ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ฝ่ายความมั่นคงแถลงข่าว ยันระเบิดแหลมสมิหลาเพียง 2 ลูก ส่วนที่เหลือเป็นเพียงการยิงทำลายวัตถุต้องสงสัย ขณะที่สาเหตุมีหลายเรื่อง ทั้งความมั่นคง และประเด็นเชื่อมโยงทางธุรกิจ ส่วนนางเงือกยืนยันซ่อมแซมได้
วันนี้ (27 ธ.ค.) ความคืบหน้าเหตุระเบิดที่แหลมสมิหลา จ.สงขลา เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 26 ธันวาคม 2561 ล่าสุด เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงได้ร่วมกันแถลงข่าวสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังวัดสงขลา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พล.ต.จตุพร กลัมพสุต รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ พล.ร.ท.ชุตินธร ทัตตานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2
โดยในส่วนของระเบิดที่เกิดขึ้น พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า ยืนยันว่ามีเพียง 2 ลูก คือ ลูกที่วางระเบิดรูปปั้นนางเงือกทำให้หางนางเงือกขาด กับลูกที่วางระเบิดรูปปั้นหนูกับแมว ที่อยู่ห่างกันประมาณ 300 เมตร แต่ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนที่เหลือเป็นเพียงการยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยที่เป็นชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของระเบิดทั้ง 2 ลูกเท่านั้น ซึ่งกระจัดกระจายอยู่โดยรอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด ซึ่งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดต้องยิงทำลายทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะส่งชิ้นส่วนระเบิดไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อเชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุ
พล.ต.ท.รณศิลป์ ยังเปิดเผยอีกว่า ส่วนสาเหตุของการลอบวางระเบิดนั้นเชื่อมโยงกันหลายเรื่องยังไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ และจากแนวทางการสอบสวนพบว่าอาจจะมีความขัดแย้งในทางการค้า และกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยวมาเกี่ยวข้องด้วย แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นระเบิดการเมืองแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องเร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
ด้าน พล.ต.จตุพร กลัมพสุต รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ก็เปิดเผยไปทางเดียวกันว่า ยังไม่สามารถปักใจเชื่อว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด หรือเป็นการกระทำของกลุ่มใด แต่ก่อนหน้านี้ พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดน จ.สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้บางส่วน แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าเป็นการกระทำของคนกลุ่มนี้หรือไม่
ในขณะที่ พล.ร.ท.ชุตินธร ทัตตานนท์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า หลังเกิดเหตุได้จัดกำลังชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของกองทัพเรือเข้าไปสนับสนุนฝ่ายตำรวจ และจัดกำลังเสริมดูแลความปลอดภัยบริเวณชายหาดแหลมสมิหลาหลังจากนี้
ทางด้าน นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจะงหวัดสงขลา กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องเร่งวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ทั้งด่านตรวจด้านความมั่นคงถนนสายหลัก และถนนสายรอง แต่จะต้องไม่กระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ และต้องเร่งสร้างความมั่นใจกลับคืนมาโดยเร็วที่สุดเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยขอความร่วมมือสื่อมวลชนและประชาชนมาร่วมกันสร้างความเชื่อมันของ จ.สงขลา ให้กลับคืนมา
“และร่วมกันประณามผู้ที่ก่อเหตุ และขอความร่วมมือสื่อโซเชียลอย่าเผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นความจริงซึ่งเป็นการซ้ำเติมให้เหตุการณ์เลวร้ายลงไปอีก และในส่วนการซ่อมแซมรูปปั้นนางเงือกที่เสียหายนั้น จากการตรวจสอบพบว่า สามารถนำหางมาต่อได้ ซึ่งหลังจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมต่อไป” นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจะงหวัดสงขลา กล่าว
และในวันเดียวกันนี้ นายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีเมืองสงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลนครสงขลา ได้เข้าตรวจสอบความเสียหายของเงือกทอง พบว่า ถูกแรงระเบิดจนขาดในช่วงกลางหาง โดยเบื้องต้น ยืนยันสามารถดำเนินการซ่อมแซมได้ทันที และจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อให้สามารถเปิดพื้นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้