สุราษฎร์ธานี - ลุงวัย 62 ปี ชาวสุราษฎร์ธานี ยึดอาชีพปีนต้นตาล ทำน้ำสดและแปรรูปขาย สร้างรายได้ปีละกว่า 1 ล้านบาท แม้จะเสี่ยงบ้างก็ตาม
นายสุรมนตรี เมืองนิเวศ หรือฉายามิสเตอร์ช้อย อายุ 62 ปีอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าเคย จ.สุราษฎร์ธานีเปิดเผยว่า ได้ยึดอาชีพปีนต้นตาลนำน้ำตาลสดมาบรรจุขวดพร้อมกับแปรรูปทำเป็นน้ำผึ้งตาล น้ำตาลโตนด น้ำส้มโตนดน้ำตาลเมา และลูกตาลอ่อนขายส่งทั่วไปเป็นเวลากว่า 30 ปี สร้างรายได้ให้กับครอบครัวอย่างดีจนมีคนรู้จักมากมายและมีหลายหน่วยงานเดินทางมาศึกษาดูงานการปีนต้นตาลที่มีความสูงหลาย 10 เมตร
ด้านนายชำนาฐวิทย์ เมืองนิเวศ อายุ 35 ปี บุตรชายได้เปิดเผยว่า นายสุรมนตรี พ่อของตนได้ทำก่อนโดยปลูกต้นตาลแซมในสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่จำนวน 5 ไร่ ประมาณ 60 ต้น โดยนำเงินที่ได้จากทำน้ำตาลสดขายมาส่งเสียจนลูกๆเรียนจบ เมื่อลูกๆเรียนจบก็บอกให้พ่อหยุดทำเนื่องจากเห็นว่าการปีนต้นตาลเพื่อปาดงวงตาลนำน้ำตาลสดที่อยู่ปลายยอดต้นตาลสูงหลาย 10 เมตรเป็นสิ่งอันตรายแต่พ่อไม่ยอมตนจึงเข้ามาร่วมทำจนเป็นธุรกิจของครอบครัว โดยพ่อจะขึ้นไปต้นตาลวันละ 2 รอบก็คือในช่วงเช้าและช่วงเย็น ก็จะเรียกกันว่าน้ำตาลสดเช้าและน้ำตาลสดเย็นเมื่อได้มาแล้วก็จะนำมาต้มให้พอเดือดและบรรจุลงขวดขายส่งให้กับพ่อค้าทั่วไปวันละประมาณ 100 ขวด หากปริมาณน้ำตาลสดมีมากก็จะแปรูปเป็น น้ำผึ้งตะโตนด น้ำตาลโตนด น้ำส้มโตนด และน้ำตาลเมา พร้อมทั้งลูกตาลอ่อน
ในช่วงนี้เป็นฤดูช่วงแรกที่เริ่มการทำน้ำตาลสดจะมีรายได้ขั้นต่ำประมาณเดือนละประมาณ 50,000 บาทขึ้นไปจนถึง 100,000 กว่าบาท หากเฉลี่ยทั้งปีก็จะมีรายได้จากการปีนต้นตาลกว่า 1,000,000 บาท และขึ้นอยู่กับวัตถุดิบด้วย หากจะเปรียบเทียบรายได้จากการผลผลิตปาล์มน้ำมันนั้นแตกต่างกันมาก ซึ่งในหนึ่งเดือนต้นปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตต่อต้น คิดเป็นมูลค่าประมาณเดือนละ 2,000 บาท
ในขณะที่ต้นตาลสร้างรายได้มากกว่า 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งในปัจจุบันนี้คนทำอาชีพปีนต้นตาลหรืออาชีพปาดตาลมีน้อย แต่ในขณะที่ตลาดมีความต้องการสูง อาชีพปีนต้นตาลจึงเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีถึงแม้จะมีความเสี่ยงสูงแต่ก็คุ้มค่า ซึ่งในทุกๆวันจะต้องกักตุนน้ำตาลสดและลูกตาลสดไว้บริการแก่ลูกค้าและคณะที่เข้ามาศึกษาดูงานวันละกว่า 200 ขวด หรือ 200 ลูก
