สตูล - ชาวมานิหนีป่าพาลูก 5 คน เข้าเรียน ร.ร.ตชด.บ้านส้านแดง ในโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระเทพฯ หวังมีที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย พร้อมได้รับการศึกษา และแม่จะได้รับการรักษาแผลไฟคลอก
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่โรงเรียน ตชด.บ้านส้านแดง (โรงเรียนในโครงการพระราชดำริ สมเด็จพระเทพฯ) หมู่ที่ 11 บ้านปาล์มไทย ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล นางสายฝน ศรีมะนัง อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นชาวมานิ ชนกลุ่มน้อยที่ยังหลงเหลืออยู่ตามแนวเทือกเขาบรรทัด นำลูกๆ 5 คนจากทั้งหมด 7 คน มาฝากเรียนหนังสือกับโรงเรียน ตชด.บ้านส้านแดง แห่งนี้ โดยหวังว่าลูกๆ นอกจากจะได้เล่าเรียนหนังสือแล้ว ลูกๆ ยังจะได้กินอิ่ม ส่วนตนก็มีโอกาสได้เข้ารับการรักษาแผลที่เกิดจากไฟคลอกเมื่อวัยเยาว์ จนมีหนังคล้ายปีกค้างคาว รวมทั้งนิ้วให้มีอาการปกติหรือดีกว่าเดิม
โดยวันนี้ทางโรงเรียนได้มอบชุดนักเรียนใหม่ให้ลูกๆ ทั้ง 5 คนของนางสายฝน ชาวมานิสวมใส่พร้อมอุปกรณ์การเรียนเบื้องต้น และขนมให้เด็กๆ ได้ทานกันอย่างเอร็ดอร่อย สร้างบรรยากาศความคุ้นเคย สร้างความสุขให้แก่ครอบครัว “ศรีธารโต” (นามสกุลสามี) เป็นอย่างมาก หลังจากนี้ทางโรงเรียนเตรียมหาบ้านพักภายในโรงเรียนให้อยู่อาศัย เพื่อไม่ให้เด็กๆ ต้องเดินทางไกลมาโรงเรียน และเตรียมหางานให้ นางสายฝน ทำเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระสามีที่ต้องออกไปหาของป่ามาขาย
ด.ญ.สายรุ้ง อายุ 10 ปี และ ด.ญ.สายฟ้า อายุ 13 ปี โชว์การเขียนชื่อตัวเอง พร้อมเลขเป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ซึ่งน้องทั้ง 2 คน เคยเรียนชั้น ป.1 มาก่อน ก่อนจะออกจากโรงเรียนเก่าเพื่อย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ ตามครอบครัว รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาเรียนอีกครั้ง ก็ไม่รู้เช่นกันว่าพ่อแม่จะย้ายไปที่ไหนอีกหรือไม่
ด.ต.หญิงวรรณดี หนูดำ ครูโรงเรียน ตชด.บ้านส้านแดง หรือครูสาว ที่หลายคนรู้จัก โดยเฉพาะครอบครัวชาวมานิกลุ่มนี้ที่ให้ความไว้วางใจ และให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ได้ชักชวนให้นำลูกมาอยู่ที่โรงเรียน โดยครูสาวเล่าว่า นาทีแรกที่เห็นรู้สึกสงสาร และให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด จนมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน จึงได้ชักชวนให้นำลูกเข้ามาเรียน เพราะเห็นว่าโรงเรียนแห่งนี้จะให้การศึกษา และให้ที่กินให้แก่ครอบครัวของพวกเขาได้ เขาจึงยินยอมเข้ามาส่งลูกให้เรียนหนังสือกับทางโรงเรียน โดยได้มีพันธะสัญญาใจกันแล้วว่า หากจะไม่อยู่ที่นี่ หรือไปที่ไหนให้บอกกันก่อน ซึ่งพวกเขาก็ยอมรับในสัญญาใจครั้งนี้
ด้าน ร.ต.อ.อภินันท์ บิลสุริยะ ครูใหญ่โรงเรียน ตชด.บ้านส้านแดง เล่าว่า ตชด.436 สตูล ซึ่งรับผิดชอบดูแลโรงเรียน ตชด.บ้านส้านแดง หลังรับเด็กๆ ชาวมานิทั้ง 5 คน เข้ามาเรียนที่นี่ เบื้องต้นจะให้เด็กๆ ได้ปรับตัวก่อนเพื่อให้เข้ากับเพื่อนๆ ได้ โดยต้องปรับพื้นฐานความรู้ในชั้น ป.1 ส่วนบาดแผลที่แขนขวาของผู้เป็นแม่ที่เกิดไฟไหม้คลอกแขนจนพิการ กลายเป็นหนังค้างคาวนั้น จะประสานให้เป็นคนไข้ในราชานุเคราะห์ขององค์สมเด็จพระเทพฯ เพื่อทำการผ่าตัดให้แขนกลับมาใช้การได้ ซึ่งเจ้าตัวก็ยินดีให้มีการรักษาเพราะไม่ได้พิการมาตั้งแต่กำเนิด โดยทางโรงเรียนกำลังหาทางให้เด็กๆ และครอบครัวมาอยู่ใกล้กับโรงเรียนโดยหาที่อยู่อาศัยให้ และจะหางานให้ทำเพื่อแบ่งเบาภาระสามีที่หาของป่าขาย เชื่อว่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ขณะที่ นายทวี แก้วโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 บ้านปาล์มไทย เล่าว่า ปกติชนกลุ่มน้อยมานิ จะข้ามไปมาระหว่างรอยต่อเทือกเขาบรรทัด และเขาหลวง แถวนี้มีไม่มากนักที่จะมีชาวมานิมาอาศัยอยู่ ในรูปรับจ้างเฝ้าสวน และหาของป่าเหมือนอย่างครอบครัวนี้ ซึ่งทางฝ่ายปกครองก็จะเข้ามาช่วยเหลือโรงเรียน และให้ความดูแลอีกทางเพื่อให้ครอบครัวมานินี้อยู่กับโรงเรียนให้ได้ โดยให้ที่อยู่ ที่กิน และหางานให้ทำ