โดย... เมธี เมืองแก้ว
สองสามีภรรยาชาวตรัง นางณัฏทัตพร รัตนาสุรพจน์ หรือก้อย วัย 39 ปี สาวนักกฎหมาย มหาวิทยาลัยรามคำแหง และนายสุริยา รัตนาสุรพจน์ วัย 40 ปี หนุ่มนักการตลาด มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้หันมาเอาดีในอาชีพการทำ “ไอศกรีมกะทิสด” ต่อเนื่องกันมายาวนานถึง 7 ปีแล้ว ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มรักสุขภาพ คนทำงาน หรือนักธุรกิจ อันเนื่องมาจากความลงตัวในหลายด้าน
จากนั้นได้นำพืชผักผลไม้ในท้องถิ่นมาแปรรูปเพื่อทำเป็นไอศกรีมรสแปลกใหม่ หวังสร้างทางเลือกให้แก่ลูกค้า เช่น รสทุเรียน มังคุด กระท้อน สละ มะม่วง เสาวรส กล้วย จนสร้างยอดขายให้อย่างสดใส และยิ่งได้รับความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เมื่อลองนำ “จำปาดะ” ผลไม้ชื่อดังของภาคใต้ มาทำเป็นไอศกรีมรสใหม่เป็นเจ้าแรกของไทย ซึ่งปรากฏว่าเป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้าอย่างรวดเร็ว และมียอดขายสูงถึงวันละหลายร้อยถ้วย
ด้วยจุดเด่นของจำปาดะ ที่สองสามีภรรยาจะสั่งซื้อมาจากแหล่งปลูกใหญ่ของ จ.ตรัง ใน อ.ย่านตาขาว และ อ.ปะเหลียน ตรงที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยเฉพาะลูกขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 4-5 กิโลกรัม และกำลังสุกงอมเต็มที่ ซึ่งจะมีเนื้อเยอะมากเป็นพิเศษ เมื่อนำไปฟรีซในตู้เย็นเพื่อช่วยให้น้ำยางแห้งหมดไป และมีรสชาติไม่ขมแล้ว ก็จะนำมาแกะเนื้อเพื่อเอาเมล็ดออก ก่อนปั่นให้ละเอียด และกรองเอาเฉพาะน้ำ
จากนั้นนำไปผสมกับน้ำตาล และกะทิสด แล้วปั่นให้ละเอียดอีกครั้งเป็นเวลาประมาณ 35 นาที ก็จะได้เนื้อไอศกรีมจำปาดะ แต่เพื่อให้เกิดความอร่อยมากยิ่งขึ้น ก็จะนำไปฟรีซในตู้เย็นอีกครั้งเป็นเวลานานถึง 6 ชั่วโมง แล้วนำออกมาแพก เตรียมส่งไปจำหน่ายในราคาขายส่งถ้วยละ 11 บาท และราคาขายปลีกถ้วยละ 15 บาท ซึ่งหากนำไอศกรีมดังกล่าวไปแช่ในที่เย็นจัดจะสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 เดือน โดยที่รสชาติไม่เปลี่ยนแปลง
ทุกวันนี้สองสามีภรรยาจะทำไอศกรีมจำปาดะ และไอศกรีมอื่นๆ รวมประมาณ 12 รส ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนไปบ้างบางรสตามฤดูกาลของผลไม้ แต่สำหรับตัวหลักๆ ก็ยังคงมีให้ทานตลอดทั้งปี เช่น กะทิสดมะพร้าวอ่อน เสาวรส กล้วย ช็อกโกแลต ชาเขียว โดยมีขายทั้งภายในหมู่บ้าน ว.แลนด์เฮ้าส์ 3 เลขที่ 59/42 หมู่ที่ 2 ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง ซึ่งจะมีลูกค้าขับขี่รถมาซื้อกันเป็นประจำ
นอกจากนั้น ยังมีการติดต่อเข้ามาทางเฟซบุ๊ก หรือโทรศัพท์ แล้วจัดส่งเดลิเวอรีไปให้ทุกวันพฤหัสบดี เวลาประมาณ 11.00-14.30 น. โดยจะส่งฟรีถึงบ้านกรณีที่ลูกค้าสั่ง 4 ถ้วยขึ้นไป เฉพาะในเขตเทศบาลนครตรัง ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ที่สั่งซื้อไปจัดเลี้ยงหรือไปขายในโอกาสต่างๆ เพราะได้มีการทำไอศกรีมเป็นถังด้วย พร้อมลองนำไปวางจำหน่ายตามร้านอาหารชื่อดังเพื่อขยายตลาดออกไปให้กว้างขึ้น
เนื่องจากไอศกรีมที่นี่จะเน้นกลิ่น หรือรสจากพืชผักผลไม้มากกว่าความหวานมัน จึงสามารถสร้างยอดขายให้วันละ 3-4 พันบาท หรือสัปดาห์ละกว่า 2 หมื่นบาทเลยทีเดียว ซึ่งก็คุ้มค่ากับความพยายามในการลองผิดลองถูก หรือต่อสู้อดทนต่อสารพัดเรื่อง จนกระทั่งนำมาสู่ความสำเร็จ ทั้งนี้ ผู้สนใจที่จะชิม “ก้อยไอศครีมกะทิสดเมืองตรัง” สามารถติดต่อได้ทางเฟซบุ๊ก “ณัฏทัตพร รัตนาสุรพจน์” หรือโทร. 08-1080-9564