xs
xsm
sm
md
lg

“โรงไฟฟ้าขยะหาดใหญ่” พ่นพิษข้ามอำเภอสู่ “โรงแยกขยะ” ชาวคลองหอยโข่งจ่อลุกฮือไล่ครั้งใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาว อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เตรียมลุกฮือไล่โรงคัดแยกขยะพ้นพื้นที่ ชี้เป็นมลพิษต่อเนื่องมาจาก “โรงไฟฟ้าขยะ” ของบริษัทจีเดค ที่ทำโครงการร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่ เผยข้อมูลจากมูลนิธิบูรณะนิเวศ ระบุชัด มากมลพิษ ไม่คุ้มทุน เทคโนโลยีไม่รับ สุดท้ายจะกลายเป็น “ขยะโรงไฟฟ้า"

นายจรัล ช่วยเอียด รองประธานประชาคมรักษ์ป่าต้นน้ำผาดำ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เปิดเผย “MGR Online ภาคใต้” จากการที่โรงไฟฟ้าขยะของบริษัท จีเดค จำกัด ที่ทำโครงการร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่ได้มีการออกแบบพื้นที่รองรับการคัดแยกขยะไว้ ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมามากมาย และขณะนี้แก้ปัญหาด้วยไปจัดตั้งโรงคัดแยกขยะไว้ในพื้นที่ ต.คลองหอยโข่ง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ขณะนี้เริ่มปรากฏผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้วเช่นกัน
 

 
“ก่อนหน้านี้ ชาวคลองหอยโข่งไม่มีท่าทีคัดค้านโรงคัดแยกขยะ แต่หลังจากมีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงในคลองธรรมชาติที่เป็นต้นน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาให้แก่ จ.สงขลา เวลานี้ชาวบ้านคุยกันแล้วว่าจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ เพื่อให้ปิดโรงคัดแยกขยะในเร็วๆ นี้” นายจรัล กล่าวและว่า เป็นไปได้ที่ชาว อ.คลองหอยโขง จะผนึกกับชาว อ.หาดใหญ่ ที่เดือดร้อนจากปัญหาโรงขยะของบริษัทจีเดคกับเทศบาลนครหาดใหญ่เข้าด้วยกัน

จริงๆ แล้วปัญหามลพิษโรงคัดแยกขยะแห่งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขาดประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าขยะ ส่งผลให้มีการแก้ไขปัญหาด้วยการขยายพื้นที่ไปจัดตั้งโรงคัดแยกขยะตามนโยบายของรัฐบาล คสช. เพื่อนำขยะบางส่วนผลิตเป็นเชื้อเพลิง RDF ป้อนให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงโรงไฟฟ้าขยะของบริษัทจีเดคด้วย
 

 
สำหรับโรงไฟฟ้าขยะของบริษัทจีเดค ที่ร่วมกับเทศบาลนครหาดใหญ่ ถือเป็นโครงการต้นแบบในแผนการจัดการขยะของรัฐบาล คสช.ที่เห็นว่า เทคโนโลยีการเผาขยะมาตรฐานเดียวกับยุโรปสามารถจัดการปัญหาขยะตกค้างเก่าในหลายจังหวัดที่หมักหมมมาร่วม 20-30 ปีได้ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้

แต่ข้อมูลจากเวทีสัมมนานโยบายสาธารณะด้านการจัดการของเสียเมื่อ 29 ส.ค.2560 ที่มูลนิธิบูรณะนิเวศ ในฐานะคนกลางในการแก้ปัญหาจัดขึ้น ได้นำเสนอข้อมูลที่รวบรวมมาจากทุกฝ่าย อีกทั้งลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าขยะเทศบาลนครหาดใหญ่ที่ถูกร้องเรียนจากประชาชนในชุมชนรอบๆ โรงไฟฟ้า หลังจากเปิดดำเนินการไปได้เพียงประมาณ 3 ปี พบว่า ในส่วนของเตาเผาขยะไม่สามารถรองรับขยะที่มีความชื้นสูงได้ และไม่มีระบบไอน้ำสำหรับปั่นไฟเพื่ออบขยะ ในช่วงเริ่มเดินระบบจึงใช้ไม้ชิปยางพาราเป็นเชื้อเพลิงเสริม ซึ่งต้องใช้เวลาเดินเครื่อง 12-16 ชั่วโมง
 

 
อีกทั้งเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชันที่อ้างว่า เป็นเทคโนโลยีการกำจัดขยะที่ทันสมัยตามมาตรฐานยุโรป ก็กลับไม่สามารถรองรับระบบการผลิตของโรงไฟฟ้าขยะของบริษัทจีเดคแห่งนี้ได้ นอกจากนั้น มูลนิธิบูรณะนิเวศอ้างข้อมูลจากการสัมภาษณ์ตัวแทนบริษัท ระบุว่า การจัดการของเสียและขี้เถ้าหนักมีมากกว่าปริมาณที่ได้รับอนุญาตให้กักเก็บไว้ในบริเวณโรงงาน ส่วนตัวโรงงานไม่ได้มีการออกแบบอาคารรับขยะ แต่เนื่องจากขยะมีปริมาณมากและคัดแยกไม่ทัน ทำให้ต้องมีการขยายพื้นที่ไปยัง อ.คลองหอยโข่ง ดังกล่าว และกำลังจะเป็นปัญหาในอีกไม่นานนี้

มูลนิธิบูรณะนิเวศ สรุปปัญหาและอุปสรรคของการจัดการขยะโรงไฟฟ้าของบริษัทจีเดค กับเทศบาลนครหาดใหญ่ไว้ว่า ประการแรกคุณภาพของขยะทำให้โรงงานไม่สามารถเผาขยะได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ขยะชุมชนมีความชื้นสูง ส่งผลให้บริษัทต้องลงทุนเพิ่มเติมในส่วนการจัดการขยะส่วนหน้า ที่สำคัญยังพบขยะติดเชื้อ และขยะจากโรงฆ่าสัตว์ปะปนมากับขยะชุมชน ทำให้มีงบประมาณการลงทุนเพิ่มขึ้นจาก 800 ล้านบาท เป็น 1,000 ล้านบาท
 

 
ประการที่สอง ระบบไม่สามารถเดินเครื่องได้อย่างต่อเนื่อง ต้องหยุดซ่อมเตาเผาและปรับปรุงระบบอยู่บ่อยครั้ง ประการที่สาม มีการใช้เชื้อเพลิงเสริมมากกว่าขยะถึงหนึ่งเท่าตัวในการเผาเพื่อผลิตไฟฟ้า ขณะที่ปัญหามลพิษนั้น เคยมีการตรวจสอบของกรมควบคุมมลพิษก็เกินมาตรฐานควบคุมไปถึง 50 เท่า ทำให้ถูกสั่งปิดให้ปรับปรุงหลายครั้ง

ทั้งโรงไฟฟ้าขยะแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาขยะตกค้างเก่า แต่พบว่าปัญหาขยะตกค้างยังไม่ได้หมดไป แถมยังมีขยะเพิ่มเข้ามาใหม่เรื่อยๆ ในแต่ละวัน เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งที่นำขยะมาทิ้งที่นี่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการขยะ และมีปัญหาการคัดแยกขยะทั้งขยะติดเชื้อ และขยะอันตรายของชุมชน
 


กำลังโหลดความคิดเห็น