xs
xsm
sm
md
lg

ญาติผู้เสียชีวิตจากการรักษาพยาบาลเตรียมร้องปลัดกระทรวงสาธารณสุขพรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

กระบี่ - ลูกชายเหยื่อพยาบาลฉีดยาตายที่ รพ.หอบหลักฐานเข้าร้องเรียนปลัดกระทรวงสาธารณสุขพรุ่งนี้ เหตุเชื่อว่า พ่อเสียชีวิตเกิดจากความประมาทเลินเล่อของแพทย์ ด้าน สสจ.กระบี่ สรุปรายงานกระทรวงสาธารณสุข

กรณีลูกชายภารโรงโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เขาพนม จ.กระบี่ เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม ให้ตรวจสอบการเสียชีวิตของพ่อตัวเอง หลังมีอาการวิงเวียนศีรษะเข้ารับการรักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ โดยเข้าห้องฉุกเฉินได้เพียงประมาณ 5 นาที พยาบาลก็ฉีดยาให้ก่อนที่ผู้ตายจะเกิดอาการช็อกกะทันหัน และเสียชีวิตทันที ซึ่งทาง สำนักงานสาธารณสุข จ.กระบี่ รับทราบเรื่องดังกล่าวและเตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว

ล่าสุด วันนี้ ( 20 ธ.ค. ) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายภัทรพล จีนหนู อายุ 39 ปี ที่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 9 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ พี่ชายของนายบุญชัย จีนหนู อายุ 34 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นลูกชายของนายสุมิตร จีนหนู อายุ 59 ปี นักการภารโรงที่เสียชีวิต โดยในวันเกิดเหตุนายภัทรพล เป็นคนพานายสุมิตร ไปโรงพยาบาลในคืนเกิดเหตุ

นายภัทรพล เล่าลำดับเหตุการณ์วันเกิดเหตุให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่บ้านกับพ่อ และ ลูกสาว ต่อมาพ่อบอกว่ามีอาการคลื่นไส้ ก่อนจะเดินมานั่งพักอยู่หน้าบ้าน ตนบอกจะพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล พ่อบอกว่าไม่ต้องก็ได้ เพราะอาการดีขึ้นแล้ว แต่ด้วยความเป็นห่วง ก็พาพ่อไปหาหมอเพื่อให้สบายใจ เมื่อไปถึงที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่บอกให้พ่อขึ้นเปล แต่พ่อบอกจะไม่ขึ้น เพราะไม่ได้มีอาการรุนแรงอะไร สุดท้ายก็ต้องยอมขึ้นเปลเข้าห้องฉุกเฉิน

จากนั้นตนก็ขับรถออกไปจอดที่ลานจอดรถด้านหน้าตึก ก่อนเดินกลับเข้ามาที่หน้าห้องฉุกเฉิน ก็พบพยาบาลกำลังวิ่งกันวุ่นวายแล้ว บอกว่าพ่อตนมีอาการช็อกจากการฉีดยา ซึ่งเป็นช่วงเวลาห่างกันไม่ถึง 5 นาที ตั้งแต่ลงจากรถเข้าห้องฉุกเฉิน จากนั้นจึงมีหมอเข้ามาที่ห้องฉุกเฉิน เพื่อช่วยกันปั้มหัวใจช่วยชีวิต นานประมาณ 20 นาที ก็มีพยาบาลมาบอกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว

นายภัทรพล เล่าต่อว่า สำหรับสาเหตุที่ทางหมอแจ้งว่าพ่อมีอาการช็อก เพราะอาหารเป็นพิษ โดยส่วนตัวตนไม่เชื่อว่าสาเหตุดังกล่าวจะทำให้พ่อเสียชีวิตได้ เพราะพ่อเป็นคนแข็งแรง อาการก่อนจะมาโรงพยาบาล ก็เพียงวิเวียนศีรษะ คลื่นไส้ธรรมดา ไม่ได้มีอาการรุนแรงถึงขั้นเป็นลมหมดสติ เพราะพ่อยังเดิน ยังพูดคุยได้ปกติ แต่หลังจากพ่อถูกฉีดยาไปไม่เกิน 5 นาที พ่อก็เสียชีวิตไป ส่วนของกินที่พ่อกินไปในวันเกิดเหตุ ตนเป็นคนซื้อปูดำมาทำกับข้าวให้พ่อกินเอง ตั้งแต่ตอนเย็นวันเดียวกัน

แล้วเริ่มมีอาการตอน 4 ทุ่ม แต่โดยปกติพ่อไม่ได้เป็นคนแพ้ปู หรือแพ้อาหารทะเล ซึ่งปกติพ่อไม่เคยมีโรคประจำตัวอะไร เป็นคนแข็งแรงดี ปูที่กินกันวันนั้นก็กินกันทั้งบ้าน พ่อไม่ได้กินคนเดียว จึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะเสียชีวิตเพราะกินปูเข้าไป

ด้านนายบุญชัย ลูกชาย คนที่นำเรื่องนี้ออกมาร้องเรียน เผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (21 ธ.ค.) ตนจะเดินทางไปสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำหนังสือร้องเรียนเข้าไปยื่นที่กบปลัดกระทรวง ให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา และเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลไม่ได้ออกมายอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

ในส่วนของโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ ล่าสุด ทางสาธารณสุข จ.กระบี่ พร้อม จนท.นิติกร เดินทางเข้าไปตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อหาสาเหตุการตายที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งในใบรายงานการรักษาครั้งแรก ระบุว่าผู้ตายมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตาย และมีอาการแพ้อย่างรุนแรงจากอาหาร โดยทาง สสจ.กระบี่ ทำรายงานชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น ส่งไปยังกระทรวงสาธารณสุขแล้ว และจะสรุปรายงานการตรวจสอบให้ทางกระทรวงสาธารณสุขทราบอีกครั้ง

นายบุญชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับยาที่เจ้าหน้าที่ฉีดให้กับพ่อ ก่อนเสียชีวิต ตนทราบมาว่า เป็นยาชื่อ “ไดเมนไฮดริเนต” (Dimenhydrinate) เป็นยาที่ใช้รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน และ วิงเวียนศรีษะ ซึ่งยาดังกล่าวจะต้องใช้อย่างระมัดระวังตามคำแนะนำของแพทย์ แต่ในคืนเกิดเหตุ ไม่พบแพทย์เวรอยู่ภายในห้องฉุกเฉินก่อนที่ผู้ป่วยจะมีอาการช็อก หลังจากเกิดอาการช็อก พยาบาลในห้องฉุกเฉินจึงโทรศัพท์ตามให้แพทย์เวร เข้ามาช่วยเหลือผู้ป่วยในภายหลัง ทำให้ตนและพี่น้อง ติดใจสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีแพทย์วินิจฉัยโรค ว่าผู้ป่วยมีอาการรุนแรงแค่ไหน จึงจะสั่งยาให้

นอกจากนี้ในวันเดียวกัน จนท.สำนักงานประกันสังคม จ.กระบี่ ได้เชิญนายบุญชัย เข้าพบที่ สนง.ประกันสังคม เพื่อยื่นเอกสารต่างๆ ในการรับสิทธิจากการเสียชีวิตของนายสุมิตร ผู้เป็นพ่อ โดยมี น.ส.ธัญชนก ศรีนิล นักวิชาการแรงงานชำนาญการ รับเรื่อง พร้อมกล่าวว่า เบื้องต้นผู้ตายจะได้รับสิทธิประกันสังคมในส่วนของค่าทำศพ 40,000 บาท รวมทั้งเงินสงเคราะห์กรณีตาย เงินบำเหน็ดชราภาพ

นอกจากนี้ยังมีสิทธิการเยียวยาแก่ผู้ประกันตนที่ได้รับความเสียหายจากการรับบริการทางการแพทย์ แต่ทางญาติต้องไปขอหลักฐานจากทางโรงพยาบาลมายื่นเพื่อรับสิทธิ หากยืนยันได้ว่าเสียชีวิตจากการรับบริการทางการแพทย์ จะได้รับเงินเยียวยา 240,000-400,000 บาท ก่อนนี้ทางประกันสังคม ไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แต่แจ้งให้ญาติผู้เสียชีวิต ไปนำหลักฐานต่างๆ มายื่น เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณา


กำลังโหลดความคิดเห็น