ยะลา - ชวนนักท่องเที่ยวเข้าชมธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่สอดแทรกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ “อุโมงค์ปิยะมิตร” อ.เบตง จ.ยะลา ด้านนายอำเภอเบตง ยืนยันพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่นี้ พร้อมเสริมกำลังดูแลความปลอดภัย
วันนี้ (29 ธ.ค.) หากพูดถึงจังหวัดยะลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงมีปัญหาความไม่สงบอยู่ หลายคนก็โบกมือปฏิเสธทันที เพราะเกรงจะเกิดอันตรายระหว่างการท่องเที่ยว แต่อันที่จริงแล้ว ยังมีบางอำเภอที่ไม่ได้รับผลกระทบ และมีทั้งธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมที่สอดแทรกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ลงไป ให้ได้มาเยี่ยมเยือน อย่างเช่นที่อุโมงค์ปิยะมิตร อ.เบตง จ.ยะลา ที่แสดงให้เห็นถึงร่องรอยการต่อสู้ และสงครามระหว่างรัฐบาลมาเลเซียและพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความน่าสนใจให้ศึกษา
ด้าน พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง กล่าวว่า ในส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ เพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังโดยไม่ประมาท ได้กำชับในการเน้นตรวจสอบยานพาหนะ และบุคคลเป้าหมายในคดีความมั่นคง และตั้งจุดตรวจจุดสกัดลอยบนเส้นทางที่จะเข้ามาสู่ตัวเมืองเบตง ในถนนสายหลักและสายรอง เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ในพื้นที่เขตเมืองเบตง
โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้น และขอความร่วมมือประชาชนและสถานประกอบการในพื้นที่ช่วยกันตรวจสอบหน้าบ้าน ภายในร้านค้า ว่า มีวัตถุแปลกปลอมซุกซ่อนอยู่หรือไม่ ซึ่งปัจจุบันคนร้ายได้ประกอบวัตถุระเบิดในหลากหลายรูปแบบ เช่น กระเป๋าเงิน กระป๋องเครื่องดื่ม นาฬิกาดิจิทัล โดยไปวางไว้ใกล้วัตถุไวไฟ หรือวัตถุที่ติดไฟง่าย จึงขอให้ช่วยกันตรวจตราสอดส่องอย่างละเอียด หากพบเห็นต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที เพื่อป้องกันการก่อเหตุของคนร้ายได้ นายอำเภอเบตง กล่าว
ซึ่งช่วงวันหยุดยาวในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับเทศกาลปีใหม่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เดินทางมาท่องเที่ยวชมอุโมงค์ประวัติศาสตร์ปิยะมิตร เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาจะได้สัมผัสความรู้สึกแบบที่ย้อนไปในอดีต พร้อมมีไฟแบบสลัวๆ ตามทางเดินจะมีข้อความบ่งชี้ว่าจุดนี้คืออะไร ใช้ทำอะไร เช่น ที่นอน ที่นั่ง ที่ประชุม เป็นต้น ซึ่งระยะทางในอุโมงค์นี้มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร คดเคี้ยวไปมาภายในภูเขา มีอากาศถ่ายเท และเย็นสบาย แม้ภายนอกจะร้อนมากก็ตาม
สำหรับอุโมงค์นี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2519 ใช้แรงงานคนขุดประมาณ 40-50 คน ใช้เวลาสร้างประมาณ 3 เดือนเท่านั้น เพื่อเป็นสถานที่หลบภัยทางอากาศ รวมถึงสะสมเสบียงสำหรับการต่อสู้ระหว่างโจรคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) กับรัฐบาลมาเลเซีย ปัจจุบันไม่มีผู้อาศัยภายในแล้ว แต่ยังมีร่องรอยต่างๆ หลงเหลือกระจัดกระจายอยู่รอบๆ
เมื่อเดินออกมาภายนอกอุโมงค์ก็จะพบทั้งป่าไม้ และลำธารที่ค่อนข้างสะอาดและสดชื่น รวมถึงต้นไทรพันปี ที่มีขนาดลำต้นสูงใหญ่มาก จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินที่สำคัญของนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางกลับ
ด้วยเรื่องราวของสถานที่อันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และความน่าสนใจของการก่อสร้างอุโมงค์แห่งนี้กลางป่าลึก อุโมงค์ปิยะมิตร จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือน หากได้มีโอกาสมาเที่ยวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา