กระบี่ - แกนนำชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ คัดค้านปิดโรงไฟฟ้ากระบี่ เตรียมชุมนุมประท้วงรัฐบาล หลังกระทรวงพลังงานสั่งย้ายอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยน้ำมันปาล์มไปที่บางปะกง
วันนี้ (14 พ.ย.) นายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานชมรมคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีที่ทางรัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน ได้สั่งย้ายอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยน้ำมันปาล์ม ไปยังโรงฟ้าที่บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา รัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหาให้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้นำน้ำมันในสต๊อกมาผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ เพื่อระบายสต๊อกน้ำมันกว่า 3 แสนตัน แก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ตนมองว่าเป็นการดึงเวลา เพราะต้องใช้เวลาในการปรับปรุงไม่ต่ำกว่า 2 เดือนจึงจะเดินเครื่องได้ และยังมีต้นทุนเพิ่มเพราะมีค่าขนส่งน้ำมัน
นายชโยดม เปิดเผยอีกว่า นอกจากทางเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน นำผลผลิตปาล์มมาเผาต่อเนื่อง เพื่อลดปริมาณน้ำมันปาล์ม และในวันนี้ทางกลุ่มผู้ปลูกปาล์มน้ำมันจะร่วมกับชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านใน อ.เหนือคลอง จะรวมตัวกันปิดถนนหน้าโรงไฟฟ้า เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าออกได้ เพื่อประท้วงรัฐบาลให้นำน้ำมันมาผลิตกระแสไฟฟ้าตามข้อเรียกร้อง คาดว่ามีผู้ร่วมชุมนุมไม่ต่ำกว่า 300 คน
ด้าน นายวิมลไชย มงคล หัวหน้าโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ โดยกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนให้การ (หก-ศก) กล่าวว่า กรณีที่มีการแชร์ภาพภายในโรงไฟฟ้ากระบี่และรถบรรทุกขนย้ายเครื่องจักรสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้านั้น ยืนยันว่า เป็นการนำอุปกรณ์บางชิ้น ซึ่งประกอบด้วย เครื่องปั๊ม และบูทเตอร์สำหรับอุ่นความร้อน จากโรงไฟฟ้ากระบี่ไปยังโรงไฟฟ้าบางปะกง เพื่อนำไปเผาน้ำมันปาล์มผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็น 1 ในนโยบายลดสต๊อกน้ำมันปาล์ม 1.6 แสนตัน โดยอุปกรณ์ชุดนี้เดิมโรงไฟฟ้ากระบี่ได้นำน้ำมันปาล์มมาผลิตกระแสไฟฟ้า เดินเครื่องเผาได้ 18 ตันต่อวัน ใช้งบประมาณ 52 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนำอุปกรณ์บางชิ้นไปให้โรงไฟฟ้าบางปะกง โรงไฟฟ้ากระบี่ก็ไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากน้ำมันปาล์มได้ แต่ยังเดินเครื่องผลิตจากน้ำมันเตาได้
ขณะที่ นายฐานิส เอ่งฉ้วน ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.เหนือคลอง กล่าวว่า กรณีที่มีการประกาศปิดโรงไฟฟ้าของชาวสวนปาล์มน้ำมัน ทางชมรมยังไม่มีมติเข้าร่วมชุมนุม เพราะเกรงว่าจะกระทบภาพลักษณ์ของจังหวัด ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ ทางชมรมจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายอำเภอ เพื่อส่งไปยังรัฐบาลขอให้นำน้ำมันปาล์มไปผลิตฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ เพื่อพยุงราคาผลผลิต เนื่องจากก่อนหน้านี้ โรงไฟฟ้ากระบี่สามรถผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยน้ำมันปาล์มได้ แต่มีการย้ายอุปกรณ์ไปที่บางปะกงทั้งที่ยังไม่มีความพร้อม
