ศูนย์ข่าวภูเก็ต - 2 คนร้ายควงอาวุธปลายแหลมบุกจี้ร้านของชำ ที่ภูเก็ต ได้เงินสดไป 3,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท คาดคนร้ายน่าจะพักอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ พบว่า 1 ในคนร้ายเคยไปซื้อที่ร้านดังกล่าว
เมื่อเวลา 19.15 น. วานนี้ (23 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้รับแจ้งมีเหตุ 2 คนร้ายใช้ป้ายแหลมบุกเข้าไปชิงทรัพย์ที่ร้านขายของชำ เลขที่ 43/66 ซอยทรงคุณ ม.1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ต.คะแนน สมรักษ์ สว.(สอบสวน) สภ.ฉลอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ต.อนุรักษ์ กลางณรงค์ สว.สส.สภ.ฉลอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ฉลอง
จากตรวจสอบกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ ปรากฏภาพคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์สีบรอนซ์ ไม่ทราบเลขทะเบียน มาจอดที่บริเวณหน้าร้านก่อนบุกเข้าไปภายในร้านแล้วใช้อาวุธปลายแหลมจี้ชิงเงินสดไปประมาณ 3,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ก่อนหลบหนีไป
โดยภาพกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ พบว่า คนร้ายคนแรกเป็นชาย รูปร่างผอม สูงประมาณ 150-160 ซม. สวมกางเกงยีนส์ขายาวด้านหน้าขาด สวมเสื้อยีนส์แขนยาว สวมหมวกลายพราง และใส่ผ้าปิดจมูกคาดที่บริเวณปากเพื่ออำพรางใบหน้า เดินเข้าภายในร้านเป็นคนแรก จากนั้นได้วิ่งตรงเข้าไปหาผู้เสียหายขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะเก็บเงินก่อนชักอาวุธปลายแหลมข่มขู่แล้วกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ของผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายตกจากเก้าอี้ ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายคนที่ 2 เป็นชาย รูปร่างผอม สูงประมาณ 140-150 ซม.สวมกางเกงยีนส์ขายาว สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ และสวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ เดินเข้าตามไปรื้อลิ้นชักที่โต๊ะเก็บเงินก่อนหยิบเงินสดไปประมาณ 3,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนีออกจากร้านไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านก่อนขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
พ.ต.อ.ภคยศ ทะนงศักดิ์ ผกก.สภ.ฉลอง กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ฉลอง และพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบปากคำผู้เสียหาย รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดไว้แล้ว ในเบื้องต้น ทราบว่าคนร้ายทั้ง 2 น่าจะเป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เนื่องจากผู้เสียหายยืนยันว่า 1 ในคนร้ายเคยมาซื้อของที่ร้าน และจากลักษณะการแต่งกายน่าจะเป็นคนงานรับจ้างในพื้นที่ใกล้เคียง
โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งติดตามคนร้ายตามแหล่งที่พักคนงาน นอกจากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ลงพื้นที่มาช่วยหาเบาะแสของคนร้ายทั้ง 2 คน คาดว่าประมาณ 2-3 วันจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
