ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำวังหีบ พร้อมด้วย เครือข่ายเพื่อนวังหีบเพื่อสิ่งแวดล้อมจำนวน 24 เครือข่าย ออกแถลงการณ์ในการคัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนวังหีบ
วันนี้ (23 ธ.ค.) กลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำวังหีบ พร้อมด้วย เครือข่ายเพื่อนวังหีบเพื่อสิ่งแวดล้อมจำนวน 24 เครือข่าย ได้ออกแถลงการณ์ในการคัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนวังหีบ ในพื้นที่อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยกลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำวังหีบ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง หยุดเขื่อนวังหีบ หยุดคุกคามประชาชน มีใจความว่า
พวกเราประชาชนคนวังหีบ อยู่อาศัย และทำกินในผืนแผ่นดินแห่งนี้มานานร่วมร้อยปี รกราก เลือดเนื้อ และจิตวิญญาณของเราฝังลึกอยู่ในผืนดินแห่งนี้จนเป็นเนื้อเดียวกัน เราจึงไม่เคยคิดที่จะอพยพโยกย้ายถิ่นฐานไปไหน เพราะที่นี่คือบ้านของเรา
การที่กรมชลประทาน และรัฐบาลพยายามที่จะยึดคืนพื้นที่อันเป็นบ้านของเราเพื่อนำไปสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำโดยอ้างถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เพื่อการเกษตร เป็นแหล่งท่องเที่ยว และอื่นๆตามที่ท่านได้ใช้อ้างเพื่อการทำโครงการนี้กับทุกพื้นที่ของประเทศ จึงเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถยอมรับเหตุผลดังกล่าวนั้นได้ ด้วยจังหวัดนครศรีธรรมราชไม่ได้เป็นพื้นที่ขาดแคลนน้ำหนักหนาสาหัส ที่จะต้องสร้างเขื่อนเพื่อให้มีน้ำกินน้ำใช้ และการอ้างเหตุผลเพื่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และเพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ยิ่งเป็นเหตุผลที่ไม่อาจรับฟังได้
ด้วยเพราะสภาพภูมิประเทศของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีสภาพเป็นป่าไม้ ภูเขาเรียงรายอยู่ทั่วไป อันรวมถึงพื้นที่บ้านวังหีบ ในอำเภอทุ่งสงนี้ด้วย ดังที่มีนักวิชาการออกมาเสนอความเห็นแย้งแล้วว่าการสร้างเขื่อนไม่ได้มีผลกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด เพราะในหลายพื้นที่ที่มีเขื่อนอยู่แล้วก็ยังต้องประสบกับปัญหานี้ในทุกฤดูกาลที่มีน้ำหลากตามที่รับรู้กันในสื่อสาธารณะ
ส่วนการอ้างถึงแหล่งท่องเที่ยวยิ่งไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เพราะบ้านวังหีบแห่งนี้มีสายและมีธารน้ำตกที่สวยงาม และยังเป็นผืนป่าที่มีความหลากหลายทางชีวิภาพที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช และของประเทศ ที่สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติได้ดีกว่าการนำไปสร้างเขื่อน และที่มากไปกว่านั้นคือบริเวณที่จะมีการเวนคืน และยึดคืนที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินจากประชาชนเกือบหนึ่งร้อยครัวเรือนนี้ คือการล่มสลายของชุมชนชนบทอีกแห่งหนึ่งที่พวกเราไม่สามารถทำใจยอมรับได้
ดังนั้น การที่รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นการปิดหูปิดตาไม่รับฟังเหตุผล และข้อเรียกร้องของประชาชนตามที่ได้พยายามนำเสนออย่างมีเหตุผลตามขั้นตอนของระบบการเมืองการปกครองตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ในขณะที่การดำเนินการในพื้นที่ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคงเข้ามาในชุมชนบ้านวังหีบอย่างผิดปกติ และล่าสุดยังมีการโปรยใบปลิวประกาศของกลุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นผู้สนับสนุนโครงการออกมากล่าวร้ายกับกลุ่มชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านโครงการ ทั้งยังอ้างถึงสถาบันเบื้องสูงอย่างไม่เหมาะสม เพียงหวังจะปิดกั้นการแสดงออกของพวกเราในฐานะประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการไม่ให้ออกมาสื่อสารกับสังคม และสาธารณะเพื่อให้รับรู้ถึงความทุกข์ร้อน และความไม่ชอบธรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเรา
ในนามของกลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำวังหีบ ที่ได้รวมตัวกันเพื่อการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม วิถีวัฒนธรรม และการดำรงชีวิตบนแผ่นดิน ผืนป่า และสายน้ำแห่งนี้มาอย่างสุขสงบเรียบง่ายตั้งแต่บรรพบุรุษ เราขอยืนยันว่าพวกเราจะยืนหยัดอยู่อาศัยในที่แห่งนี้โดยจะไม่ยอมอพยพโยกย้ายไปไหน โอกาสนี้จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโดยการสั่งยุติโครงการเขื่อนวังหีบในทันที และขอให้หยุดการคุกคามชาวบ้านในทุกรูปแบบ มิเช่นนั้นแล้วพวกเราจะกระทำการทุกวิถีทางตามระบบประชาธิปไตย และตามสิทธิอันชอบธรรมของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพื่อจะคัดค้านโครงการเขื่อนวังหีบอย่างถึงที่สุด
ขณะที่ เครือข่ายเพื่อนวังหีบ เพื่อสิ่งแวดล้อม ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง เราจะร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และคัดค้านการสร้างเขื่อนวังหีบอย่างถึงที่สุด โดยมีฝจความดังนี้
ตามที่รัฐบาลได้มีการอนุมัติโครงการสร้างเขื่อนวังหีบ ในพื้นที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการอนุมัติโครงการที่ไร้เหตุผล เพราะมิได้ตั้งอยู่บนฐานข้อเท็จจริงของสภาพพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่ากรมชลประทานไม่ได้นำเสนอข้อมูลลักษณะนี้ให้รัฐบาลได้รับทราบ เพียงแต่อ้างเหตุผลว่าต้องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เพื่อการเกษตร และการท่องเที่ยวให้กับประชาชนในพื้นที่เพียงเท่านั้น หากแต่ในความเป็นจริงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอำเภอทุ่งสง และจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีทั้งผืนป่าอันเป็นต้นน้ำลำธารที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของภาคใต้ และมีความสวยงามเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนี้ต่อไป
อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ที่ดำรงชีวิตอยู่ในวิถีการเกษตรที่ผสมผสานกลมกลืนกับสภาพธรรมชาติที่มีอยู่อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรมอยู่อาศัยพึ่งพากันเป็นชุมชนเก่าแก่โบราณ ซึ่งความจริงเหล่านี้เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วไป เป็นสาเหตุให้ชาวบ้านมีการตัวกันในนามกลุ่มอนุรักษ์ป่าต้นน้ำวังหีบและได้พยายามนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ให้กับหน่วยงานราชการทั้งในพื้นที่ท้องถิ่น จังหวัด และรัฐบาลได้รับรู้มาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อจะบอกว่าบ้านวังหีบไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะเปลี่ยนสภาพไปเป็นเขื่อน
พวกเราในนามเครือข่ายเพื่อนวังหีบเพื่อสิ่งแวดล้อม เกิดขึ้นจากการรวมตัวของกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม นักอนุรักษ์ ศิลปิน สื่อมวลชน ประชาชนทั่วภาคใต้ และภาคีภาคอื่นๆ ได้ติดตามสถานการณ์ของโครงการดังกล่าว และติดตามถึงความเคลื่อนไหวของชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเราบางส่วนเคยลงมาเยี่ยมดูสภาพพื้นที่จริงหลายครั้ง พร้อมกับได้มีการบันทึกข้อมูล ภาพถ่าย และวาดภาพความอุดมสมบูรณ์และความสวยงามของพื้นที่แห่งนี้ เราจึงมีความเชื่อด้วยความสุจริตใจ บนฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ว่าบ้านวังหีบไม่ควรถูกใช้เป็นพื้นที่สร้างเขื่อนโดยสิ้นเชิง และเชื่อว่าโครงการนี้จะสร้างความสูญเสียให้กับชุมชน และทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมอย่างไม่อาจเรียกกลับคืนได้ ดังนั้นการตัดสินอนุมัติโครงการของรัฐบาลในครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาดอย่างยิ่งที่พวกเราไม่สามารถยอมรับได้
เครือข่ายเพื่อนวังหีบเพื่อสิ่งแวดล้อม ขอสนับสนุนการตื่นตัวของประชาชนในพื้นที่บ้านวังหีบ และขอยกย่องที่ได้แสดงความหาญกล้าออกมาปกป้องชุมชนท้องถิ่นและทรัพยากร บ้านของตนเองอย่างแข็งขัน ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่รัฐบาลมีอำนาจเบ็ดเสร็จเช่นที่เป็นอยู่นี้ พร้อมกันนี้เราขอประณามรัฐบาลที่ไม่ยอมรับฟังข้อเท็จจริงจากเสียงของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งการกระทำอื่นใดที่กำลังเกิดขึ้นเพื่อแสดงถึงการคุกคามประชาชนบ้านวังหีบ พร้อมกับขอประกาศว่าเราจะยืนหยัดร่วมต่อสู่กับพี่น้องชาววังหีบและประชาชนทุกกลุ่มที่ได้ออกมาคัดค้านโครงการนี้อย่างเต็มกำลัง ในทุกระดับทั้งในระดับพื้นที่ ระดับภาคใต้ และระดับประเทศ เพื่อที่จะไม่ให้โครงการเขื่อนวังหีบเกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ได้อีกต่อไป
รายชื่อ 24 เครือข่าย กลุ่มเพื่อนวังหีบ
1.กป.อพช.ภาคใต้
2.กลุ่มรักษ์โตนสะตอ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง
3.ชุมชนบ้านทองล้น ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา
4.โรงเรียนใต้ร่มไม้ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง
5.สถาบันนักวิชาการลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา
6.กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะ (เขื่อนท่าแซะ) อำเภอท่าแซะ จ.ชุมพร
7.กลุ่มเยาวชนสืบสารภูมิปัญญาไทดำ จ.สุราษฎร์ธานี
8.กลุ่มยุวชนสร้างสรรค์ จ.สุราษฎร์ธานี
9.กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม คลองโคกยา ม.5 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช.
10.ชุมชนคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
11.ชุมชน ต.คลองชะอุ่ม อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี (เขื่อนคลองสุก)
12.กลุ่มโจรสลัดเภตรา ปล้นความยุติธรรม คืนให้ประชาชน
13.สมาคมดับบ้านดับเมือง
14.เครือข่ายรักษ์บ้านเกิดท่าศาลา
15.สมาคมเครือข่ายประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา
16.เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล
17.เครือข่ายฝ่ายมีชีวิตแห่งประเทศไทย
18.สมาคมพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา
19.สมาคมคนรักษ์คลองยัน
20.มูลนิธิป่าทะเลเพื่อชีวิต
21.เครือข่ายอนุรักษ์และพัฒนาลุ่มน้ำคลองภูมี
22.ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมลุ่มน้ำปากพนัง
23.กลุ่มเสรีภาพสื่อเพื่อประชาชนภาคใต้
24.เครือข่ายเกษตรทางเลือก ภาคใต้