ได้เวลาล่องใต้ไปทานขนมจีนร้านดัง “หม้อเพล้ง” ดอนสัก สุราษฎร์ธานี

สุราษฎร์ธานี - ได้เวลาล่องใต้ไปทานขนมจีนร้านดัง “หม้อเพล้ง” ทางไปท่าเรือดอนสัก ที่ขายน้ำยาซีฟูดเจ้าแรก โดยเฉพาะน้ำยาปู น้ำยากั้งสดใหม่ ตัวใหญ่ๆ อร่อย ชัวร์

ถ้าพูดถึงร้านขนมจีนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นับได้ว่ามีจำนวนมาก แต่ร้านขนมจีนที่มีความแตกต่าง ไม่เหมือนใคร ต้องไปกันที่นี่ ร้านขนมจีนที่ขายน้ำยาปู น้ำยากั้ง ซึ่งเป็นร้านชื่อดังของจังหวัดสุราษฎร์ธานีกันเลยทีเดียว เป็นร้านที่ไม่ควรพลาดที่จะไปชิม

สำหรับร้านขนมจีนที่ว่า คือ ร้านขนมจีนหม้อเพล้ง ตั้งอยู่เลขที่ 48/4 หมู่ที่ 6 ถ.ดอนสัก-ขนอม ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี หรือทางไปท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก โดย น.ส.อาภาศรี นาคมณี อายุ 53 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า สัญลักษณ์ของร้านเป็นหม้อแกงสังกะสีเคลือบสีน้ำเงิน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหม้อเพล้ง โดยที่ร้านมีนำยาขนมจีนหลายอย่างให้เลือกรับประทาน

ประกอบกับอำเภอดอนสัก เป็นพื้นที่ติดชายทะเล และมีประมงพื้นบ้านจำนวน ตนจึงนำปู กับกั้ง มาทำเป็นน้ำยาสูตรรสเด็ดประจำร้าน แต่ยังคงใช้หม้อเพล้งเหมือนกับที่แม่เคยขายในอดีตเพื่อมาเป็นเอกลักษณ์ของร้านในการใส่น้ำยา ซึ่งดั้งเดิมมีแค่ขนมจีนน้ำยา-น้ำพริกทั่วไป แต่ปัจจุบันได้พัฒนาปรับปรุง มีน้ำยากว่า 7 ชนิด ที่ประกอบด้วย น้ำยาปลา น้ำยากุ้ง น้ำยาปู น้ำพริกหวาน แกงไตปลา แกงไก่กะลาอ่อนมะพร้าว

และที่ไม่เหมือนใครก็คือ น้ำยาปู และน้ำยากั้ง ลูกค้าที่มาที่ร้านจะสั่ง ขนมจีนน้ำยาปู และน้ำยากั้ง ทานเป็นส่วนใหญ่ โดยจะสั่งเป็นชุดจัดเต็ม ในหนึ่งจานจะมี ขนมจีนน้ำยาปูไข่ต้ม 1 ฟอง ประดับด้วยก้ามปู 4 ก้าม ส่วนขนมจีนน้ำยากั้งไข่ต้ม 1 ฟอง และกั้งนึ่ง 2 ตัว เป็นที่ถูกใจลูกค้าเพราะรสชาติของน้ำยาเนื้อปูและเนื้อกั้งที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อปูเนื้อกั้งควบคู่ไปกับก้ามปู และกั้งสดๆ เนื้อหวานๆ เข้ากันอย่างลงตัว สำหรับชุดจัดเต็ม จะขายอยู่ที่จานละ 80 บาท แต่ถ้าเป็นขนมจีนแกงไก่ หรือน้ำยาทั่วไปก็จะขายแค่จานละ 30 บาทเท่านั้น

เจ้าของร้านยังระบุอีกว่า ปัจจุบันได้มีการจัดส่งไปต่างอำเภอ ต่างจังหวัด และไกลสุดถึงกรุงเทพฯ ซึ่งมีออเดอร์เข้าทุกวัน นอกจากนั้น ตนได้ผลิตเครื่องแกงน้ำยาปู น้ำยากั้งจัดจำหน่ายเป็นชุดเล็ก-ชุดใหญ่ ชุดเล็ก น้ำหนักครึ่งกิโลกรัม ในราคา 400 บาท

สำหรับขั้นตอนการปรุงน้ำยาชุดเล็ก ประกอบด้วย หัวกะทิกับหางน้ำกะทิอย่างละ 1 กิโลกรัม รวมให้ 2 กิโลกรัม โดยนำน้ำกะทิมาต้มด้วยไฟอ่อนๆ จนเดือดแล้วนำเครื่องแกงลงใส่พร้อมคนเบาๆ และคนอย่างต่อเนื่องให้เครื่องแกงละลายเข้ากับน้ำกะทิจนเดือดแล้วยกลง ห้ามตั้งไฟนานจะทำให้กะทิแตกมันจะทำให้รสชาติเปลี่ยนไป ข้อสำคัญน้ำกะทิอย่าให้ขาดหรือเกินรสชาติจะเปลี่ยนไปเหมือนกัน

หากทำตามขั้นตอนถูกต้องทุกอย่างแล้วทางร้านรับประกันรสชาติอร่อยเหมือนกับเดินทางมานั่งทานที่ร้าน นอกจากนั้น ทางร้านยังมีก้ามปูม้าและเนื้อกั้งที่นึ่งสุกแล้แช่แข็งไว้จำหน่ายอีกด้วย หากผู้ที่สนใจจะสั่งไปปรุงทานเองโทร.สอบถามได้ที่เบอร์โทร.08-9731-8902, 08-5795-2600 ทางร้านเปิดขายทุกวันไม่มีวันหยุด