ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ระทึก! เพลิงไหม้เรือยอชต์หรูขณะจอดกลางทะเลที่ป่าตอง โชคดีเจ้าของหนีออกมาได้ทัน ขณะที่เรือเสียหายวอดทั้งลำ ส่วนสาเหตุเกิดจากเทน้ำมันไปโดนเปลวไฟ ขณะทำอาหาร เนื่องจากคลื่นซัดเรือโคลง
เกิดเหตุระทึกขึ้นในทะเลหาดป่าตอง เมื่ออยู่ๆ ไฟได้ลุกไหม้เรือยอชต์ที่จอดลอยลำอยู่หน้าหาดป่าตอง โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.20 น. คืนที่ผ่านมา (14 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือใบที่จอดลอยลำกลางทะเลหน้าชายหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังได้รับแจ้ง พ.ต.ท.ปฏิวัติ ยอดขวัญ สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง พ.ต.ท.เจษฎา แสงสุรีย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รอง ผกก.สส.สภ.ป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองป่าตอง เดินทางไประงับเพลิงที่กำลังลุกไหม้
ที่เกิดเหตุอยู่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้สะพานคอรัลบีช ถนนทวีวงษ์ ห่างจากชายหาดป่าตองไปประมาณ 500 เมตร เห็นเพลิงกำลัฝลุกไหม้เรือยอชต์ที่จอดลอยลำอยู่กลางทะเลอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงนำเรือสปีดโบ๊ต ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัด โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบลง และพบว่าตัวเรือได้รับความเสียหายเกือบทั้งลำ
จากการสอบสวน ทราบว่า เรือลำเกิดเหตุชื่อเรือ โสรยา เป็นเรือประเภท CATAMARAN (เรือใบ 2 ท้อง) เจ้าของเรือลำดังกล่าว คือ นายไบรอัน ดีเรค (BRIAN DEREK) อายุ 63 ปี สัญชาติออสเตรเลีย พักอาศัยอยู่ในเรือ
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ นายไบรอัน กำลังทำอาหารอยู่ภายในเรือ ด้วยเตาแก๊ส และขณะที่กำลังเทน้ำมันในกระทะ คลื่นได้ซัดเข้าใส่เรือจนโคลง น้ำมันกระเด็นออกจากกระทะไปโดนเปลวไฟ ทำให้ไฟลุกติดลามไปยังเคาน์เตอร์ครัว รวมทั้งลามไปติดยังพื้นเรือ
เบื้องต้น นายไบรอัน พยายามนำผ้าห่มมาดับไฟ แต่ไม่สามารถดับไฟได้ จึงรีบวิ่งหนีตายออกจากห้องครัว ร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง โชคดีมีพลเมืองดีนำเรือมารับนายไบรอัน กลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย และแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนายไบรอัน ไว้แล้ว ในเบื้องต้นได้ร่วมกับฝ่ายปกครองจัดสถานที่พักให้แก่นายไบรอัน โดยได้แจ้งประสานกับทางสถานทูตออสเตรเลีย เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตรวจสอบเรือเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แน่ชัดต่อไป
เกิดเหตุระทึกขึ้นในทะเลหาดป่าตอง เมื่ออยู่ๆ ไฟได้ลุกไหม้เรือยอชต์ที่จอดลอยลำอยู่หน้าหาดป่าตอง โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.20 น. คืนที่ผ่านมา (14 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือใบที่จอดลอยลำกลางทะเลหน้าชายหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังได้รับแจ้ง พ.ต.ท.ปฏิวัติ ยอดขวัญ สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง พ.ต.ท.เจษฎา แสงสุรีย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง พ.ต.ท.นิกร ชูทอง รอง ผกก.สส.สภ.ป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลเมืองป่าตอง เดินทางไประงับเพลิงที่กำลังลุกไหม้
ที่เกิดเหตุอยู่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้สะพานคอรัลบีช ถนนทวีวงษ์ ห่างจากชายหาดป่าตองไปประมาณ 500 เมตร เห็นเพลิงกำลัฝลุกไหม้เรือยอชต์ที่จอดลอยลำอยู่กลางทะเลอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงนำเรือสปีดโบ๊ต ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัด โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบลง และพบว่าตัวเรือได้รับความเสียหายเกือบทั้งลำ
จากการสอบสวน ทราบว่า เรือลำเกิดเหตุชื่อเรือ โสรยา เป็นเรือประเภท CATAMARAN (เรือใบ 2 ท้อง) เจ้าของเรือลำดังกล่าว คือ นายไบรอัน ดีเรค (BRIAN DEREK) อายุ 63 ปี สัญชาติออสเตรเลีย พักอาศัยอยู่ในเรือ
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ นายไบรอัน กำลังทำอาหารอยู่ภายในเรือ ด้วยเตาแก๊ส และขณะที่กำลังเทน้ำมันในกระทะ คลื่นได้ซัดเข้าใส่เรือจนโคลง น้ำมันกระเด็นออกจากกระทะไปโดนเปลวไฟ ทำให้ไฟลุกติดลามไปยังเคาน์เตอร์ครัว รวมทั้งลามไปติดยังพื้นเรือ
เบื้องต้น นายไบรอัน พยายามนำผ้าห่มมาดับไฟ แต่ไม่สามารถดับไฟได้ จึงรีบวิ่งหนีตายออกจากห้องครัว ร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียง โชคดีมีพลเมืองดีนำเรือมารับนายไบรอัน กลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย และแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนายไบรอัน ไว้แล้ว ในเบื้องต้นได้ร่วมกับฝ่ายปกครองจัดสถานที่พักให้แก่นายไบรอัน โดยได้แจ้งประสานกับทางสถานทูตออสเตรเลีย เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ตรวจสอบเรือเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แน่ชัดต่อไป
