ตรัง - คุณลุงชาว ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง นำพื้นที่ว่างข้างบ้านหันมาเลี้ยง “ควายไทย” ทั้งควายเผือก และควายดำเป็นเวลานานกว่า 5 ปี จนกลายเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของเกษตรกรจากทั่วทุกภาค
นายกะหนี หรือคุณลุงกะหนี ซาชา อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 7 ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง นำพื้นที่ว่างข้างบ้านประมาณ 10 ไร่ หันมาเลี้ยงควายไทยเกือบ 20 ตัว โดยเป็นควายเผือก 5 ตัว และควายดำอีก 14 ตัว เป็นเวลานานกว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งเมื่อเดือนมีนาคม 2560 ได้ไถ่ชีวิตควายเผือกเพศผู้ ชื่อว่า “เจ้าเพชร” อายุประมาณ 3 ปี มาจากโรงฆ่าสัตว์
หลังจากนั้น ปรากฏว่ามีโชคลาภเงินทอง และการทำมาค้าขายดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเจ้าเพชรก็ได้ผสมพันธุ์กับควายดำ จนออกลูกมาเป็นควายเผือกถึง 3 ตัว ภายในเวลา 1 ปี จนล่าสุด ควายเผือกเพศผู้ตัวนี้ มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากเดิม 700 กิโลกรัม เป็น 1 ตันแล้ว
นอกจากนั้น จากความผูกพันกันมาตั้งแต่ครั้งที่ทางบ้านยังทำนาโดยใช้ควาย คุณลุงกะหนี จึงคิดอนุรักษ์เอาไว้เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้เยี่ยมชม จนปัจจุบันกลายเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ควายไทยของภาคใต้ และเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเกษตรกรจากทั่วทุกภาคของประเทศ
สำหรับการเลี้ยงควายทั้งหมดจะใช้วิธีปล่อยให้เดินเล่นในสวนยางพารา พอตกเย็นควายก็จะเดินกลับเข้าคอกเอง เพื่อกินฟางผสมมันบด และอาหารเสริมอื่นๆ ซึ่งล่าสุด ได้เตรียมโค่นต้นยางพาราข้างบ้านบางส่วนในยุคที่ราคาตกต่ำสุดๆ เพื่อนำมาขยายพื้นที่เลี้ยงควายเพิ่ม โดยส่วนหนึ่งตั้งใจจะนำไปขายให้แก่เกษตรกรผู้สนใจเพื่อนำไปเลี้ยงต่ออีกด้วย
