ปัตตานี - ยายของ “น้องนูรูลอิบตีซาน” วัย 8 ขวบ เหยื่อคมกระสุนปริศนาจากเหตุเจ้าหน้าที่ยิงปะทะคนร้าย วอนขอคุณตาคืนให้หลานเพราะร้องเรียกหาทุกวัน หากรู้ว่าคุณตาถูกทหารควบคุมตัว อาจส่งผลต่อภาวะจิตใจได้
วันนี้ (23 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีการเผยแพร่ข่าวของสำนักข่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย มีการสนธิกำลังเข้าปิดล้อมเป้าหมายเพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง เป็นเหตุให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้นภายในเวลาตี 4 ของวันดังกล่าว เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และคนร้ายถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ 2 ราย และมีน้องนูรูลอิบตีซาน วัย 8 ขวบ ถูกกระสูนปืนเฉียดเข้าที่แผ่นหลังแผลเปิด เจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลนั้น
จากการเปิดเผยของคุณยาย ทราบว่า เหตุเกิดขณะที่หลานกำลังลุกจากที่นอนชั้นบน เพื่อมาหลบกระสุนปืนพร้อมกับตาและยาย แล้วมานอนบนตักคุณยายอยู่ในบ้านที่ชั้นล่าง พร้อมกับตาเพราะอยู่กันแค่ 3 คน ท่ามกลางเสียงปืนดังสนั่น และไม่รู้ทิศทางของกระสุน เพราะมองไม่เห็นอยู่แต่ในบ้าน หลังจากมีการระดมยิงไม่รู้ว่าจากด้านไหน เพื่อความปลอดภัย ถ้าตายคงตายพร้อมกัน จนกระทั่งมีหัวกระสุนปริศนาเข้ามาจากประตูครัว ทะลุเฉียดเข้าที่แผ่นหลังของหลาน เลือดไหลเป็นจำนวนมาก หลานร้องไห้ บอกยายว่าหนูถูกยิงเจ็บมาก
จากนั้นคุณยายได้เล่าเรื่องราวของคมกระสุนปริศนาให้ทีมข่าว ในระหว่างลงพื้นที่ค้นหาความจริงว่า ขณะที่น้องถูกยิงยายก็ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อญาติ ผู้นำชุมชน แต่ไม่มีใครรับสาย จากนั้นน้องร้องด้วยความเจ็บปวด จึงนึกได้และขอโทรศัพท์จากยาย จากนั้นจึงโทรศัพท์ไปที่ 191 ทาง 191 จึงได้อาสาจะช่วยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รีบเข้ามาช่วยเหลือ จากนั้นทาง 191 โทร.เข้ามาหา แล้วถามว่าได้พาน้องออกไปโรงพยาบาลได้แล้วยัง โดยโทร.สอบถามมาหลายครั้ง
หลังจากนั้น ประมาณครึ่งชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่เคาะประตูให้เอาหลานออกมา สิ่งที่น่าหดหู่ใจมากตอนที่ยายกำลังจะนำหลานออกจากบ้าน เพราะมีการจำกัดให้ออกมาแค่หลานกับยาย คนอื่นห้ามออกมา ทั้งๆ ที่ภายในบ้านมีแค่ 3 ชีวิต เมื่อถูกกำหนดเงื่อนไขเช่นนั้น ยายบอกว่าจะยกหลานไปไม่ไหว ทางเจ้าหน้าที่กลับบอกว่าให้ลากออกมา ยายจึงถือแขนหลานลากออกมาจนถึงต้นมะม่วงหน้าบ้าน ประมาณ 20 เมตร จากนั้นถึงมีเจ้าหน้าที่เข้ามาอุ้มหลานขึ้นรถไปโรงพยาบาลยะหริ่ง ยายก็ไม่รู้ว่าเขาได้เป็นฮีโร่ไปแล้ว
ยายเองก็รีบพาหลานขึ้นรถยนต์ พร้อมเจ้าหน้าที่ไปส่งโรงพยาบาล โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องใดทั้งสิ้น เพราะสงสารหลานมาก หลานบอกว่า ยายหลานไม่ไหวแล้ว เพราะเสียเลือดเยอะ หลังจากที่หมอให้การรักษาจนกระทั่งปลอดภัยแล้ว จึงรีบกลับบ้านเพราะยังมีคุณตาที่ทิ้งอยู่ในบ้านอีกคน
พอกลับมาบ้านอีกที คุณตาถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปที่ค่ายอิงคยุทธ สภาพภายในบ้านก็ถูกตรวจค้นข้าวของพังเสียหาย เสื้อที่นอนถูกไหม้สูญเสีย มีรอยไหม้พื้นห้องของระเบิดแก๊สน้ำตาหลายจุด เสื้อผ้าที่แขวนไว้ภายในบ้านถูกไฟไหม้ เงินสดที่ใช้เป็นทุนค้าขายวางไว้ในกล่องผ้าหายไปไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท แต่ไม่รู้ใครหยิบไป เครื่องโทรศัพท์ที่น้องใช้โทร.ติดต่อ 191 น้องเขาถือก่อนขึ้นรถทำตกหาไม่เจอจนทุกวันนี้
ยายยังบอกผ่านทีมงานว่า สิ่งที่ยายอยากเรียกร้องมากที่สุดในขณะนี้ คือ คุณตาที่ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไปที่ค่ายอิงคยุทธ เพราะหลานสาวน้องนูรูลอิบตีซาน ได้เรียกหาตาทุกวัน ซึ่งตอนนี้หลานยังไม่รู้ว่าคุณตาถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวไป เพราะญาติพยายามปกปิดเป็นความลับ จึงอยากให้นำคุณตากลับมาหาหลานโดยเร็วที่สุด เพราะหลานเขารักคุณตาเขามาก อีกอย่างคุณตาเขามีโรคประจำตัว ลุกไปไหนมาไหนไม่สะดวก
ส่วนสภาพจิตใจน้องในขณะนี้ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะน้องเขาได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทุกวันนี้น้องเห็นภาพเจ้าหน้าที่บางหน่วยไม่ได้ น้องเขาจะตกใจ หวาดผวา และส่งเสียงให้ไล่ออกไป จึงอยากให้นักสังคม หรือสหวิชาชีพต้องรีบเข้าไปดูแล
ขณะที่ นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เดินทางไปเยี่ยมเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ที่โรงพยาบาลปัตตานี หลังได้รับบาดเจ็บจากเหตุเจ้าหน้าที่ปะทะกับคนร้าย ในพื้นที่หมู่ 3 ต. ตะโละกะโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2562 ที่ผ่านมา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้มอบตุ๊กตาตัวใหญ่เป็นของขวัญวันเด็กย้อนหลัง และพูดคุยให้กำลังใจแก่เด็กหญิง สร้างความประทับใจให้แก่เด็กหญิงเป็นอย่างมาก
