ยะลา - สสจ.ยะลา คาดภายใน 2-4 สัปดาห์จะสามารถควบคุมสถานการณ์ “โรคหัด” เอาไว้ได้ หลังมีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย ขณะที่วัคซีนยังมีเพียงพอ เร่งฉีดให้กลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า กรณีการแพร่ระบาดของโรคหัด จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว จำนวน 10 ราย และมีผู้ป่วยอีกจำนวนหลายร้อยราย ล่าสุด นายแพทย์ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ยอดรวมสะสมผู้ป่วยที่เป็นโรคหัด ขณะนี้อยู่ที่ 890 ราย นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 ถึงปัจจุบัน สาเหตุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการวินิจฉัยโรคได้ชัดเจนขึ้น และแม่นยำมากขึ้น
ในส่วนของมาตรการพิชิตโรคหัดได้กำหนดไว้ 3 มาตรการด้วยกัน คือการควบคุมโรคกลุ่มเสี่ยงระหว่างอายุต่ำกว่า 12 ปี การควบคุมในส่วนของโรงพยาบาล และเป้าหมายในการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเป้าหมายกลุ่มเสี่ยงที่มีอยู่กว่า 8,000 ราย จะต้องเร่งฉีดให้ได้อย่างน้อย 7,000 ราย แต่ในขณะนี้ทำได้เพียง 6,000 กว่ารายเท่านั้น ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการในส่วนนี้ และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดำเนินการอยู่ในทุกพื้นที่ และมาตรการสุดท้าย คือ การวิเคราะห์พื้นที่ที่รับวัคซีนต่ำมากๆ มาจากหลายปัจจัย ทั้งพื้นที่ห่างไกล และพื้นที่ชุมชนในด้านของความเชื่อตามหลักศาสนา ซึ่งในส่วนนี้ทางผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชน จำเป็นต้องชี้แจง และทำความเข้าใจเฉพาะกลุ่ม
นายแพทย์ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า คาดว่าภายใน 2-4 สัปดาห์จะสามารถควบคุมสถานการณ์โรคหัดไว้ได้ เนื่องจากมีการเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง และในส่วนของปริมาณวัคซีนป้องกันโรคนั้น ขณะนี้ได้รับการสนับสนุน และเพียงพอต่อการใช้ ทั้งการได้รับจากกรมควบคุมโรคเขต 12 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเองก็มีการซื้อเพิ่มเติมมาด้วย ขณะที่จากการตรวจสอบผู้ที่เสียชีวิตจากโรคหัดทั้ง 10 รายนั้น พบประวัติด้านสาธารณสุข ว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนโรคหัด และบางรายก็ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน บางรายอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ก็เป็นโรคหัดจนต้องเสียชีวิตในที่สุด
มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าในพื้นที่ จ.ยะลา นั้น พบผู้ป่วยสูงสุดคือ อ.ยะหา จำนวน 204 ราย รองลงมา อ.บันนังสตา 150 ราย อ.กาบัง 129 ราย อ.ธารโต 99 ราย อ.เมืองยะลา 96 ราย อ.กรงปินัง 92 ราย อ.รามัน 71 ราย และ อ.เบตง จำนวน 18 ราย ตามลำดับ เสียชีวิต 10 ราย อ.กรงปินัง 5 ราย อ.บันนังสตา 2 ราย อ.ธารโต 2 ราย และ อ.กาบัง 1 ราย อีกทั้งยังพบผู้ป่วยรายใหม่ เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2561 จำนวน 17 ราย โดยพื้นที่ที่ต้องดำเนินการและเฝ้าระวังเร่งด่วน ได้แก่ อ.ยะหา อ.บันนังสตา และ อ.กาบัง จ.ยะลา
