กระบี่ - เปิดใจ “ไพบูลย์ เกกินะ” คนไม่เอา “เทพเทือก” ระบุทุกคำพูดออกจากความรู้สึก รับไม่ได้กับการกระทำของนายสุเทพ ที่พูดเสมอจะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่สิ่งที่ทำกลับสวนทางกับสิ่งที่พูดไว้
จากกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมด้วยแกนนำผู้ก่อตั้งพรรค เช่น นายอุทัย ยอดมณี นายสำราญ รอดเพชร ได้เริ่มกิจกรรมเดินคารวะแผ่นดิน พบปะพูดคุยพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนที่บริเวณตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ โดยในระหว่างที่นายสุเทพ กำลังเดินแจกใบสมัครสมาชิกพรรค และถ่ายรูปกับแม่ค้าที่บริเวณโซนจำหน่ายเสื้อผ้าภายในอาคารตลาดมาราชนั้น ได้มีชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 50 ปี ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ เกกินะ
ได้เข้ามาถามนายสุเทพ ว่า “ใบอะไรที่มาเดินแจกอยู่ นายสุเทพก็ตอบว่าใบสมัครเป็นสมาชิกพรรค ชายคนดังกล่าวก็บอกว่า “ไม่เอา ผมไม่เอาไอ้เทือก” นายสุเทพก็บอกว่าไม่เอาก็ไม่เป็นไรธรรมดา เป็นสิทธิของประชาชน แต่ชายคนดังกล่าวได้พูดขึ้นว่า “ไปให้พ้นๆ” ทำให้นายสุเทพ ต้องหันกลับมาทันที พร้อมถาม “คุณอยู่ไหน ไอ้บ่าว” ดีได้รู้จักกันไว้ ซึ่งทางการ์ดก็ได้เข้ามาขวางขายคนดังกล่าวออกไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับ นายไพบูลย์ เกกินะ ทราบว่า จากกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กกปส.พร้อมคณะได้เดินทางมาแจกใบสมัครสมาชิกพรรคการเมืองหนึ่ง เพื่อหาสมาชิกเข้าสังกัดพรรค ที่บริเวณตลาดสดมหาราช เขตเทศบาลเมืองกระบี่ และได้เจอนายสุเทพ ด้วยความบังเอิญ โดยขณะที่ตนเองได้ทำธุระภายในตลาดสดเสร็จกำลังจะกลับเข้าบ้าน แต่บังเอิญได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดว่ามา “ทำไหร” ก็หันไปเห็น นายสุเทพ พร้อมกับบอกผู้หญิงคนนั้นว่ามาแจกใบสมัครสมาชิกพรรคการเมือง
และเมื่อได้ยินคำว่า “ใบสมัครสมาชิกพรรคการเมือง” จากปากของนายสุเทพ ก็ทำให้รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาที จึงได้เดินตรงเข้าไปหานายสุเทพ เพื่อจะบอกความในใจ ให้นายสุเทพ ฟังว่า พอได้แล้วเรื่องการเมือง เพราะที่ผ่านมานายสุเทพ เองก็ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะไม่ยุ่งการเมืองอีก แต่สิ่งที่นายสุเทพ ทำมันสวนกับคำพูด จึงทำให้มีอารมณ์เมื่อเห็นหน้า และไม่เคยคิดวางแผนมาก่อน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายสุเทพ จะมา จ.กระบี่ โดยความที่ไม่ได้คิดอะไร จึงพูดออกไปตรงๆ ไม่ได้เกรงกลัวอะไร หรือกลัวว่าจะมีใครทำร้ายตัวเอง ทุกคำพูดออกมาจากความรู้สึกของตัวเองจริงๆ ที่มีอยู่ในใจมานานร่วม 5 ปี
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้าที่นายสุเทพ จะเริ่มปฏิบัติการเป่านกหวีด ก็ไม่เคยรู้สึกรังเกียจอะไร แต่พอนายสุเทพ เริ่มเป่านกหวีด ความรู้สึกที่ตามมาและคิดอยู่ในใจตลอดว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับบ้านเมืองอย่างแน่นอน และก็เป็นจริงตามที่ตนคิดไว้ หลังจากนั้น ก็เริ่มไม่ชอบนายสุเทพ และเริ่มเห็นเศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่มาเรื่อยๆ แทนที่จะดีขึ้น ก็เลยมีความรู้สึกไม่ชอบนายสุเทพ มากขึ้นตั้งแต่นั้นมา ส่วนที่เรียกนายสุเทพ ว่า ไอ้เทือก ก็มาจากใจที่มีความไม่ชอบอยู่แล้ว จากคำพูดที่ไม่ตรง ของนายสุเทพ เอง
สำหรับเพื่อนๆ และญาติๆ หลังจากที่ทราบว่าตนพูดกับสุเทพ แบบนั้นบางคนก็รู้สึกเป็นห่วง แต่สำหรับตนแล้ว รู้สึกเฉยๆ เพราะตนเพียงอยากแสดงความรู้สึกออกไปให้นายสุเทพ รับรู้เท่านั้น ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ได้คิดที่จะทำให้นายสุเทพ เสียหน้า หรืออะไรทั้งสิ้น และยืนยันว่า ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าและมีใครจ้างให้ทำแต่อย่างใด ที่ทำลงไปมาจากความรู้สึกทั้งสิ้น และหากว่าพบนายสุเทพ อีกครั้ง ก็อยากจะขอโทษที่พูดออกไปแบบนั้นด้วยความมีอารมณ์
นายไพบูลย์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับการกระทำทุกอย่างในวันนั้น ตนไม่ได้พาดพิง หรือกล่าวว่าร้ายอะไรถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล เลย และไม่เคยนึกเกลียดรัฐบาล แต่ความรู้สึกวันนั้น เป็นความรู้สึกระหว่างตนกับนายสุเทพ จริงๆ
สำหรับนายไพบูลย์ เคยดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ 2 สมัย ก่อนที่จะสอบตก และได้หันมาลงสมัครเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบัน ทำหน้าที่เป็นสมาชิก อบต.ไสไทย
จากกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมด้วยแกนนำผู้ก่อตั้งพรรค เช่น นายอุทัย ยอดมณี นายสำราญ รอดเพชร ได้เริ่มกิจกรรมเดินคารวะแผ่นดิน พบปะพูดคุยพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนที่บริเวณตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ โดยในระหว่างที่นายสุเทพ กำลังเดินแจกใบสมัครสมาชิกพรรค และถ่ายรูปกับแม่ค้าที่บริเวณโซนจำหน่ายเสื้อผ้าภายในอาคารตลาดมาราชนั้น ได้มีชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 50 ปี ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ เกกินะ
ได้เข้ามาถามนายสุเทพ ว่า “ใบอะไรที่มาเดินแจกอยู่ นายสุเทพก็ตอบว่าใบสมัครเป็นสมาชิกพรรค ชายคนดังกล่าวก็บอกว่า “ไม่เอา ผมไม่เอาไอ้เทือก” นายสุเทพก็บอกว่าไม่เอาก็ไม่เป็นไรธรรมดา เป็นสิทธิของประชาชน แต่ชายคนดังกล่าวได้พูดขึ้นว่า “ไปให้พ้นๆ” ทำให้นายสุเทพ ต้องหันกลับมาทันที พร้อมถาม “คุณอยู่ไหน ไอ้บ่าว” ดีได้รู้จักกันไว้ ซึ่งทางการ์ดก็ได้เข้ามาขวางขายคนดังกล่าวออกไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับ นายไพบูลย์ เกกินะ ทราบว่า จากกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กกปส.พร้อมคณะได้เดินทางมาแจกใบสมัครสมาชิกพรรคการเมืองหนึ่ง เพื่อหาสมาชิกเข้าสังกัดพรรค ที่บริเวณตลาดสดมหาราช เขตเทศบาลเมืองกระบี่ และได้เจอนายสุเทพ ด้วยความบังเอิญ โดยขณะที่ตนเองได้ทำธุระภายในตลาดสดเสร็จกำลังจะกลับเข้าบ้าน แต่บังเอิญได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดว่ามา “ทำไหร” ก็หันไปเห็น นายสุเทพ พร้อมกับบอกผู้หญิงคนนั้นว่ามาแจกใบสมัครสมาชิกพรรคการเมือง
และเมื่อได้ยินคำว่า “ใบสมัครสมาชิกพรรคการเมือง” จากปากของนายสุเทพ ก็ทำให้รู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาที จึงได้เดินตรงเข้าไปหานายสุเทพ เพื่อจะบอกความในใจ ให้นายสุเทพ ฟังว่า พอได้แล้วเรื่องการเมือง เพราะที่ผ่านมานายสุเทพ เองก็ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะไม่ยุ่งการเมืองอีก แต่สิ่งที่นายสุเทพ ทำมันสวนกับคำพูด จึงทำให้มีอารมณ์เมื่อเห็นหน้า และไม่เคยคิดวางแผนมาก่อน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายสุเทพ จะมา จ.กระบี่ โดยความที่ไม่ได้คิดอะไร จึงพูดออกไปตรงๆ ไม่ได้เกรงกลัวอะไร หรือกลัวว่าจะมีใครทำร้ายตัวเอง ทุกคำพูดออกมาจากความรู้สึกของตัวเองจริงๆ ที่มีอยู่ในใจมานานร่วม 5 ปี
นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้าที่นายสุเทพ จะเริ่มปฏิบัติการเป่านกหวีด ก็ไม่เคยรู้สึกรังเกียจอะไร แต่พอนายสุเทพ เริ่มเป่านกหวีด ความรู้สึกที่ตามมาและคิดอยู่ในใจตลอดว่าจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับบ้านเมืองอย่างแน่นอน และก็เป็นจริงตามที่ตนคิดไว้ หลังจากนั้น ก็เริ่มไม่ชอบนายสุเทพ และเริ่มเห็นเศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่มาเรื่อยๆ แทนที่จะดีขึ้น ก็เลยมีความรู้สึกไม่ชอบนายสุเทพ มากขึ้นตั้งแต่นั้นมา ส่วนที่เรียกนายสุเทพ ว่า ไอ้เทือก ก็มาจากใจที่มีความไม่ชอบอยู่แล้ว จากคำพูดที่ไม่ตรง ของนายสุเทพ เอง
สำหรับเพื่อนๆ และญาติๆ หลังจากที่ทราบว่าตนพูดกับสุเทพ แบบนั้นบางคนก็รู้สึกเป็นห่วง แต่สำหรับตนแล้ว รู้สึกเฉยๆ เพราะตนเพียงอยากแสดงความรู้สึกออกไปให้นายสุเทพ รับรู้เท่านั้น ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ได้คิดที่จะทำให้นายสุเทพ เสียหน้า หรืออะไรทั้งสิ้น และยืนยันว่า ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าและมีใครจ้างให้ทำแต่อย่างใด ที่ทำลงไปมาจากความรู้สึกทั้งสิ้น และหากว่าพบนายสุเทพ อีกครั้ง ก็อยากจะขอโทษที่พูดออกไปแบบนั้นด้วยความมีอารมณ์
นายไพบูลย์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับการกระทำทุกอย่างในวันนั้น ตนไม่ได้พาดพิง หรือกล่าวว่าร้ายอะไรถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล เลย และไม่เคยนึกเกลียดรัฐบาล แต่ความรู้สึกวันนั้น เป็นความรู้สึกระหว่างตนกับนายสุเทพ จริงๆ
สำหรับนายไพบูลย์ เคยดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ 2 สมัย ก่อนที่จะสอบตก และได้หันมาลงสมัครเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งปัจจุบัน ทำหน้าที่เป็นสมาชิก อบต.ไสไทย
