ยะลา - จากเหตุการณ์ที่คนร้ายบุกยิงเจ้าอาวาส และพระลูกวัดรัตนานุภาพ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส มรณภาพรวม 4 รูป ล่าสุด ได้สร้างความสะเทือนใจแก่ชาวไทยพุทธในพื้นที่ หลายคนจึงโพสต์เฟซบุ๊กไว้อาลัยต่อการจากไป และประณามการกระทำที่โหดร้ายป่าเถื่อน
วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลา ว่า จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์คนร้าย จำนวน 6 คน แต่งกายชุดดำคล้ายทหาร พร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกเข้าไปภายในวัดรัตนานุภาพ หรือวัดโคกโก ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส กราดยิงเจ้าอาวาส และพระลูกวัด จนมรณภาพรวม 4 รูป เมื่อเวลา 19.30 น. ของคืนที่ผ่านมา (18 ม.ค.)
ล่าสุด ชาวพุทธในพื้นที่ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ได้สร้างความเศร้าสลดเสียใจต่อการกระทำอันโหดร้าย และไร้มนุษยธรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ได้กระทำต่อพระสงฆ์ผู้เผยแผ่ศาสนา
โดย นายรักชาติ สุวรรณ รองประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ได้เขียนข้อความระบุลงไปในเฟซบุ๊กว่า “ครั้งล่าสุดวันที่ 18 มกราคม 2562 ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ ที่ถูกคนร้ายยิงจนมรณภาพ โดยท่านเจ้าอาวาสเป็นพระสงฆ์ที่ถือปฏิบัติ มีพี่น้องไทยพุทธ และไทยมุสลิมในพื้นที่ให้ความเคารพ แวะเวียนไปพบปะสนทนากับท่านเป็นประจำ เป็นพระนักพัฒนาตัวอย่าง จึงขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มีการสูญเสียพระสงฆ์ที่เคารพนับถือ”
ด้านเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “นภศร ศิริมังคะโล” เขียนข้อความระบุว่า “วันนี้น้ำตาฉันไหล ฉันจะสู้ต่อไป แต่ฉันจะไม่ตกเป็นเครื่องมือความแค้นของกลุ่มใด ให้กำลังใจกันและกัน” และระบุถึงเหตุการณ์คนร้ายที่ก่อเหตุยิงพระสงฆ์ว่า “ควรจะมีการประณามผู้ก่อเหตุ”
ขณะที่อีกเฟซบุ๊กหนึ่งเขียนข้อความว่า “เราตายได้ แต่พระพุทธศาสนาตายไม่ได้” ขอถวายความอาลัยต่อการจากไป (ถ้าไม่ตายจะไม่ขอเลิกทำความดี) ซึ่งเป็นคติประจำใจของ พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ
อีกเฟซบุ๊กที่ระบุชื่อว่า “Ning Suchanya” ระบุข้อความว่า “สิ้นสุดเสียงปืนสงบลง กลับกลายเป็นเสียงร้องไห้เหมือนจะขาดใจของคนทั้งหมู่บ้าน ใจลูกแตกสลายเมื่อรู้ว่าหลวงอาสิ้นแล้ว” และลงท้ายข้อความว่า “ขอความสงบสุขมาสู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ บ้านโคกโกบ้านเกิดฉัน”
ขณะเดียวกัน ทางเพจของ “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า” พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ระบุว่า “การกระทำดังกล่าวนั้น เป็นการกระทำอันป่าเถื่อนของพวกนอกศาสนา”
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ภายในเขตเทศบาลนครยะลา ยังคงมีพระสงฆ์ของบางวัด ปฏิบัติกิจสงฆ์บิณฑบาตตามปกติ แต่ก็มีบางวัดที่ทราบข่าวของเหตุการณ์แล้วได้งดบิณฑบาตเพื่อความปลอดภัย โดยมีชาวพุทธนำกับข้าว ขนม อาหาร ไปตักบาตรถวายแก่พระสงฆ์ในช่วงเช้าที่วัด
