ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทษช.ลุยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ถิ่น ปชป.ภูเก็ต - กระบี่ ยืนยันไม่ร่วมพรรคที่ตั้งธงสืบอำนาจ พร้อมเปิดเวทีรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อกำหนดเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรม
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 22 ธ.ค.61 ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช) พร้อมด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค และแกนนำพรรค อาทิ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายก่อแก้ว พิกุลทอง เดินทางลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ พร้อมนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ลงพื้นที่แนะนำตัว ที่บริเวณตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ โดยเดินพบปะ ผู้สนับสนุน พ่อค้าแม่ค้า และประชาชน ที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า พร้อมซักถามปัญหาต่างๆโดยเฉพาะปัญหา เศรษฐกิจ ปากท้อง บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น ท่ามกลาง การต้อนรับอย่างอบอุ่น ซึ่งการเดินพบประประชาชน ไม่มีเหตุวุ่นวายแต่อย่างใด
ร้อยโทปรีชาพล กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ครั้งนี้ ตั้งใจที่จะพบปะพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อสอบถามปัญหาต่างๆโดยเฉพาะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ราคาผลผลิตการเกษตร ตกต่ำ เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอโอกาสพี่น้องประชาชน เลือกมาเป็นตัวแทน มาแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยจะนำข้อมูลปัญหาต่างๆ เพื่อนำไปกำหนดนโยบาย ด้านต่างๆ โดยจะกลับมาพบพี่น้องอีกครั้ง สำหรับจุดยืนของพรรค จะไม่ร่วมรัฐบาล คสช.โดยเด็ดขาด
ร้อยโท ปรีชาพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางพรรคได้สรรหาตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. ได้เกือบครบในทุกเขตแล้ว สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ในจังหวัดกระบี่ ทั้ง 2 เขตคือ นายสมพร จันทร์อ่อน อดีตกำนันตำบลหนองทะเล อดีตนายกสมาคมกำนัน ผญบ.อ.เมืองกระบี่ ลงสมัครเขต 1 ส่วนเขต 2 คือ นายสุริยา บุญทอง อดีต สจ.กระบี่ ซึ่งทั้ง 2 ทำงานการเมืองอยู่ใกล้ชิดประชาชนมานาน เชื่อว่ารู้ปัญหาและสามารถแก้ปัญหาให้ อยู่ที่ขอ ประชาชนชาวกระบี่จะให้โอกาสหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจังหวัดกระบี่ เป็นพื้นที่ที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่ครองตำแหน่ง ส.ส.มาอย่างยาวนานหลายสมัย จนมีคนพูดกันว่า เอาเสาไฟฟ้าลงเลือกตั้งก็ยังชนะ
ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมาที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมเอทู รีสอร์ท ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (บายพาส) ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคฯ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์, นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ประธานกรรมการรณรงค์หาเสียง, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการสรรหา, นายประภัสร์ จงสงวน คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท คณะทำงานภาคมใต้ พร้อมด้วยแกนนำพรรค ลงพื้นที่เพื่อพบปะและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ ในภูเก็ต
ประกอบด้วย ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว ประมง, ภาคธุรกิจ, ลูกจ้าง, ผู้ใช้แรงงาน และส่วนอื่นๆ เพื่อนำไปเป็นแนวทางบริหารและแก้ไขปัญหา หากได้รับการเลือกตั้ง ทั้งนี้ได้มีตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆร่วมเสนอปัญหาและฝากเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คน มีการนำช่อมาลัยดอกไม้ มารอต้อนรับอย่างอบอุ่น
โอกาสนี้ยังได้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งสองเขตของจังหวัดภูเก็ต ได้แก่นายชลสิทธิ์ แก้วยะรัตน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต1 และ นายหัสรณ อาวัชนาการกุล ว่าที่ผู้สมัคร สส.ภูเก็ต เขต 2 รวม ถึงแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จากจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคใต้ที่ร่วมเดินทางมาพบปะกับชาวภูเก็ตด้วย
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมประชุมได้มีการนำเสนอปัญหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการลดลงของนักท่องเที่ยว, ปัญหาการออกกฎหมายบังคับใช้กับผู้ประกอบการประมงอย่างไม่เป็นธรรม, ปัญหาแรงงานต่างชาติแย่งอาชีพคนไทย, ปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อม การแก้ปัญหาจราจร โดยการผลักดันโครงการรถไฟฟ้ารางเบา และปัญหาอื่นๆ
ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า จากที่ไดรับฟังการสะท้อนปัญหาของชาวภูเก็ต พบว่า ปัญหาหลักจะเป็นเรื่องของการทำมาหากิน ปัญหาการท่องเที่ยวซึ่งปัจจุบันค่อนข้างซบเซาและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมาก ปัญหาคุณภาพชีวิต ปัญหาการจราจร ปัญหาการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ปัญหาความแออัดของเมือง ซึ่งเท่าที่ประเมินพบว่า การแก้ปัญหาต่างๆ สามารถทำได้ แต่ที่ผ่านมายังขาดการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างจริงจัง และทางพรรคเราก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยดูแลและแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
โดยจะนำปัญหาทั้งหมดไปประมวล เพื่อกำหนดเป็นนโยบายของพรรคต่อไป และหากต้องการการเปลี่ยนแปลง ในวันที่ 24 ก.พ.62 นี้ ขอให้ประชาชนชาวภูเก็ตมาช่วยเลือกพรรคฯและพวกเราจะเป็นตัวแทนพรรคที่ประชาธิปไตยโดยแท้จริง และจะนำปัญหาที่ได้รับฟังไปทำเป็นนโยบายแก้ปัญหาให้ต่อไป โดยจะทำให้เห็นว่า พรรคจริงใจในแก้ปัญหาไม่ใช่ทำแค่ช่วงการเลือกตั้งเท่านั้น และหลังจากี้ก็จะกลับมาพบกับพี้องชาวภูเก็ตอีก
ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่สามารถลงพื้นที่มารับฟังปัญหาได้ เพราะรัฐบาลเขาห้ามให้นักการเมืองทำกิจกรรมในพื้นที่ ซึ่งหลังจากที่รัฐบาลได้ปลดล็อกทางการเมือง จึงสามารถลงพื้นที่มารับฟังปัญหาได้ และหลังจากนี้จะลงมาพบปะอีกต่อเนื่อง จากประเด็นปัญหาต่างๆ ที่มีการสะท้อนออกมานั้นจะรวบรวมและนำไปประมวลเพื่อกำหนดเป็นนโยบายของพรรคต่อไป
ในส่วนที่เป็นปัญหาในข้อกฎหมายก็จะต้องมีการทบทวน ส่วนปัญหาการท่องเที่ยว ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง สิ่งสำคัญคือ การสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย รวมถึงการเชื่อมโยงไปยังเมืองรอง เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ ไม่กระจุก นอกจากนี้ในการใช้งบประมาณซึ่งยังไม่เหมาะสม เนื่องจากภูเก็ตทำรายได้ให้กับประเทศค่อนข้างมาก และมีการส่งภาษีกลับให้รัฐค่อนข้างมากเช่นกัน ดังนั้นก็จะต้องคืนกลับมาให้เหมาะสม โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับการขยายตัวของการท่องเที่ยว รวมไปถึงการเสนอให้ภูเก็ตมีการบริหารจัดการตัวเองหรือเป็นเมืองรูปแบบพิเศษ ซึ่งคงไม่ใช่รูปแบบเมืองพัทยา
ขณะเดียวกันจะต้องมีการผสานความร่วมมือกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งภารับ เปกชน และประชาชน เพื่อมาร่วมกันคิดว่า จะมีการพัฒนาภูเก็ตไปในทิศทางใด เพราะมีศักยภาพอยู่แล้ว โดยจะต้องให้เศรษฐกิจโตและกระจาย ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นรายเล็ก รายกลาง รากใหญ่ และส่งเสริมการทำธุรกิจรุ่นใหม่ๆ ตลอดจนการพัฒนาให้เป็นเมืองสมาร์ทซิตี้
อย่างไรก็ตามนายจาตุรนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับพรรคไทยรักษาชาติ เป็นการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ กับคนรุ่นเก่า ที่มีวิสัยทัศน์ฉบับไทยรักไทย ขณะมรชนพื้นที่ภาคมใต้ได้มีการลงพื้นที่แล้ว 2 จังหวัด และตามเป้าหมายจะเดินทางไปปะทุกจังหวัดทุกเขตเลือกตั้งของภาคใต้และจะกลับมาลงพื้นที่อีก โดยเราขอเสนอตัวเป็นทางเลือกสำหรับชาวภูเก็ต
ขณะที่นายณัฐวุฒิฯ กล่าวว่า ที่มานั้นเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวภูเก็ต และราจะนำข้อมูลทั้งหมดไปประมงความคิดเห็น เพื่อกำหนดเป็นนโยบาย และจะนำมาชี้แจงกับพี่น้องทราบอีกครั้ง หากได้รับเลือกเข้าไปทำหน้า ส.ส.ก็จะสามารถลงมือทำทันที และอยากเรียกร้องพี่น้องชาวภูเก็ตที่ยังคงยึดแบบเดิมๆ ให้ลองมาเลือก ส.ส.ของพรรคไทยรักชาติ รับประกันว่าสามารถลงมือทำได้ทันที
