก็ เกาะโลซินปัตตานี ฝากรัฐบาลนี้และรัฐบาลหน้า ซึ่งไม่รู้จะฝากได้รึป่าว!?ถ้าหากการท่องเที่ยวก็จะขาย การประมงก็จะทำ คงต้องมีอะไรฉิบหายกันไปข้างหนึ่งแน่!! เอาซักอย่างเอาซักทางนะครับ เราจะเป็นการท่องเที่ยวระดับโลก!? หรือจะทำประมงส่งออกระดับโลก!? ที่มัลดีฟเขาเลือกการท่องเที่ยวระดับโลก จึงไม่มีการทำประมง ปลาของเขาจึงอุดมสมบูรณ์ ไม่ได้อุดมสมบูรณ์ธรรมดานะ ของเขาอุดมสมบูรณ์แบบยั่งยืนด้วย!! “

อย่างไรก็ตามหลังมีการโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวออกไป ปรากฏว่ามีคนมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างร้ายแรง และเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับคนที่ทำผิด
สำหรับ ปลาโรนันหัวใส หรือ ปลาโรนันจิ้งจก จากข้อมูลของเวปไซด์ วิกีพีเดีย ระบุว่า เป็นสกุลของปลากระดูกอ่อนจำพวกปลาโรนัน ที่อยู่ในสกุล Rhinobatos (ไรโนบาตอส) จัดเป็นปลาโรนันขนาดเล็ก ในประเทศไทยพบมากแถบทะเลอันดามัน เรือประมงจะสามารถจับได้ครั้งละ 4-5 ตัว ในการออกเรือแต่ละครั้ง เป็นปลาเศรษฐกิจที่มีขายกันตามตลาดปลาทะเลทั่วไป

ส่วนปลากระเบนไฟฟ้าในภาษาไทยมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ปลาเสียว" โดยชนิดที่พบได้ในน่านน้ำไทย เช่น ปลากระเบนไฟฟ้าหลังเรียบ (Temera hardwickii), ปลากระเบนไฟฟ้าสีน้ำตาล (Narcine brunnea) ซึ่งปลากระเบนไฟฟ้ามีลำตัวแบนค่อนข้างกลม มีอวัยวะผลิตกระแสไฟฟ้าประกอบด้วยเซลล์รูปหกเหลี่ยม เรียงซ้อนกันเป็นกลุ่มตั้งอยู่ทางด้านข้างของตาถัดไปถึงครีบอก ภายในมีสารเป็นเมือกคล้ายวุ้น ทำหน้าที่เป็นตัว ผลิตกระแสไฟฟ้าจะวิ่งจากด้านล้างขึ้นไปด้านบนภายใต้การควบคุมของสมอง การปล่อยกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นเมื่อได้รับการกระตุ้น หรือถูกรบกวน ตามปกติใช้เพื่อล่าเหยื่อหรือทำร้ายศัตรู หากคนไปเหยียบปลากระเบนไฟฟ้าที่หมกตัวอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ กระแสไฟฟ้าที่ปล่อยออกมามักมีกำลังไฟประมาณ 40-100 โวลต์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการชา จนอาจจมน้ำได้

เมื่อช่วงค่ำวันนี้ (31ม.ค.) เพจเฟซบุ๊กชื่อ “จิตอาสา Go-Eco Phuket” ได้โพสต์ภาพนิ่ง และ วีดิโอคลิปความยาวประมาณ 0.49 วินาที พร้อมข้อความระบุว่า “พบศพฉลามนอนตายเกลื่อนที่ราชาน้อยภูเก็ต เที่ยงของวันนี้ (31/1/62) เครือข่ายจิตอาสา Go Eco Phuket ได้รายงานเข้ามาว่า ในขณะที่พานักท่องเที่ยวลงไปดำน้ำที่อ่าวไม้เจ็ด เกาะราชา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่ความลึกประมาณ 11 เมตร ได้พบปลาโรนันหัวใส และ ปลากระเบนไฟฟ้าจุดเข้ม นอนตายเกลื่อนกลาด บนแนวปะการัง ซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน
จึงได้เก็บกลับขึ้นมาบนเรือเพื่อถ่ายรูปไว้เป็นข้อมูล โดยพบว่าปลาพวกนี้ยังเป็นลูกปลา สันนิษฐานว่าน่าจะไปติดอวนของชาวประมง พอเห็นว่าเป็นลูกปลา ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ เพราะไม่นิยมเอามากินจึงโยนทิ้งลงในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากใกล้จุดที่พบศพปลาดังกล่าว นอกจากนั้นนักดำน้ำยังพบเศษอวนที่ถูกตัดทิ้งด้วย
สำหรับการพบศพลูกปลา ทั้ง 2 ชนิดนี้ ถือว่าเป็นการสูญเสียทรัพยากรสัตว์น้ำที่หายากของประเทศไทย และที่ผ่านมาทั้ง 2 ชนิดไม่พบที่ภูเก็ตมานานนับปีแล้ว ถ้าอยากจะเจอก็ต้องไปดำดูที่ สิมิลัน หรือไม่ก็ เกาะโลซินปัตตานี ฝากรัฐบาลนี้และรัฐบาลหน้า ซึ่งไม่รู้จะฝากได้รึป่าว!?ถ้าหากการท่องเที่ยวก็จะขาย การประมงก็จะทำ คงต้องมีอะไรฉิบหายกันไปข้างหนึ่งแน่!! เอาซักอย่างเอาซักทางนะครับ เราจะเป็นการท่องเที่ยวระดับโลก!? หรือจะทำประมงส่งออกระดับโลก!? ที่มัลดีฟเขาเลือกการท่องเที่ยวระดับโลก จึงไม่มีการทำประมง ปลาของเขาจึงอุดมสมบูรณ์ ไม่ได้อุดมสมบูรณ์ธรรมดานะ ของเขาอุดมสมบูรณ์แบบยั่งยืนด้วย!! “
อย่างไรก็ตามหลังมีการโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวออกไป ปรากฏว่ามีคนมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างร้ายแรง และเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับคนที่ทำผิด
สำหรับ ปลาโรนันหัวใส หรือ ปลาโรนันจิ้งจก จากข้อมูลของเวปไซด์ วิกีพีเดีย ระบุว่า เป็นสกุลของปลากระดูกอ่อนจำพวกปลาโรนัน ที่อยู่ในสกุล Rhinobatos (ไรโนบาตอส) จัดเป็นปลาโรนันขนาดเล็ก ในประเทศไทยพบมากแถบทะเลอันดามัน เรือประมงจะสามารถจับได้ครั้งละ 4-5 ตัว ในการออกเรือแต่ละครั้ง เป็นปลาเศรษฐกิจที่มีขายกันตามตลาดปลาทะเลทั่วไป
ส่วนปลากระเบนไฟฟ้าในภาษาไทยมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ปลาเสียว" โดยชนิดที่พบได้ในน่านน้ำไทย เช่น ปลากระเบนไฟฟ้าหลังเรียบ (Temera hardwickii), ปลากระเบนไฟฟ้าสีน้ำตาล (Narcine brunnea) ซึ่งปลากระเบนไฟฟ้ามีลำตัวแบนค่อนข้างกลม มีอวัยวะผลิตกระแสไฟฟ้าประกอบด้วยเซลล์รูปหกเหลี่ยม เรียงซ้อนกันเป็นกลุ่มตั้งอยู่ทางด้านข้างของตาถัดไปถึงครีบอก ภายในมีสารเป็นเมือกคล้ายวุ้น ทำหน้าที่เป็นตัว ผลิตกระแสไฟฟ้าจะวิ่งจากด้านล้างขึ้นไปด้านบนภายใต้การควบคุมของสมอง การปล่อยกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นเมื่อได้รับการกระตุ้น หรือถูกรบกวน ตามปกติใช้เพื่อล่าเหยื่อหรือทำร้ายศัตรู หากคนไปเหยียบปลากระเบนไฟฟ้าที่หมกตัวอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ กระแสไฟฟ้าที่ปล่อยออกมามักมีกำลังไฟประมาณ 40-100 โวลต์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการชา จนอาจจมน้ำได้