ยะลา - ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังใหม่ สังกัด อบต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา สอนการประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติให้นักเรียน และผู้ปกครอง เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับนักเรียน และปลูกฝังให้เด็กเล็งเห็นถึงประเพณีอันดีงามของไทย
วันนี้ (22 พ.ย.) ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังใหม่ สังกัด อบต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา คุณครูขนิษฐา แสนทอง ครูผู้ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังใหม่ พร้อมด้วยคณะครูพี่เลี้ยง และผู้ปกครองเด็กๆ ต่างร่วมมือกันทำกระทงด้วยใบตอง โดยใช้วัสดุธรรมชาติที่ช่วยย่อยสลายง่าย และไม่เป็นขยะต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสอนให้เด็กเล็กอายุ 2-4 ปี ช่วยกันประดิษฐ์กระทงขึ้นเอง เพื่อเตรียมกระทงที่พร้อมจะนำไปลอยกับพ่อแม่ของเด็กๆ ซึ่งทางผู้ปกครองได้ช่วยบุตรหลานเตรียมอุปกรณ์กันมาจากบ้าน เช่น ต้นกล้วย ใบตอง ใบเตย ดอกไม้สดที่หาได้ตามบ้านนานาชนิด
นายอารี หนูชูสุข ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลอัยเยอร์เวง เปิดเผยว่า คณะครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังใหม่ สังกัด อบต.อัยเยอร์เวง ได้สอนให้เด็กนักเรียน และผู้ปกครองร่วมกันฝึกหัดประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ต้นกล้วย ใบตอง ดอกไม้ หัวปลี เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้วิธีการทำกระทง จากภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำง่ายๆ แล้วตกแต่งด้วยดอกไม้ นักเรียนก็จะได้กระทงสวยงามจากฝีมือตนเองไว้ใช้ในวันลอยกระทง เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอันดีของไทย และเป็นการใช้วัสดุเพื่อลดภาวะโลกร้อน และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับนักเรียนด้วย
โดยทางคุณครูได้สอนให้เด็กนักเรียนได้รู้จักการทำกระทงร่วมกัน และใช้เวลาว่างช่วงพักเรียน ประกอบพิธีลอยกระทงในสระน้ำชุมชนกลางหมู่บ้าน ซึ่งมีคณะคุณครู และผู้ปกครองคอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด โดยหนูน้อยเด็กเล็กแต่ละคนได้ใช้จินตนาการของตัวเองทำกระทงที่แตกต่างกันไป อีกทั้งยังเป็นการช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อมือ และเพื่อเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา เทพผู้รักษาสายน้ำที่ให้เราได้ดื่มกิน ชำระล้างสิ่งสกปรกตามความเชื่อโบราณ ส่วนบรรยากาศที่คณะครูได้นำพาไปลอยกระทงจริงที่บริเวณริมน้ำเป็นไปอย่างสนุกสนานตื่นเต้นของเหล่าหนูน้อยแต่ละคน ส่วนในช่วงค่ำ ผู้ปกครองก็จะพาบุตรหลานของตนเองไปลอยกระทงอีกครั้งหนึ่งตามสถานที่ที่ได้จัดเอาไว้ให้ใกล้บ้าน
ด้าน คุณครูขนิษฐา แสนทอง ครูผู้ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังใหม่ เปิดเผยว่า ในการนำเด็กภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านวังใหม่ มาทำกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อให้เด็กที่อายุยังน้อยได้มีส่วนร่วมตั้งแต่ยังเยาว์วัย เป็นการปลูกฝังการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่โบราณ นอกจากนี้ ยังฝึกการพัฒนาทางด้านสติปัญญาของเด็กได้อีกด้วย ทำให้เด็กได้เรียนรู้การทำอะไรด้วยตนเอง และช่วงวัยเหล่านี้เป็นช่วงที่เด็กจดจำได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะแก่การฝึกฝนทักษะในการทำกิจกรรมอย่างอื่นไปด้วย อีกทั้งเป็นการปลูกฝังเด็กตั้งแต่ยังเล็กให้ได้เห็นถึงประเพณีอันดีงามของไทย
