สุราษฎร์ธานี - อำเภอบ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เตรียมเปิด “สวนป่าต้นชมพู่น้ำ” อายุกว่า 200 ปี ในพื้นที่ 30 ไร่ กลางเมืองบ้านตาขุน เป็นแลนด์มาร์กใหม่เชื่อมโยงท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ชุมชน 4 อำเภอ
นายธีรศักดิ์ สอนมี นายกเทศมนตรีตำบลบ้านตาขุน กล่าวว่า อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เตรียมจัดกิจกรรมโครงการวิ่งชมพู่น้ำมินิมาราธอน 2562 เพื่อเปิดตัวแลนด์มาร์กแห่งใหม่ “สวนป่าชมพู่น้ำ” ที่มีอายุกว่า 200 ปี มีต้นชมพู่น้ำมากกว่า 4,000 ต้น ในพื้นที่ 30 ไร่ กลางเมืองบ้านตาขุน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นจุดเชื่อมโยงการท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ชุมชน 4 อำเภอ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
โดยพื้นที่สวนสาธารณะชมพู่น้ำเดิมนั้น เป็นพื้นสาธารณะ จำนวน 60 ไร่ ทางโรงพยาบาลบ้านตาขุน ได้ขอใช้พื้นที่สร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ จำนวน 30 ไร่ ทางเทศบาลได้ของบสนับสนุนจากโครงการไทยเข้มแข็ง จำนวน 3 ล้านบาท มาปรับปรุงพื้นที่ ต่อมา ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากท่องเที่ยวและการกีฬาแห่งประเทศไทย อีก 9 ล้านบาท มาดำเนินการจัดทำเส้นทางปั่นจักรยาน ในปีต่อมาได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 7 ล้านบาท ในการทำสนามฟุตซอล สนามบาสเกตบอล และเส้นทางวิ่งรอบสระน้ำชมพู่น้ำ ในพื้นที่ 30 ไร่
พื้นที่นี้ถือได้ว่าเป็นปอดของคน 3 อำเภอ มีอำเภอพนม คีรีรัฐนิคม และอำเภอบ้านตาขุน ที่มาใช้บริการออกกำลังกายในใจกลางเมืองบ้านตาขุน พร้อมกันพื้นที่ป่าต้นชมพู่น้ำที่มีอายุมากกว่า 200 ปี และมีจำนวนกว่า 4,000 ต้น ในพื้นที่ประมาณ 30 ไร่ ให้เป็นป่าชุมชน ให้ประชาชน และนักเรียน นักศึกษามาเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติในสวนป่า ซึ่งเชื่อว่าต้นชมพู่น้ำในพื้นที่สวนป่ากลางเมืองบ้านตาขุนนั้นมีมากที่สุดในประเทศ นอกจากนั้น ชาวบ้านเชื่อกันว่า ดอก ผล และเปลือกของต้นชมพู่น้ำเป็นยารักษาได้หลายโรค พร้อมทั้งเป็นยาบำรุงร่างกายและเสริมสร้างสมรรถทางเพศอีกด้วย
นายกเทศมนตรีตำบลบ้านตาขุน กล่าวเพิ่มว่า ในวันที่ 6 มกราคม 2562 ทางอำเภอบ้านตาขุน พร้อมทั้งภาคีเครือข่ายใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอพนม อำเภอบ้านตาขุน อำเภอคีรีรัฐนิคม และอำเภอวิภาวดี ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม ชมพู่น้ำมินิมาราธอน เพื่อเปิดตัวสวนสาธารณะสวนป่าชมพู่น้ำ ให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชนใน 4 อำเภอ เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่จะเดินทางเข้าในพื้นที่ เนื่องจากทั้ง 4 อำเภอมีพื้นที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ทั้งธรรมชาติ และวีถีชีวิตชุมชน เช่น อ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ที่รับสมญานามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย อุทยานแห่งชาติเขาสก อุทยานแห่งชาติคลองพนม อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง ที่มีสัตว์ป่าชุกชุม พร้อมทั้งแหล่งท่องเที่ยวชุมชน นอกจากนั้น ยังมีอาหารพื้นบ้านและผลไม้ที่มีชื่อเสียง ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาจากทุกมุมโลกมาเยี่ยมชม