xs
xsm
sm
md
lg

ศอ.บต.ชี้แจงนโยบายเชื่อมโยงเศรษฐกิจแก่หน่วยงานใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ยะลา - ศอ.บต.เรียกหน่วยงานใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชี้แจงนโยบายการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนบทบาทใหม่สอดรับยุทธศาสตร์การพัฒนา 20 ปีของประเทศ ในชื่อ “การพัฒนาไร้รอยต่อ มิติใหม่การพัฒนาชายแดนใต้”

วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ห้องประชุมศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อชี้แจงนโยบายการขับเคลื่อน และเชื่อมโยงเศรษฐกิจในพื้นที่ ภายใต้งบประมาณในปี 2561 โดยมี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานในที่ประชุม

พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร ระบุว่า สืบเนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจราชการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 การตรวจราชการในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 และการประชุมที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 ได้มอบนโยบาย และข้อสั่งการให้ ศอ.บต. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการเชื่อมโยงทุกมิติโดยไร้รอยต่อ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจให้มีการเชื่อมโยงการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงระบบการตลาดที่ปลายน้ำ และให้มุ่งเน้นการตลาดนำการผลิต รวมทั้งให้มีการเชื่อมโยงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (การศึกษา) ให้สอดคล้องต่อความต้องการแรงงานในภาคเศรษฐกิจด้วยเหตุผลดังกล่าว ประกอบกับการประกาศใช้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

ศอ.บต.จึงได้มีการปรับเปลี่ยนบทบาท ภารกิจ หน้าที่ โดยมีบทบาทหลักในการเชื่อมโยงการพัฒนาทุกมิติ การเสริมและเชื่อมต่องานพัฒนาของหน่วยงานภาคพลเรือนไม่ให้เกิดช่องว่าง การเร่งรัดการดำเนินงานของหน่วยต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย และการสนับสนุน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
 

 
ซึ่งในวันนี้ได้เชิญผู้แทนจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 4 ส่วน จาก 14 เขตพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 5 จังหวัดภาคใต้ เพื่อร่วมหารือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ให้สอดรับต่ินโยบายของภาครัฐ และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้ง 2 ระบบคือ การผลิตและการตลาด โดย 4 ภาคส่วน ประกอบด้วย

1.หน่วยงานของรัฐด้านการพัฒนา/สนับสนุนการพัฒนา อันได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตร กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงดิจิทัล กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม

2.หน่วยงานด้านการศึกษา ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัยในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และวิทยาลัยชุมชน

3.หน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดทั้ง 5 จังหวัด และส่วนภาครัฐที่มีหน้าที่เร่งรัดผลักดันโครงการ ตลอดจนหน่วยงานด้านความมั่นคง

4.หน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ หอการค้าจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส ผู้ประกอบการด้านเกษตรอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นแนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในอนาคต ศอ.บต.จะเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกรูปแบบ
 

 
พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวด้วยว่า เป้าหมายการจัดการประชุมในครั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจแบบไร้ร้อยต่อ ขานรับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยเชิญหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อประชุมหารือร่วมกัน ภาครัฐส่วนเกี่ยวข้องงานพัฒนา (Function) เช่น หน่วยงานด้านการเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ คมนาคม ดิจิทัล หน่วยงานพื้นที่ (Area) เช่น จังหวัดทั้ง 5 จังหวัดชายแดนใต้ หน่วยงานภาคเอกชนที่ร่วมพัฒนา (PPP) เช่น ผู้แทนนิคมอุตสาหกรรมภาคเอกชน หน่วยงานด้านทรัพยากรมนุษย์ หรือสถาบันการศึกษา ผลิตเยาวชนเข้าสู่ภาคแรงงาน และตัวแทนภาคประชาชน ทุกภาคส่วนจะมาระดมหารือการชี้แจงกรอบการพัฒนาเศรษฐกิจ เป้าหมาย ความก้าวหน้า การพัฒนาในอนาคตในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ พื้นที่เมืองต้นแบบ พื้นที่อุตสาหกรรม ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 14 พื้นที่ หารือแนวทางบูรณาการขับเคลื่อนในรูปแบบคณะกรรมการ/อนุกรรมการ หารือในประเด็นอุปสรรคการพัฒนา ในแง่กฎระเบียบ ข้อกฎหมายที่ต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงเร่งด่วน และหารือแนวทางการเชื่อมโยงการนำผลผลิตจากสถานศึกษาสู่การแสวงหาอาชีพ ทั้งที่จบการศึกษาในประเทศ และต่างประเทศ โดยมีผลสัมฤทธิ์ด้านการพัฒนา จากการขับเคลื่อนในลักษณะไร้รอยต่อตามแนวทางนี้ จัดทำแผนงานเชื่อมโยงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจเพื่อให้การบริหารจัดการ และเกิดเป็นแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจไร้รอยต่อ สามารถดำเนินการเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยมี ศอ.บต.เป็นศูนย์กลางนั้น ประกอบด้วย 14 เขตพื้นที่ อันได้แก่
 

 
1.โครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) หรือการนิคมอุตสาหกรรม ใน ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีขนาดพื้นที่ 1,218 ไร่ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเชิง Cluster สำหรับอุตสาหกรรมยางกลางน้ำ และปลายน้ำ โดยพื้นที่ Premium Zone เน้นรองรับอุตสาหกรรมทั่วไป หรือที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมยางพารา โดยเป็นอุตสาหกรรมสะอาดที่ไม่มีมลพิษ (Clean Industry) จำนวน 20 แปลง (438 ไร่) และพื้นที่เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยางพาราขั้นกลาง และขั้นปลาย จำนวน 77 แปลง (779 ไร่)

2.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา (อ.สะเดา) ครอบคลุมใน 4 ตำบล ได้แก่ สะเดา, สำนักขาม, สำนักแต้ว และปาดังเบซาร์ รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 552.3 ตารางกิโลเมตร โดยกำหนดเป้าหมายให้เป็นอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร และการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ

3.เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา และเมืองแห่งอุตสาหกรรมอนาคต ประกอบด้วย ท่าเรือสงขลาแห่งที่ 2, การสร้างรางรถไฟเชื่อมโยงท่าเรือสงขลาแห่งที่ 2, พลังงานไฟฟ้าทางเลือก (Energy Complex) และนิคมอุตสาหกรรมจะนะ

4.พื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา ได้กำหนดเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า และการคมนาคมขนส่งทางน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 700 ไร่ ของพื้นที่ ต.ปากบาง

5.พื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็น 1 ในพื้นที่นำร่อง 3 อำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเมืองต้นแบบสำหรับการพัฒนา โดยกำหนดเป้าหมายให้เป็นเมืองต้นแบบเกษตรอุตสาหกรรมก้าวหน้าผสมผสาน ครอบคลุมทั่วพื้นที่ของอำเภอ
 

 
6.เขตประกอบอุตสาหกรรมบานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เป้าหมายเพื่อการพลิกฟื้นชีวิตเขตประกอบอุตสาหกรรม ที่มีโรงงานประมาณ 323 โรงงาน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 939 ไร่ ของ ต.บานา ให้มีความมั่นคง และสร้างความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้กลับมาโดยเร็ว

7.เขตนิคมอุตสาหกรรมปะนาเระ จ.ปัตตานี กำหนดให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมพื้นฐานระดับครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 173 ไร่ ของพื้นที่ ต.น้ำบ่อ

8.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนราธิวาส ได้กำหนด ต.โคกเคียน อ.เมือง ให้เป็นศูนย์กลางการบริหารกิจกรรมการค้าชายแดนของพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

9.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนราธิวาส ได้กำหนด ต.ละหาร อ.ยี่งอ มีพื้นที่ประมาณ 40.398 ตารางกิโลเมตร (25,248.75 ไร่) โดยกำหนดเป้าหมายเป็น Trade Modern Simply เมืองรองรับกิจกรรมภาคอุตสาหกรรม-ภาคการเกษตร/ศูนย์ลอจิสติกส์

10.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนราธิวาส ได้กำหนด ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ เป็น Culture Barrier @Takbai ศูนย์ลอจิสติกส์ และการขนส่งทางน้ำ/การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
 

 
11.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนราธิวาส ได้กำหนด ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก เป็น Sporting Recreation @Kolok เมืองศูนย์กลางการค้า และท่องเที่ยวชายแดน เน้นการท่องเที่ยวแบบสนุกสนาน และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ พื้นที่ประมาณ 22.50 ตารางกิโลเมตร

12.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนราธิวาส ได้กำหนด ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง เป็น Eco-Roaming @Bala เมืองรองรับการขนส่งชายแดน และเมืองท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

13.พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็น 1 ในพื้นที่นำร่อง 3 อำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเมืองต้นแบบสำหรับการพัฒนา โดยกำหนดเป้าหมายให้เป็นเมืองต้นแบบศูนย์กลางการค้าชายแดนระหว่างประเทศ ครอบคลุมทั่วพื้นที่ของอำเภอ

และ 14.พื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นเมืองต้นแบบสำหรับการพัฒนา ก่อสร้างสนามบินเบตง โดยกำหนดเป้าหมายให้เป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาแบบพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั่วพื้นที่ของอำเภอ

พร้อมกันนี้ ผู้แทนทั้ง 14 เขตเศรษฐกิจจะได้มีการนำเสนอรายงานความก้าวหน้าของโครงการต่างๆ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจทั้ง 14 เขต ภายใต้บทบาท และภารกิจที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงาน ให้มีความสอดคล้องต่อเป้าหมายการพัฒนา พร้อมปัญหา และอุปสรรคในการดำเนินการต่างๆ ต่อไป
 


กำลังโหลดความคิดเห็น