สุราษฎร์ธานี - สาวขับเก๋งลากสุนัขไปบนถนนในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี กลับให้การคำ อ้างไม่เห็นสุนัขถูกนำผูกไว้กับรถ ตำรวจแจ้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ปศุสัตว์เร่งพิสูจน์ลากทั้งเป็นหรือตายก่อน
สำหรับความคืบหน้าสาวขับรถเก๋งขับลากสุนัขไปบนบนถนนเส้นทางเขื่อนรัชชประภา ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 10 กิโลเมตร เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา และมีคนถ่ายถ่ายคลิปไว้นั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ตาขุน ได้เดินทางไปตรวจสอบ บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 2 ต.พะแสง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเชิญตัว นางน้ำฝน สุขอุ่น อายุ 37 ปี เจ้าของรถคันดังกล่าวมาทำการสอบปากคำ
จากการสอบปากคำ นางน้ำฝน ให้การว่า สุนัขตัวดังกล่าวป่วยตายจึงจะนำไปฝัง แต่สาเหตุที่ไม่นำขึ้นรถเนื่องจากในรถมีลูกเล็กวัย 2 ขวบอยู่ด้วย จึงใช้เชือกผูกลากไปบนถนน อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของเจ้าของรถ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา นางน้ำฝน พร้อมสามี ได้เข้าพบกับ ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ศรีสมัย รองสารวัตรสอบสวน โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ในเบื้องต้นให้การว่า ขณะที่เดินมาที่รถเก๋งได้เห็นสุนัขนอนแน่นิ่งอยู่บริเวณล้อหลังของรถด้านขวา แต่ไม่ได้สังเกตว่า สุนัขได้ผูกติดไว้กับท้ายรถจึงขับออกไปรับบุตรสาวที่โรงเรียน นางน้ำฝน ยังให้การอีกว่า ส่วนที่ให้การตอนแรกว่า สุนัขตายก่อนแล้วจะนำไปฝังนั้นเนื่องจากอยู่ในภาวะตกใจไม่คิดว่าจะเป็นข่าวใหญ่โต ซึ่งสุนัขตัวที่เลี้ยงไว้ไม่สบายก็ดูแลไม่ให้ตากแดดฝน
ในเบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งให้ทราบข้อกล่าวหา กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร ตามมาตร 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในชั้นสอบสวน นางน้ำฝน ให้การปฏิเสธ และปล่อยตัวชั่วคราว
ขณะที่ นายเกียติศักดิ์ หัวหมื่น นายสัตวแพทย์ชำนาญการ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมปศุสัตว์ อ.บ้านตาขุน ได้เข้าพบ ร.ต.อ.ธีรพงศ์ เพื่อประสานตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะขอนำซากสุนัขส่งไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคใต้ตอนบน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของสุนัขตัวดังกล่าว
สำหรับความคืบหน้าสาวขับรถเก๋งขับลากสุนัขไปบนบนถนนเส้นทางเขื่อนรัชชประภา ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 10 กิโลเมตร เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา และมีคนถ่ายถ่ายคลิปไว้นั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ตาขุน ได้เดินทางไปตรวจสอบ บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 2 ต.พะแสง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเชิญตัว นางน้ำฝน สุขอุ่น อายุ 37 ปี เจ้าของรถคันดังกล่าวมาทำการสอบปากคำ
จากการสอบปากคำ นางน้ำฝน ให้การว่า สุนัขตัวดังกล่าวป่วยตายจึงจะนำไปฝัง แต่สาเหตุที่ไม่นำขึ้นรถเนื่องจากในรถมีลูกเล็กวัย 2 ขวบอยู่ด้วย จึงใช้เชือกผูกลากไปบนถนน อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของเจ้าของรถ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา นางน้ำฝน พร้อมสามี ได้เข้าพบกับ ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ศรีสมัย รองสารวัตรสอบสวน โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ในเบื้องต้นให้การว่า ขณะที่เดินมาที่รถเก๋งได้เห็นสุนัขนอนแน่นิ่งอยู่บริเวณล้อหลังของรถด้านขวา แต่ไม่ได้สังเกตว่า สุนัขได้ผูกติดไว้กับท้ายรถจึงขับออกไปรับบุตรสาวที่โรงเรียน นางน้ำฝน ยังให้การอีกว่า ส่วนที่ให้การตอนแรกว่า สุนัขตายก่อนแล้วจะนำไปฝังนั้นเนื่องจากอยู่ในภาวะตกใจไม่คิดว่าจะเป็นข่าวใหญ่โต ซึ่งสุนัขตัวที่เลี้ยงไว้ไม่สบายก็ดูแลไม่ให้ตากแดดฝน
ในเบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งให้ทราบข้อกล่าวหา กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร ตามมาตร 20 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในชั้นสอบสวน นางน้ำฝน ให้การปฏิเสธ และปล่อยตัวชั่วคราว
ขณะที่ นายเกียติศักดิ์ หัวหมื่น นายสัตวแพทย์ชำนาญการ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมปศุสัตว์ อ.บ้านตาขุน ได้เข้าพบ ร.ต.อ.ธีรพงศ์ เพื่อประสานตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะขอนำซากสุนัขส่งไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคใต้ตอนบน เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของสุนัขตัวดังกล่าว