ศูนย์ข่าวภูเก็ต - depa ภูเก็ต จับมือสภาอุตสาหกรรม มอบของขวัญปีใหม่ให้เอสเอ็มอีรายเล็ก ซื้อซอฟต์แวร์รับส่วนลดมูลค่าสูงสุด 10,000 บาทต่อราย
วันนี้ (26 ธ.ค.) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวโครงการส่งเสริมและสนับสนุนคูปองดิจิทัลเพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (depa mini Transformation Voucher) ในพื้นที่ภาคใต้ และโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในพื้นที่ โดยมีนายประชา อัศวะธีระ ผอ.เขตพื้นที่ depa สาขาภาคใต้ตอนบน พร้อมด้วย น.ส.เชิญพร กาญจนสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันแถลงข่าว พร้อมด้วย นายคุณชริน ธำรงเกียรติกุล ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต
นายประชา อัศวะธีระ ผอ.เขตพื้นที่ depa สาขาภาคใต้ตอนบน กล่าวว่า กระทรวงดีอี จัดเตรียมมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในเขตพื้นที่ภาคใต้ เพื่อส่งเสริมให้มีการประยุกต์ใช้ดิจิทัลในองค์กรเพื่อยกระดับธุรกิจและก้าวทันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลยุค Thailand 4.0 โดย depa รับลูกสนับสนุนเอสเอ็มอีใช้ดิจิทัล
สำหรับโครงการคูปองอุดหนุนเพื่อการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในภาคธุรกิจอุตสาหกรรม หรือ depa mini Transformation Voucher เป็นโครงการที่มุ่งการผลักดันให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เข้าถึงการใช้ Digital Platform ที่จะสามารถช่วยสร้างข้อมูลการตัดสินใจ สร้างความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการให้แก่ธุรกิจ ทั้งในด้านการขายและการบริหารจัดการต่างๆ เช่น ระบบการขยาย (Point of Sale : POS) ระบบจัดการคลังสินค้า ระบบขนส่ง ระบบบัญชี ระบบ CRM ระบบบริหารงานบุคคล เป็นต้น โดยเป็นการสนับสนุนเงินให้เปล่าในการซื้อและใช้บริการซอฟต์แวร์และดิจิทัลจากผู้ให้บริการในโครงการฯ จำนวน 100% แต่ไม่เกิน 10,000 บาท (ก่อนภาษีมูลค่าเพิ่ม) จำกัดสิทธิ 1 เอสเอ็มอีต่อ 1 ทุน
“ในปี 2562 นี้ depa ได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ส่งเสริมให้เอสเอ็มอี ในกลุ่มร้านค้าปลีกค้าส่ง กลุ่มธุรกิจบริการ กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว และกลุ่มธุรกิจการเกษตร เข้าถึงเครื่องมือดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำธุรกิจให้ดีขึ้น และมีข้อมูลในการดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยในการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมาย 200 ราย ทั่วภาคใต้ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการและขั้นตอนการขอรับการสนับสนุน depa mini-Transformation Voucher ได้ที่
www.depa.or.th/smedigitalcoupon”
“depa และสภาอุตฯ มีความคาดหวังที่จะสร้างโอกาสในการทำธุรกิจ ลดต้นทุนการบริหารจัดการ และเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจให้แก่เอสเอ็มอีในยุคดิจิทัลได้อย่างเท่าทัน”
ด้าน น.ส.เชิญพร กาญจนสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่สภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่โครงการที่ได้รับการสนับสนุนโครงการ จึงได้กำหนดจัดงานแถลงข่าว “โครงการส่งเสริมและสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคใต้” และ “โครงการส่งเสริมและสนับสนุนคูปองดิจิทัลเพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (depa mini Transformation) ขึ้นในวันนี้
มาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (depa mini Transformation Fund) เป้าหมายเพื่อส่งเสริม สนับสนุนร่วมมือกับบุคคลอื่น ในการศึกษาแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล มุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Transformation) และเพื่อส่งเสริม สนับสนุนและร่วมมือกับบุคคลอื่นเพื่อให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (Digital Transformation) ลักษณะของโครงการ เพื่อมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลจากผู้ประกอบการ ในมิติดังต่อไปนี้
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการเพิ่มผลิตภาพหรือมูลค่าเพิ่ม
ประเภท Solutions ที่สนับสนุนเทคโนโลยีดิจิทัลในการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ Operational Backbone เช่น ERP, CRM, HR, บัญชี, ระบบการขาย, ระบบคลังสินค้า เป็นต้น เป็นการกระตุ้นตลาด และ Jump Start การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกลุ่ม SMEs โดยมีเป้าหมาย ภาคใต้ จำนวน 200 ราย ในกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร ธุรกิจร้านค้าบริการ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจร้านค้าปลีก
depa Digital Transformation Fund (T2) : Digital Transformation ช่วยเหลือองค์การเอกชน หน่วยงานภาครัฐ สถาบันเฉพาะทางของรัฐ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษาของรัฐและเอกชน โดยอุดหนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตามนิยามของ สสว. มีวงเงินสนับสนุน เงินให้เปล่า (grant) สูงสุด 1,000,000 บาท/ราย (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของมูลค่าโครงการ) ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 3 ปี
