ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อึ้ง พบซาก “วาฬโอมูระ” หายาก หนักเกือบ 1,000 กก. ถูกคลื่นซัดเกยตื้นบริเวณชายหาดใน ต.ปากแตระ อ.ระโนด จ.สงขลา เผยเป็นตัวที่ 2 แล้วหลังเพิ่งพบถูกคลื่นซัดขึ้นมาตัวแรกที่ชายหาดแหลมสมิหลา วานนี้
วันนี้ (17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบซากวาฬถูกคลื่นซัดลอยมาเกยตื้นตาย บริเวณชายหาดพื้นที่หมู่ 3 ต.ปากแตระ อ.ระโนด จ.สงขลา สภาพเริ่มเน่าเปื่อย โดยมี นายสุเทพ เจือละออง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบซากวาฬตัวนี้
เบื้องต้น พบว่าเป็น “วาฬโอมูระ” อายุประมาณ 1 ปี ความยาวเกือบ 6 เมตร น้ำหนักประมาณ 800-1,000 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ซากหาสาเหตุของการตาย ทั้งสภาพร่องรอยภายนอกว่ามีแผลหรือไม่ รวมทั้งจะนำไปผ่าพิสูจน์ภายในว่าป่วยตาย หรือพบลักษณะผิดปกติอะไรหรือไม่ โดยคาดว่า วาฬโอมูระตัวนี้น่าจะถูกคลื่นซัดตายระหว่างเกิดพายุโซนร้อนพัดถล่มอ่าวไทย เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
นายสุเทพ เจือละออง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เปิดเผยว่า สำหรับวาฬโอมูระตัวนี้ เป็นตัวที่ 2 ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยตื้นบริเวณชายหาด โดยเมื่อวานนี้เพิ่งพบไป 1 ตัว ที่บริเวณชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลา ซึ่งขนาดใกล้เคียงกัน
สำหรับวาฬโอมูระ (อังกฤษ : Omura's whale) เป็นวาฬสายพันธุ์หายากที่มีความใกล้เคียงกับวาฬบรูด้า ถูกค้นพบครั้งแรกจากซากของมันในปี ค.ศ.2003 และเมื่อพิจารณาจากซากแล้วจึงพบว่า มีความต่างจากวาฬบรูด้า คือ วาฬโอมูระนั้นมีขนาดเล็กกว่า ตัวผู้ที่โตเต็มวัยยาวเพียง 10 เมตร ตัวเมียยาวเพียง 11.5 เมตร รอยจีบใต้ลำคอมีจำนวนมากกว่า คือ 80-90 รอยจีบ มีครีบหลังที่สูงกว่า และมีความโค้งน้อยกว่าของวาฬบรูด้า
วาฬโอมูระนั้นเป็นวาฬในวงศ์วาฬแกลบที่หายาก และมีผู้คนรู้จักน้อย ชื่อของมันนั้นตั้งตามชื่อของนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลชาวญี่ปุ่น นามว่า “ฮิเดโอะ โอมูระ” ซึ่งเป็นผู้ค้นพบวาฬโอมูระ ในปี พ.ศ.2546