xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภาค 9 แถลงผลการจับกุมคนร้ายลอบตัดสายเคเบิล 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายลักตัดสายเคเบิลในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เหตุเกิด 29 คดี จับแล้ว 17 คดี ผู้ต้องหา 28 คน มูลค่าความเสียหายเกือบ 28 ล้านบาท

วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 จ.สงขลา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และนางอภิรดี อาษาพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักขายและบริการลูกค้าภาคใต้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายลักลอบตัดสายเคเบิลในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เหตุเกิด 29 คดี จับแล้ว 17 คดี ผู้ต้องหา 28 คน มูลค่าความเสียหายเกือบ 28 ล้านบาท

เนื่องด้วยกรณีคนร้ายลักลอบตัดสายเคเบิลในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา สตูล พัทลุง ตรัง) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 9 จากการรายงานความเสียหายจากบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถูกลักลอบตัดสายเคเบิลประจำปี 2561 ตั้งแต่มกราคม 2561-กันยายน 2561 ทำให้ทรัพย์สิน บมจ.ทีโอที เสียหายมูลค่า 36,045,921.84 บาท โดยแบ่งเป็นภาคใต้ตอนล่าง 27,747,508.00 บาท ภาคใต้ตอนบน จำนวน 8,298,413.94 บาท
 

 
นอกจากทรัพย์สินเสียหายแล้ว ยังมีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ส่วนราชการ และภาคธุรกิจของแต่ละจังหวัดขาดการติดต่อสื่อสาร และทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณภาครัฐในการสร้างทดแทนของเดิมที่ถูกขโมย

ตำรวจภูธรภาค 9 ได้วางแผนและมาตรฐานในการจับกุมคนร้ายลักตัดสายเคเบิลทันที ตั้งแต่ 8 พฤศจิกายน 2561-วันที่ 5 ธันวาคม 2561 รวมระยะเวลา 1 เดือน เหตุเกิด จำนวน 29 ครั้ง สามารถจับกุมคนร้ายได้ จำนวน 17 ครั้ง รวมผู้ต้องหา 28 คน

พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กล่าวว่า มาตรการป้องกันการลักลอบตัดสายเคเบิล หลังจากนี้ต้องขอความร่วมมือจากภาคประชาชนช่วยกันดูแลสอดส่องโครงสร้างพื้นฐานในการให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคม (สายเคเบิล) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้ชีวิตประจำและภาคเศรษฐกิจ ซึ่งการตัดสายเคเบิลไปขายนั้นมูลค่าความเสียหายทั้งทรัพย์สิน และผลกระทบต่อประชาชนนั้น เทียบไม่ได้กับมูลค่าที่คนร้ายนำไปขายที่ได้เงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
 
กำลังโหลดความคิดเห็น